tag:blogger.com,1999:blog-41178580635770489162024-03-13T03:00:31.533-07:00MY PRODUCTIONSTHIS IS MY PRODUCTIONS DURING MY STUDY AT VARAYA ALONGKORNPIANGRAWEEhttp://www.blogger.com/profile/02293285365271587828noreply@blogger.comBlogger6125tag:blogger.com,1999:blog-4117858063577048916.post-73205590320974187282009-03-20T19:37:00.000-07:002009-03-20T20:15:41.323-07:00Malaysia smart school<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgwmiBPWCclv1TuhfHzSCyYIubwJV3vY_B5Tgp0fs-A0dksVHaGeBb9Fwnf25k22xBKy6zAwsLHoTGoenxj7yX13ozOCpR1CIHJvwzJUs0R8VRtoVRdhDM-RTfctv7XiOY8qv3cfi6rTJe4/s1600-h/2.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5315473922806719570" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 240px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgwmiBPWCclv1TuhfHzSCyYIubwJV3vY_B5Tgp0fs-A0dksVHaGeBb9Fwnf25k22xBKy6zAwsLHoTGoenxj7yX13ozOCpR1CIHJvwzJUs0R8VRtoVRdhDM-RTfctv7XiOY8qv3cfi6rTJe4/s320/2.jpg" border="0" /></a><br /><div><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhnM6OiRlwZg2RvQNlVQCD9817ef_nAQAeNLkaBGum7SvGtH6Cd8S6kkre7Kz9gOsZf2_Wm6r_4QUIfyylwJ8_bn4dKlHRBuJ81TPSJpAzcDzhq5al9gzPTnkX9oPOLiLbaIa0lRUfmkM-m/s1600-h/1.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5315473772866694930" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 240px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhnM6OiRlwZg2RvQNlVQCD9817ef_nAQAeNLkaBGum7SvGtH6Cd8S6kkre7Kz9gOsZf2_Wm6r_4QUIfyylwJ8_bn4dKlHRBuJ81TPSJpAzcDzhq5al9gzPTnkX9oPOLiLbaIa0lRUfmkM-m/s320/1.jpg" border="0" /></a><br /><br /><div align="left">Malaysia smart school ได้จัดให้มีการนำมัลติมีเดียมาใช้ในโรงเรียนเช่น การใช้ Internet เป็น ตัวเชื่อมโรงเรียนกับมหาวิทยาลัย ห้องสมุดทางศูนย์การศึกษาทางไกล ศูนย์การฝึกอบรมครู และศูนย์การผลิตสื่อการเรียนการสอนสำหรับคอมพิวเตอร์<br />Smart Schools กับบุคคลที่เกี่ยวข้อง จะสังเกตได้ว่า กลุ่มบุคคลต่าง ๆ 4 กลุ่ม มีบทบาทและหน้าที่เปลี่ยนไปดังนี้<br />1. บิดา มารดา ผู้ปกครอง จะเปลี่ยนจากผู้ดูแลแบบเดิม (passive ontookers) เป็น ผู้มีบทบาทใกล้ชิดกับโรงเรียนเพราะการเรียนของบุตรหลานมากขึ้น (active partners) </div><br /><br /><div align="left">2. ครู จะเปลี่ยนเป็นผู้บรรยาย เป็นผู้จัดการ หรืออยู่อำนวยความสะดวกในการเรียน การสอน ในชั้นเรียน </div><br /><br /><div align="left">3. ผู้บริหาร จะเปลี่ยนเป็นผู้ทำงานกิจวัตรประจำวัน เป็นผู้จัดการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น </div><br /><br /><div align="left">4. นักเรียน จะเปลี่ยนจากผู้รับเพียงฝ่ายเดียว เป็นผู้คิดค้นเอง </div><br /><br /><div align="left"><br />การจัดระบบโรงเรียนแบบ Smart Schools จะคิดถึงเครือข่ายของระบบการศึกษาของเด็กนักเรียนจะเห็นได้ว่าเครือข่ายของระบบการศึกษา จะต้องมีความเชื่อมโยง ทั้งการเรียนการสอน การบริหาร และการติดต่อกับสังคมภายนอก โดยหน่วย ต่าง ๆ ต้องสามารถสื่อสารกันได้คล่องแคล่ว และรวดเร็ว เป็นโรงเรียนผ่านผู้ปกครอง กลุ่มโรงเรียน เพื่อนในชั้น ห้องสมุด มหาวิทยาลัย แหล่งข้อมูล และกลุ่มผู้สนใจอื่น ๆ</div><br /><br /><div align="left"></div><br /><br /><div align="left"> </div><br /><br /><div align="left"></div><br /><br /><div align="left"></div><br /><br /><div align="left"></div><br /><br /><div align="left"></div><br /><br /><div align="left"></div><br /><br /><div align="left"></div><br /><br /><div align="left"></div><br /><br /><div align="left"></div><br /><br /><div align="left"></div><br /><br /><div align="left"></div><br /><br /><div align="left"></div><br /><br /><div align="left"></div><br /><br /><div align="left"></div><br /><br /><div align="center"></div><br /><br /><div align="center"></div><br /><br /><div align="center"></div><br /><br /><div align="center"></div><br /><br /><div align="center"></div><br /><br /><div align="center"></div><br /><br /><div align="center"></div><br /><br /><div align="center"></div><br /><br /><div align="center"></div><br /><br /><div align="center"></div><br /><br /><div align="center"></div><br /><br /><div align="center"></div><br /><br /><div align="center"></div><br /><br /><div align="center"></div><br /><br /><div align="center"></div><br /><br /><div align="center"></div><br /><br /><div align="center"></div><br /><br /><div align="center"></div><br /><br /><div align="center"></div><br /><br /><div align="center"></div><br /><br /><div align="center"></div><br /><br /><div align="center"></div></div>PIANGRAWEEhttp://www.blogger.com/profile/02293285365271587828noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4117858063577048916.post-4509829826768762472008-12-20T22:06:00.000-08:002008-12-20T22:28:38.864-08:00งานวิจัย<span style="color:#cc6600;">บทที่ 1<br /></span><span style="color:#cc6600;">บทนำ<br />ภูมิหลัง</span><br /><br /> <span style="color:#663366;">การคิดเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการดำรงชีพของมนุษย์ซึ่งจะอยู่ร่วมกันในสังคมจากสังคมเล็กไปจนถึงสังคมที่มีความซับซ้อน ความคิดสร้างสรรค์มีมาแต่กำเนิดในตัวมนุษย์ทุกคน เพียงแต่มีน้อยหรือมากที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับประสบการณ์ การได้รับการอบรมเลี้ยงดู การสั่งสมการเรียนรู้ รวมทั้งการได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เล็กไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ การมีความคิดสร้างสรรค์จะทำให้บุคคลนั้น ๆ สามารถปรับเปลี่ยนตัวเองให้รับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆและนำมาปรับใช้ได้อย่างเหมาะสม (ลักขณา สริวัฒน์.2549:132)<br /> ความคิดสร้างสรรค์เป็นสิ่งสำคัญยิ่งและได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางในระยะกว่า 30 ปี ที่ผ่านมา ทั้งนี้เพราะความคิดสร้างสรรค์เป็นความสามารถที่สำคัญของมนุษย์ซึ่งมีคุณภาพมากกว่าด้านอื่น ๆ และเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งในการส่งเสริมความเจริญก้าวหน้าของประเทศชาติ (อารี พันธ์มณี.2540:บทนำ) นอกจากนี้การส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์เป็นหัวใจสำคัญของการเรียนรู้ของเด็ก เพราะในช่วง 6 ขวบแรกของชีวิตเป็นระยะที่เด็กมีจินตนาการสูง ศักยภาพด้านความคิดสร้างสรรค์กำลังพัฒนา หากเด็กได้รับการจัดประสบการณ์หรือกิจกรรมที่เหมาะสมต่อเนื่องเป็นลำดับก็เท่ากับเป็นการวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก (เยาวพา เดชะคุปต์.2542:86) การจัดกิจกรรมที่เหมาะสมและต่อเนื่องกันเป็นลำดับ เท่ากับเป็นการวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ และความคิดสร้างสรรค์สามารถพัฒนาได้ด้วยการสอน ฝึกฝน และฝึกปฏิบัติที่ถูกวิธี และยิ่งส่งเสริมให้เด็กตั้งแต่เยาว์วัยได้เท่าใด ก็ยิ่งเป็นผลดีขึ้นเท่านั้น (วราภรณ์ รักวิจัย.2535:160-161)<br /> การส่งเสริมและพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ให้กับเด็กปฐมวัยสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การจัดกิจกรรมประสบการณ์การสอน การฝึกฝน การทำกิจกรรมศิลปะ การวาดภาพ การให้เด็กฟังนิทาน เล่นเกม การฟังเพลง ปริศนาคำทาย การตั้งคำถามให้เด็กคิดคำตอบหลาย ๆ ทาง การให้เด็กเล่นของเล่นอย่างอิสระ เป็นต้น หลักการสำคัญของวิธีการเหล่านี้เปิดโอกาสให้เด็กได้คิด จินตนาการและแสวงหาคำตอบด้วยตนเอง (มานพ ถนอมศรี.2538:166-169) ปัจจุบันความเจริญก้าวหน้าในด้านต่าง ๆ มีมากขึ้น ทั้งด้านเทคโนโลยี อุตสาหกรรม เศรษฐกิจ และอื่น ๆ (วรรณี โสมประยูร.2530:128) ซึ่งส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของคนเรา เทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามามีบทบาทมากขึ้น อุปกรณ์ในการเล่นต่าง ๆ ของเด็กก็มีหลากหลายมากขึ้น จะเห็นได้จากการเล่นมุมต่าง ๆ ในปัจจุบัน เมื่อเปรียบเทียบกับสมัยก่อน อุปกรณ์การเล่นจะมีเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งสีสันที่แปลกตา ซึ่งเด็กจะชอบสิ่งของที่มีสีสันมากกว่าไม่มีสีสันหรือบางทีก็เป็นตัวต่อพลาสติกที่มีหลากหลายซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของเด็ก (พัฒนา ชัชพงศ์.ม.ป.ป.:91)<br /> กิจกรรมการเล่นมุมบล็อกเป็นกิจกรรมที่เสรีไม่ตายตัว ในการเล่นผู้เล่นสร้างความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับสิ่งแวดล้อมโดยนำประสบการณ์ต่าง ๆ ของตนเองมารวมและปรับให้เข้ากับความรู้เดิม ดังที่ (Jean Piaget,1896-1980 อ้างอิงใน ศรีเรือน แก้วกังวาน.2545:56-57) กล่าวถึง ขั้นตอนการรับรู้ข้อมูลใหม่เกี่ยวกับโลกที่ปรากฏต่อตัวบุคคลนั้น(assimilation)และขั้นตอนการปรับเปลี่ยนแนวความคิดของบุคคลในการรับรู้ข้อมูลใหม่(accommodation) นั่นคือเด็กจะต้องปรับเปลี่ยนสิ่งที่เรียนรู้ใหม่จากสิ่งที่เรียนรู้เดิม กระบวนการเรียนรู้ของใหม่และปรับเปลี่ยนความคิดนี้เป็นพัฒนาการที่เกิดขึ้นร่วมกันและสืบเนื่องต่อกันในพัฒนาการของบุคคล ในทำนองเดียวกัน การเล่นในมุมบล็อกของเด็ก ซึ่งต้องใช้ความคิดและเหตุผลที่จะใช้ไม้บล็อก ก่อให้เกิดสิ่งใหม่ อันเป็นเป้าหมายของการกระทำหรือการเล่นสร้างของเด็ก (เลขา ปิยะอัจฉริยะ.2526:19-21) นอกจากนี้ การเล่นมุมบล็อกยังเป็นการเล่นที่ให้โอกาสเด็กคิดวิธีการเล่นอย่างอิสระ เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง การเปิดโอกาสให้เด็กแสดงออก และใช้ความคิดอย่างเสรีร่วมกับเพื่อน ๆ จึงนับว่าเป็นวิธีการสำคัญที่ช่วยสนองความต้องการตามธรรมชาติ การให้เด็กแลกเปลี่ยนความคิดที่หลากหลายกับเด็กคนอื่น ๆ สิ่งเหล่านี้ จะเป็นองค์ประกอบสำคัญของการคิด ในปัจจุบันครูส่วนใหญ่ไม่เห็นความสำคัญของมุมไม้บล็อก สอดคล้องกับ ราศี ทองสวัสดิ์ที่ได้เสนอถึงปัญหาในการจัดประสบการณ์การเล่นบล็อกว่าปัญหาในการจัดประสบการณ์ในมุมบล็อกของครูคือครูไม่เห็นความสำคัญและจัดให้เด็กได้เล่นน้อย (ราศี ทองสวัสดิ์.2529:19,90-91) นอกจากนี้จากการสังเกตและสอบถามจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเด็กปฐมวัย ทำให้เห็นปัญหาว่า โดยทั่วไปครูจะไม่ได้จัดสิ่งของต่าง ๆ ผสมกับบล็อกเพื่อสร้างความสนใจให้เด็กเกิดการเลียนแบบและจำลองสถานการณ์ที่ตนได้เคยประสบมา รวมทั้งการจัดมุมไม้บล็อกจะไม่มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ใด ๆ คงมีเพียงแต่ไม้บล็อกขนาดต่าง ๆ วางไว้ที่มุมจำเจเหมือนทุกวัน (อิชยา แสงบรรเจิดศิลป์.2538:บทนำ) <br />งานวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับการจัดประสบการณ์บล็อกสำหรับเด็กปฐมวัยเช่น อิชยา แสงบรรเจิด(2538:43) พบว่า เด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดประสบการณ์การเล่นมุมไม้บล็อกแบบเต็มรูปแบบมีความสามารถทางสติปัญญาสูงขึ้น (จุฬารัตน์ อินนุพัฒน์ 2543:52) พบว่า เด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดประสบการณ์การเล่นบล็อกแบบเต็มรูปแบบและเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดประสบการณ์การเล่นมุมบล็อกแบบปกติ มีพัฒนาการการพูดไม่แตกต่างกัน จากการศึกษางานวิจัยยังไม่พบว่ามีผลงานวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับพัฒนาการการเล่นบล็อก เพื่อส่งเสริมพัฒนาการความคิดสร้างสรรค์จึงทำให้ผู้วิจัยสนใจที่จะศึกษาถึงการจัดประสบการณ์การเล่นมุมบล็อกเพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย</span><br /><br /><span style="color:#cc6600;">ความมุ่งหมายของการวิจัย</span><br /><span style="color:#993399;">1. เพื่อศึกษาพัฒนาการการเล่นบล็อกของเด็กปฐมวัย ก่อนและหลังการได้รับการจัดกิจกรรมการเล่นบล็อก<br />2. เพื่อศึกษาพัฒนาการความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย ก่อนและหลังการได้รับการจัดกิจกรรมการเล่นบล็อก</span><br /><br /><span style="color:#cc6600;">ความสำคัญของการวิจัย</span><br /><br /><span style="color:#993399;">ผลของการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ทำให้ทราบถึงพัฒนาการการเล่นบล็อกและพัฒนาการความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเล่นบล็อก และเพื่อเป็นประโยชน์ต่อครูผู้สอน ผู้ปกครอง และผู้ที่เกี่ยวข้องกับนักเรียนในระดับอนุบาลศึกษา สามารถนำวิธีการจัดกิจกรรมไปใช้ในการพัฒนาการเล่นบล็อกและความคิดสร้างสรรค์ของเด็กต่อไป<br /></span><br /><span style="color:#cc6600;">ขอบเขตของการวิจัย<br /></span><span style="color:#993399;">1. ประชากร<br />ประชากรที่ใช้ในการวิจัยค้นคว้าครั้งนี้ เป็นนักเรียน ชาย – หญิง อายุระหว่าง 4 - 5 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นอนุบาลปีที่ 2 ปีการศึกษา 2551 โรงเรียนสาธิตวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์<br />2. กลุ่มตัวอย่าง<br />กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยค้นคว้าครั้งนี้ เป็นนักเรียน ชาย – หญิง อายุระหว่าง 4 - 5 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นอนุบาลปีที่ 2 ปีการศึกษา 2551 โรงเรียนสาธิตวไลยอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์<br />3. ตัวแปรที่ศึกษา<br />3.1 ตัวแปรอิสระ คือ การเล่นบล็อก<br />3.2 ตัวแปรตาม คือ พัฒนาการการเล่นบล็อก และ ความคิดสร้างสรรค์<br /></span><br /><span style="color:#cc6600;">นิยามศัพท์เฉพาะ</span><br /><span style="color:#993399;">1. เด็กปฐมวัย หมายถึง เด็กที่มีอายุระหว่าง 4 – 5 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นอนุบาลปีที่ 2<br />2. พัฒนาการการเล่นบล็อก หมายถึง ความสามารถทางการเล่นบล็อกของเด็ก<br />ปฐมวัย ที่ใช้ชิ้นบล็อกเรียงเป็นสิ่งประดิษฐ์ตามจินตนาการ มีพัฒนาเป็นไปตามลำดับขั้น และจะพัฒนาถึงขั้นที่เหมาะสมกับวัยและวุฒิภาวะของเด็กเองในที่สุด แบ่งเป็น 7 ขั้น ของจอห์นสัน (Johnson ) ดังต่อไปนี้<br />1. ขั้นถือไปมา บล็อกถูกเด็กถือไปมาตามที่ต่าง ๆ หรือบางทีนำมาวางเป็น<br />กองอย่างไม่เป็นระเบียบ เด็กยังไม่รู้จักใช้บล็อกก่อสร้าง อย่างไรก็ดี รู้จักใช้มือหยิบจับสำรวจรูปทรงต่าง ๆ ของบล็อก<br />2. ขั้นกองอย่างเป็นระเบียบ เด็กมักจะก่อเป็นแถวแนวตั้งหรือแนวนอน จะนำบล็อกมา<br />ต่อกับหอคอยสูง อาจวางซ้อนกันอย่างไม่สม่ำเสมอ และอาจล้มได้เมื่อมีการต่อเติมเพิ่ม เด็กจะคิดต่อเป็นรูปต่างๆ แทนที่จะวางติดกันเป็น บางครั้งเด็กอาจก่อสร้างผสมกันทั้งหอคอยและเป็นแถว ขั้นสร้างสะพาน<br />3. ขั้นสร้างสะพาน โดยใช้บล็อกสองก้อน ทำเป็นเสา วางเว้นระยะในแนวตั้ง และเชื่อมเสาทั้งสองก้อนด้วยบล็อกก้อนที่ 3 หลังจากที่เด็กได้เล่นบล็อกไปในระยะหนึ่ง เด็กจะพบปัญหาต่าง ๆ ซึ่งจะเกิดขึ้นในขณะที่ก่อสร้าง <br />4. ขั้นสร้างวงล้อมรอบเสมือนรั้วหรือกำแพง บล็อกจะถูกวางเป็นวงล้อมรอบเสมือนรั้วหรือกำแพง พร้อมทั้งนำความคิด วิธีการ หรือรูปแบบต่าง ๆ ที่เด็กเรียนรู้ผ่านมา มาใช้ประกอบในการก่อสร้าง นอกจากนี้เด็กจะเริ่มมีการต่อเติมรายละเอียด การออกแบบและจำนวนของไม้บล็อกที่ใช้ในการสร้างจะเพิ่มขึ้นตามอายุของเด็ก<br />5. ขั้นรูปแบบและสมมาตร เด็กเริ่มใช้บล็อกก่อสร้างตามจินตนาการ มีการออกแบบก่อสร้างให้ได้สมดุลและตกแต่งให้มีแบบต่าง ๆ กัน การใช้บล็อกก่อสร้างอย่างสมดุล และมีสัดส่วนรับกัน โดยทั่วไปแล้วเด็กยังไม่ให้ชื่อสิ่งที่เด็กสร้าง<br />6. ขั้นช่วงแรกเริ่มของการแสดงออกอย่างเป็นเรื่องเป็นราว เด็กเริ่มให้ชื่อสิ่งที่ตนสร้าง<br />เด็กอาจจะมีการวางแผนให้ชื่อก่อสร้างส่วนใหญ่แล้ว เด็กจะเกิดการเรียนรู้ต่อมาว่าสิ่งก่อสร้างนั้น ๆ สามารถมีชื่อเรียกได้<br />7. ขั้นช่วงหลังการแสดงออกอย่างเป็นเรื่องเป็นราว เด็กจะแสดงจินตนาการโดยใช้สิ่งที่<br />เด็กสร้าง เริ่มมีรายละเอียดซับซ้อนมากขึ้น รั้ว หรือกำแพงถูกสร้างเป็นฝาผนังทับ เด็กจะนำเทคนิคต่าง ๆ ที่ได้เรียนรู้ในระยะต้นมาผสมผสานใช้ในการก่อสร้าง จำนวนบล็อกที่ใช้เพิ่มขึ้นรวมทั้งมีการตั้งชื่อ และแสดงจินตนาการหรือพูดถึงสิ่งที่ตนก่อสร้าง<br />3. กิจกรรมการเล่นบล็อก หมายถึง กิจกรรมที่เด็กเล่นได้อย่างอิสระ ซึ่งมีบล็อก<br />หลายรูปแบบหลายขนาด ผลิตจากวัสดุต่าง ๆ สามารถนำมาใช้ในการต่อเติมได้ตามความคิดและจินตนาการได้แก่<br />1. บล็อกตันหรือยูนิคบล็อก (Unit Block)<br />2. บล็อกกลวง (Hollow Block)<br />3. บล็อกโต๊ะ (Table Block)<br />4. วัสดุสนับสนุนการก่อสร้าง (Supplementary building materials)<br />4. ความคิดสร้างสรรค์ หมายถึง ความสามารถในการทำงานของสมอง ทางการคิด<br />แก้ไขปัญหา คิดได้อย่างลึกซึ้ง หลายทิศทาง สามารถนำความคิดเหล่านั้นไปประยุกต์ใช้กับสิ่งต่าง ๆได้ ซึ่งสามารถวัดได้ด้วยแบบทดสอบความคิดสร้างสรรค์ จากการวาดภาพของ เจลเลน และ เออร์บันประกอบด้วยความคิด 4 ลักษณะคือ<br />a. ความคิดริเริ่ม คือความสามารถของเด็กปฐมวัยในการคิดโดยการเล่นบล็อกได้แปลกใหม่ แตกต่างจากความคิดของผู้อื่น<br />b. ความคิดคล่องแคล่ว คือความสามารถของเด็กปฐมวัยในการคิดโดยการเล่นบล็อกได้ปริมาณมาก<br />c. ความคิดยืดหยุ่น คือความสามารถของเด็กปฐมวัยในการคิดโดยการเล่นบล็อกอย่างอิสระ ก่อสร้างบล็อกได้หลายวิธีการ รูปแบบความคิดละเอียดลออ คือความสามารถของเด็กปฐมวัยในการเล่นบล็อกที่มีรายละเอียดซับซ้อน</span> <br /> <br /><span style="color:#cc6600;">สมมติฐานในการวิจัย</span><br /><span style="color:#cc6600;"><br /></span><span style="color:#993399;">1. เพื่อเปรียบเทียบพัฒนาการการเล่นบล็อกของเด็กปฐมวัย หลังการจัดกิจกรรมการเล่นบล็อกแตกต่างจากก่อนการจัดกิจกรรมการเล่นบล็อก<br />2. เพื่อเปรียบเทียบพัฒนาการความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย หลังการจัดกิจกรรมการเล่นบล็อกแตกต่างจากก่อนการจัดกิจกรรมการเล่นบล็อก</span><br /></span><span style="color:#993399;"><br /></span> <span style="color:#cc6600;"> บทที่ 2<br /></span><span style="color:#cc6600;">เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง</span><br /></span><span style="color:#cc6600;"></span><br /> <span style="color:#993399;">ผู้วิจัยได้ศึกษาค้นคว้าเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ซึ่งประกอบด้วยหัวข้องดังต่อไปนี้<br />1. เอกสารและงานวิจัยเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์<br />1.1 ความหมายของความคิดสร้างสรรค์<br />1.2 ความสำคัญของความคิดสร้างสรรค์<br />1.3 ทฤษฎีความคิดสร้างสรรค์<br />1.4 พัฒนาการทางความคิดสร้างสรรค์<br />1.5 องค์ประกอบของความคิดสร้างสรรค์<br />1.6 องค์ประกอบที่มีอิทธิพลต่อความคิดสร้างสรรค์<br />1.7 บุคคลที่มีความคิดสร้างสรรค์<br />1.8 การส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์<br />1.9 อุปสรรคของการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์<br />2. เอกสารและงานวิจัยเกี่ยวกับการเล่นบล็อก<br /> 2.1 ความหมายและความสำคัญของการเล่นบล็อก<br /> 2.2 พัฒนาการการเล่นบล็อก<br /> 2.3 คุณค่าของการเล่นบล็อก<br /> 2.4 บทบาทครูในการจัดกิจกรรมการเล่นบล็อก<br /> 2.5 งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการเล่นมุมบล็อก</span><br /><br /><span style="color:#cc6600;">1. เอกสารและงานวิจัยเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์</span><br /><span style="color:#993399;">1.1 ความหมายของความคิดสร้างสรรค์<br /> แอนเดอร์สัน (Anderson.1959:7) ได้ให้ความหมายของความคิดสร้างสรรค์ว่า หมายถึงความสามารถของบุคคลในการคิดแก้ปัญหาด้วยความคิดอย่างลึกซึ้ง ที่นอกเหนือไปจากความคิดอย่างปกติธรรมดา เป็นลักษณะภายในตัวบุคคลที่สามารถจะคิดได้หลายแง่มุม และผสมผสานได้ผลิตผลใหม่ที่ถูกต้องสมบูรณ์<br /> เกตเซล (Getzels.1962:450-455) มีความเห็นสอดคล้องกับกิลฟอร์ด เขากล่าวว่า ความคิดสร้างสรรค์เป็นลักษณะการคิดที่หาคำตอบหลาย ๆ คำตอบ เพื่อตอบสนองสิ่งเร้าซึ่งลักษณะเช่นนี้มักจะเกิดขึ้น กับบุคคลที่มีอิสรภาพในการตอบสนองจึงจะสามารถตอบได้มาก<br /> เทเลอร์ (Taylor.1964:108-109) ได้กล่าวว่า ความคิดสร้างสรรค์เป็นความสามารถที่จะย้อนกลับเพื่อการแก้ปัญหาแนวทางใหม่ ซึ่งเสนอว่า ความคิดสร้างสรรค์ประกอบด้วยความคิดคล่องแคล่วในการคิด เป็นการกระตุ้นความคิดจากภายในและร่วมกันใช้ความคิดเหล่านี้ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและความมั่นใจมากขึ้น ความคิดยืดหยุ่นเป็นการพิจารณาปัญหาได้หลายแง่ และความคิดริเริ่มเป็นการพิจารณาสิ่งต่าง ๆ ในทางที่แปลก<br /> ทอแรนซ์ (Torrance ,E.p. :1964 อ้างอิงใน สุวรรณา ก้อนทอง.2547:31 ) ได้ให้ทัศนะว่าผลของความคิดสร้างสรรค์นั้นไม่จำเป็นต้องถึงขั้นสูงสุด ดังเช่น การคิดประดิษฐ์สิ่งใหม่ ๆ หรือการสร้างทฤษฎีที่ต้องใช้ความคิดด้านนามธรรม แต่อาจจะเป็นขั้นหนึ่งขั้นใดใน 5 ขั้นดังต่อไปนี้<br /> ขั้นที่ 1 เป็นขั้นแสดงออกมาอย่างอิสระในด้านความคิดริเริ่ม โดยไม่คำนึงถึงคุณภาพของงาน<br /> ขั้นที่ 2 งานที่ได้ผลผลิต ขั้นนี้ต้องอาศัยทักษะบางอย่าง<br /> ขั้นที่ 3 เป็นงานประดิษฐ์คิดค้นสิ่งใหม่ ๆ ที่ไม่ซ้ำแบบใคร<br />ขั้นที่ 4 เป็นการปรับปรุงงาน ขั้นที่ 3 ให้ดี<br />ขั้นที่ 5 เป็นงานที่เกิดจากการคิดสิ่งที่เป็นนามธรรมขั้นสูงสุด เช่น การค้นพบทฤษฎีหรือหลักการใหม่ ๆ<br />วิชัย วงษ์ใหญ่ (2523:40) ได้ให้ความหมายว่า ความคิดสร้างสรรค์หมายถึง ความสามารถของบุคคลในการแก้ปัญหาอย่างลึกซึ้ง นอกเหนือไปจากลำดับขั้นของการคิดอย่างปกติ เป็นลักษณะภายในของบุคคล ที่จะคิดได้หลายแง่หลายมุม ประสมประสานกันอันได้ผลิตผลใหม่ที่ต้องสมบูรณ์<br />ประสาร มาลากุล ณ อยุธยา (2537:20-21) ได้สังเคราะห์คำอธิบายจากแนวคิดและทฤษฎีต่าง ๆ พบว่า ความคิดสร้างสรรค์มีลักษณะตรงกันอยู่ 3 ลักษณะ คือ<br />1. ความคิดสร้างสรรค์เป็นความคิดแปลกใหม่ แปลก แตกต่างจากเดิมซึ่งอาจเกิดจาก<br />ความคิดปรับปรุงเปลี่ยนแปลงสิ่งที่มีอยู่แล้ว หรือการใช้จินตนาการคิดประดิษฐ์สิ่งใหม่ขึ้นมา<br />2. เป็นการคิดมุ่งแก้ปัญหาที่เกิดจากความต้องการของบุคคล หรือความจำเป็นจาก<br />สิ่งแวดล้อมโดยมีลักษณะของความไวต่อการรับรู้ความรู้สึกถึงปัญหาหรือการคิดค้นปัญหาในแง่มุมหรือรูปแบบที่แตกต่างจากธรรมดา<br />3. เป็นการคิดที่มีคุณค่าเป็นประโยชน์ มิใช่คิดฟุ้งซ่านให้แปลก ๆ แตกต่างแต่ไร้สาระ<br />หรือเป็นอันตราย เป็นการคิดแปลกใหม่ที่เหมาะสมกับการแก้ปัญหา มีทางเป็นไปได้และใช้ประโยชน์ได้จริง หรือความคิดหลายทิศหลายทางที่นำไปสู่กระบวนการคิดประดิษฐ์สิ่งแปลกใหม่ รวมทั้งการคิดการค้นพบ วิธีการแก้ปัญหาใหม่ตลอดจน ความสำเร็จในด้านการคิดค้นพบทฤษฎีต่าง ๆ อันก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางสร้างสรรค์ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม<br />อารี พันธ์มณี (2540:6) กล่าวว่า ความคิดสร้างสรรค์ หมายถึง กระบวนการทางสมองที่คิด ในลักษณะอเนกนัย อันนำไปสู่การคิดค้นพบสิ่งแปลกใหม่ ด้วยความคิดดัดแปลงปรุงแต่งจากความคิดเดิม ปรุงแต่งจากความคิดเดิมผสมผสานกันให้เกิดสิ่งใหม่ ซึ่งรวมทั้งการประดิษฐ์คิดค้นพบสิ่งต่าง ๆ ตลอดจนวิธีการคิดทฤษฎี หลักการได้สำเร็จ<br /><br />1.2 ความสำคัญของความคิดสร้างสรรค์<br />เฮอร์ลอค (Hurlock.1972:319) ได้กล่าวว่า ความคิดสร้างสรรค์ให้ความสนุกสนานความสุขและความพอใจแก่เด็กมาก ไม่มีอะไรที่ทำให้เด็กรู้สึกหดหู่ ได้เท่ากับงานสร้างสรรค์ของเขาถูกตำหนิ ถูกดูถูก หรือถูกว่าสิ่งของที่เขาสร้างนั้นมาเหมือนของจริง<br />เจอร์ซิล (Jersild.1972:153-158) กล่าวว่าความคิดสร้างสรรค์มีส่วนช่วยในการส่งเสริมเด็กในด้านต่าง ๆ ได้แก่<br />1. ส่งเสริมสุนทรียภาพ เด็กจะรู้จักชื่นชมและมีทัศนคติที่ดีต่อสิ่งต่าง ๆ ซึ่งผู้ใหญ่ควรทำ<br />เป็นตัวอย่าง โดยการยอมรับและชื่นชมในผลงานของเด็ก การพัฒนาสุนทรียภาพแก่เด็ก โดยให้เด็กเห็นว่าทุก ๆ อย่างมีความหมาย การส่งเสริมให้รู้จักสังเกตสิ่งที่แปลกจากสิ่งธรรมดาสามัญ ให้ได้ยินสิ่งที่ไม่เคยได้ยินและหัดให้เด็กสนใจในสิ่งต่าง ๆรอบตัว<br />2. เป็นการผ่อนคลายอารมณ์ การทำงานสร้างสรรค์เป็นการผ่อนคลายอารมณ์ ลดความ<br />กดดัน ความคับข้องใจและความก้าวร้าว<br />3. สร้างนิสัยในการทำงานที่ดีขณะที่เด็กทำงานครูควรสอนระเบียบวินัยและนิสัยที่ดีใน<br />การทำงานควบคู่ไปด้วย เช่น หัดให้เด็กรู้จักเก็บของเข้าที่ ล้างมือเมื่อทำงานเสร็จ เป็นต้น<br />4. เป็นการพัฒนากล้ามเนื้อมือ เด็กจะสามารถพัฒนากล้ามเนื้อใหญ่จากการเล่นการ<br />เคลื่อนไหว การเล่นบล็อก และการพัฒนากล้ามเนื้อเล็กจากการตัดกระดาษ ประดิษฐ์ภาพ วาดภาพด้วยนิ้วมือ การต่อภาพ การเล่นกระดานตะปู<br />5. เป็นการเปิดโอกาสให้เด็กได้สำรวจ ค้นคว้า ทดลอง เด็กจะชอบทำกิจกรรมและใช้<br />วัสดุต่าง ๆ ซ้ำ ๆ กัน เพื่อสร้างสิ่งใหม่ ๆขึ้น ครูจึงควรจัดหาวัสดุต่าง ๆ ไว้ให้เด็กมีโอกาสพัฒนาการทดลองของตน เช่น กล่องยาสีฟัน เปลือกไข่และเศษวัสดุเหลือใช้ เพื่อให้เขาฝึกสมมติเป็นนักก่อสร้าง หรือสถาปนิก<br />อารี รังสินันท์ (2532:498) กล่าวว่า ความคิดสร้างสรรค์มีความสำคัญต่อตนเอง และต่อ<br />สังคม ดังต่อไปนี้<br />1. ต่อตนเอง<br />1.1 ลดความเครียดทางอารมณ์ บุคคลที่มีความคิดสร้างสรรค์ ต้องการแสดงออกอย่าง<br />อิสระทั้งความคิดและการปฏิบัติ มีความมุ่งมั่นจริงจังในสิ่งที่คิด หากทำได้ตามที่คิดจะทำให้ลดความเครียด และความกังวล เพราะได้ตอบสนองความต้องการพื้นฐานของตนเอง ซึ่งลักษณะต่าง ๆ ที่บุคคลที่สร้างสรรค์ต้องการตอบสนอง ได้แก่ ความอยากรู้ อยากเห็นความสนใจศึกษาค้นคว้า ต้องการเผชิญกับสิ่งที่ท้าทายความสามารถ เป็นต้น<br />1.2 มีความสนุกสนาน เพลิดเพลินและเป็นสุข บุคคลที่มีความคิดสร้างสรรค์เมื่อได้ทำ<br />ในสิ่งที่ตนคิด ได้เล่น ได้ทดลองกับความคิดจะรู้สึกพอตื่นเต้นกับผลงานที่จะเกิดขึ้นจะทำงานอย่างเพลิดเพลินทุ่มเทอย่างจริงจัง เต็มกำลังเต็มความสามารถและทำอย่างมีความสุขแม้จะเป็นงานหนักแต่จะเป็นเรื่องที่ง่ายและเบา จะเห็นว่าการงานของศิลปิน นักวิทยาศาสตร์ และนักสร้างสรรค์สาขาต่าง ๆ จะใช้เวลาทำงานติดต่อกันครั้งละหลาย ๆชั่วโมง และทำอย่างต่อเนื่องกันหลายปี จนค้นพบบางสิ่งบางอย่างที่สามารถผลิตผลสร้างสรรค์ออกมาได้<br />1.3 มีความภาคภูมิใจและเชื่อมั่นในตนเอง การได้ทำในสิ่งที่ตนคิด ได้ทดลอง ได้<br />ปฏิบัติจริง เมื่องานนั้นได้ประสบความสำเร็จจะทำให้บุคคลเกิดความรู้สึกภาคภูมิใจและเชื่อมั่นในตนเอง หากงานนั้นไม่สำเร็จบุคคลที่มีความคิดสร้างสรรค์จะเข้าใจและยอมรับผลที่เกิดขึ้น ได้เรียนรู้และค้นพบบางสิ่งบางอย่างจากความไม่สำเร็จ ช่วงที่จะเป็นพื้นฐานให้เกิดความมุมานะ พยายาม และมีความกล้าที่จะกล้าที่จะก้าวไปข้างหน้าเพื่อความสำเร็จต่อไป<br />2. ต่อสังคม<br />2.1 ทำให้สังคมเกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะผลงานสร้างสรรค์นำมาซึ่งความแปลก<br />ใหม่ทำให้สังคมเจริญก้าวหน้า ถ้าสังคมหยุดนิ่งจะทำให้สังคมล้าหลัง<br />2.2 ช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ประดิษฐ์กรรมความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ เช่น<br />เครื่องจักร รถยนต์ รถแทรกเตอร์ เครื่องวิดน้ำ เครื่องเก็บผลไม้ เครื่องบด สิ่งเหล่านี้ช่วยในการผ่อนแรงของมนุษย์ได้มาก ช่วยลดความเหนื่อยยาก ลำบากและความทรมานได้มาก ไม่ต้องทำงานหนัก ทำให้ชีวิตมีความสุขมากขึ้น<br />2.3 ช่วยให้เกิดความสะดวกสบายและรวดเร็ว การค้นพบจักรยาน รถยนต์ เรือ<br />เครื่องจักร รถไฟ เครื่องบิน ยานอวกาศทำให้การคมนาคมติดต่อกัน การเดินทางขนส่งสะดวกสบายก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิด ความเข้าใจมากยิ่งขึ้น<br />2.4 ความปลอดภัยในชีวิตและการมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น การค้นพบทางการแพทย์<br />วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทำให้ชีวิตมนุษย์ไม่ต้องเสี่ยงอันตราย การค้นพบยารักษาโรค ป้องกันโรค เช่น การค้นพบวัคซีนต่าง ๆ ทำให้มนุษย์รอดพ้นจากการเป็นโปลีโอ วัณโรค เป็นต้น การค้นพบความรู้ใหม่ ๆ ในเรื่องโภชนาการ การออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพอนามัยต่าง ๆ ทำให้ประชาชนรู้จักปฏิบัติตนในด้านการป้องกัน ดูแลรักษาสุขภาพอนามัยทั้งร่างกายละจิตใจ มีส่วนให้ชีวิตคนยืนยาวขึ้น<br />2.5 ช่วยประหยัดเวลา แรงงานและเศรษฐกิจ ผลการค้นพบในด้านต่าง ๆ ทาง<br />วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การแพทย์ การศึกษาการเกษตร ช่วยให้มนุษย์มีเวลามากขึ้น สามารถนำพลังงานไปใช้ทำอย่างอื่นเพื่อก่อให้เกิดรายได้และเพิ่มพูนเศรษฐกิจได้มากขึ้น มีเวลาหาความรู้ชื่นชมกับความงานของสุนทรียภาพและศิลปะได้มากขึ้น<br />2.6 ช่วยในการแก้ปัญหาสังคม เนื่องจากสภาพสังคมเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จึง<br />จำเป็นต้องคิดหรือหาวิธีใหม่ ๆ มาใช้แก้ปัญหาให้หมดไป<br />2.7 ช่วยให้เกิดความเจริญก้าวหน้าและดำรงไว้ซึ่งมนุษยชาติ ความคิดสร้างสรรค์ด้าน<br />วิทยาศาสตร์การแพทย์ ศิลปะ เทคโนโลยี เศรษฐกิจ การเมือง การปกครอง ช่วยยกมาตรฐานการดำเนินชีวิต ทำให้มนุษย์เป็นสุข และสามารถสร้างสรรค์สังคมให้เจริญขึ้นตามลำดับ<br /><br />1.3 ทฤษฎีความคิดสร้างสรรค์<br />อารี รังสินันท์ (2532:506-510) กล่าวถึง ทฤษฎีเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ ไว้ดังต่อไปนี้<br />1. ทฤษฎีความคิดสร้างสรรค์ตามแนวคิดของนักจิตวิทยาจิตวิเคราะห์<br />ฟรอยด์ จิตแพทย์ชาวเวียนนา เป็นผู้นำกลุ่ม ให้ความเห็นว่า ความคิดสร้างสรรค์เกิดจากความ<br />ขัดแย้งระหว่างแรงขับทางเพศซึ่งผูกผลักดันออกมาโดยจิตใต้สำนึกกับความรู้สึกรับผิดชอบชั่วดีในสังคม ดังนั้นเพื่อให้แรงขับทางเพศได้แสดงออกมา ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น อาจเป็นความขัดแย้งเรื่องไม่พึงพอใจในสภาพของตน จึงต้องการปรับสภาพเดิมให้เป็นไปตามที่ตนพอใจ เช่น รุจิรา เด็กวัยรุ่นอายุประมาณ 15 ปี ไม่พอใจสภาพห้องนอนของเธอ เพราะมันเรียบเธอจึงคิดตกแต่งด้วยการติดภาพประดับตามผนังและโยกย้ายเฟอร์นิเจอร์บางชิ้นให้อยู่ในที่ที่เหมาะสมขึ้น เพิ่มแจกันให้ห้องดูสดชื่นสวยงาม ติดม่านหน้าต่างและอื่น ๆ เป็นต้น ฟอรยด์ มีความคิดว่า ความคิดสร้างสรรค์เกิดจากความขัดแย้งระหว่างแรงขับทางเพศกับความรู้สึกผิดชอบในสังคม แรงขับทางเพศถูกกลั่นกรองออกมาในรูปแบบพฤติกรรมที่สังคมยอมรับเป็นความคิดสร้างสรรค์<br />2. ทฤษฎีโครงสร้างสมรรถภาพทางสมองหรือทฤษฎีโครงสร้างทางสติปัญญา เป็นแนวทาง<br />ของกิลฟอร์ด นักจิตวิทยาชาวอเมริกันได้ศึกษาวิจัยการวิเคราะห์ตัวประกอบ (Factor Analysis) ทางสติปัญญาเป็นเวลาประมาณ 20 ปีโดยค้นพบความคิดเอกนัยและอเนกนัยเป็นความคิดสร้างสรรค์ ความมีเหตุผล และการแก้ปัญหา กิลฟอร์ด ได้แบ่งสมรรถภาพทางสมองออกเป็น 3 มิติ ดังนี้<br /> มิติที่ 1 เนื้อหา (Content) หมายถึง เนื้อหาข้อมูลหรือสิ่งเร้าที่เป็นสื่อในการคิดที่สมองรับเข้าไปคิดแบ่งออกเป็น 4 ลักษณะคือ<br />1. ภาพ (Figural : F) หมายถึง ข้อมูลหรือสิ่งเร้าที่เป็นรูปธรรม หรือเป็นรูปที่แน่นอน ซึ่ง<br />สามารถรับรู้และทำให้เกิดความรู้สึกนึกคิดได้ เช่น ภาพ เป็นต้น<br />2. สัญลักษณ์ (Symbolic : S ) หมายถึง ข้อมูลหรือสิ่งเร้าที่อยู่ในเครื่องหมายต่าง ๆ เช่น<br />ตัวอักษร ตัวเลข โน้ตดนตรี และสัญลักษณ์อื่น ๆ<br />3. ภาษา (Semantic : M) หมายถึงข้อมูลหรือสิ่งเร้าที่อยู่ในรูปของถ้อยคำที่มีความหมาย<br />ต่าง ๆ กันใช้ติดต่อสื่อสารได้ เช่น พ่อ แม่ เพื่อน ชอบ โกรธ เสียใจ เป็นต้น<br />4. พฤติกรรม (Behavior : B) หมายถึงข้อมูลที่แสดงออก กิริยา อาการ การกระทำที่<br />สามารถสังเกตเห็น รวมทั้งทัศนคติ การรับรู้ การคิด เช่น การยิ้ม การหัวเราะ การสั่นศีรษะ การแสดงความคิดเห็น เป็นต้น<br />มิติที่ 2 วิธีการคิด (Operation) หมายถึง มิติที่แสดงลักษณะกระบวนการปฏิบัติงาน หรือกระบวนการคิดของสมอง แบ่งออกเป็น 5 ลักษณะ คือ<br />1. การรับการเข้าใจ (Cognition : C ) หมายถึงความสามารถทางสมองของบุคคลที่ตีความ<br />เมื่อเห็นสิ่งเร้าได้<br />2. การจำ (Memory : M ) หมายถึงความสามารถในการเก็บสะสมความรู้และข้อมูลต่าง ๆ<br />แล้วสามารถระลึกได้เมื่อต้องการ<br />3. การคิดแบบอเนกนัย หรือความคิดกระจาย (Divergent Thinking :D) หมายถึง<br />ความสามารถในการตอบสนองต่อสิ่งเร้าได้หลายรูปแบบ หลายแง่หลายมุม<br />4. การคิดแบบเอกนัยหรือการคิดรวม (Convergent Thinking :N) หมายถึงความสามารถ<br />ในการคิดหาคำตอบที่ดีที่สุดจากข้อมูลหรือสิ่งเร้าที่กำหนด<br />5. การประเมินค่า (Evaluation :E ) หมายถึง ความสามารถของบุคคลที่สามารถหาเกณฑ์<br />ที่สมเหตุสมผล สามารถตัดสินเกี่ยวกับความดีความงามความเหมาะสม สามารถสรุปได้ว่าข้อมูลอื่นใดบ้างที่สอดคล้องกับเกณฑ์ที่ตั้งขึ้น<br />มิติที่ 3 ผลของการคิด หมายถึง มิติที่แสดงผล (Product) ที่ได้จากการทำงาน การจัดการ<br />กระทำ วิธีการคิดจากข้อมูลจากเนื้อหา ผลการคิดออกมาในรูปลักษณะต่าง ๆ กัน ดังนี้คือ<br />1. หน่วย (Unit :U) หมายถึงสิ่งที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัวและแตกต่างไปจากสิ่งอื่น ๆ<br />2. จำพวก (Class :c) หมายถึงประเภท จำพวก หรือกลุ่มของหน่วยที่มีคุณสมบัติหรือ<br />ลักษณะ<br />3. ความสัมพันธ์ (Relation :R ) หมายถึง ผลของการเชื่อมโยงความคิดของประเภทหรือ<br />หลายประเภทเข้าด้วยกัน โดยอาศัยลักษณะบางอย่างเป็นเกณฑ์ ความสัมพันธ์อาจจะอยู่ในรูปของหน่วยกับหน่วย จำพวกกับจำพวก หรือระบบกับระบบ<br />4. ระบบ (System :S ) หมายถุง การเชื่อมโยงสิ่งเร้า โดยอาศัยกฎเกณฑ์ หรือระเบียบ<br />แบบแผนบางอย่าง<br />5. การแปลงรูป (Transformation : T) หมายถึง การเปลี่ยนแปลง ปรับปรุง ดัดแปลง<br />ตีความ ขยายความ ให้นิยามใหม่ หรือการจัดองค์ประกอบของสิ่งเร้าหรือข้อมูลออกมาในรูปใหม่<br />โครงสร้างของสมรรถภาพทางสมอง หรือการวัดเชาว์ปัญญาของกิลฟอร์ด แบ่งออกเป็น<br />120 เซลล์ หรือ 120 องค์ประกอบ โดยในแต่ละตัวจะประกอบด้วยหน่วยย่อยของสามมิติ เรียงจากเนื้อหา วิธีการคิด และผลของการคิด (Content Operation – Product)<br /><br />3. ทฤษฎีความคิดสร้างสรรค์จากแนวความคิดของนักมนุษยนิยม<br />มาสโลว์ และ โรเจอร์ ( Abraham H.Maslow and Rogers อ้างอิงใน สุวรรณา ก้อนทอง.<br />2547:36-38) เป็นผู้มีบทบาทสำคัญของแนวคิดกลุ่มนี้โดยมีความคิดว่า ผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์ เป็นผู้ที่รู้จักตนเองตามสภาพที่เป็นจริง เข้าใจตนเอง ยอมรับตนเองทั้งในส่วนที่บกพร่องและในส่วนดี รู้ทั้งจุดอ่อนและตระหนักในความสามารถของตนเอง พึ่งตนเอง ริเริ่ม และนำตนเองได้ สามารถพัฒนาศักยภาพของตนเองได้อย่างเต็มที่ มีอิสรเสรีภาพในการคิด ตัดสินใจ เลือกทำสิ่งต่าง ๆ โดยไม่ให้ตนเองและผู้อื่นเดือดร้อน มองเห็นศักดิ์ศรีคุณค่าของตนเอง และสามารถสร้างสรรค์ตนเองและสังคมให้เกิดประโยชน์สุข<br /> การที่บุคคลสามารถพัฒนาและไปถึงเป้าหมายดังกล่าว กลุ่มมนุษยนิยมเน้นถึงสถานการณ์ที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ว่า ต้องประกอบด้วย<br />1. ภาวะความปลอดภัยทางจิต<br />1.1 การยอมรับในค่าของคนแต่ละคน<br />1.2 ไม่มีการตีราคา ประเมินและเปรียบเทียบความคิดเห็นและผลงาน ทุกคนทำงาน<br />ด้วยความสบายใจ<br />1.3 ความมั่นใจในตนเอง มีแนวโน้มที่จะตัดสินใจด้วยตนเอง และเต็มใจที่จะ<br />รับผิดชอบในความสำเร็จหรือความล้มเหลวของตนได้<br />2. ภาวะที่มีเสรีภาพในการแสดงออก<br />2.1 มีจิตใจกว้างที่จะเปิดรับประสบการณ์ เต็มใจจะรับรู้ความคิด มีความสนใจต่อ<br />เหตุการณ์ และความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโลก<br />2.2 ปรารถนาที่จะเล่นกับความคิด และสิ่งแปลก ๆ ใหม่ ๆ<br />นักมนุษยวิทยามีความเชื่อว่า บุคคลที่รู้จักคนตรงตามสภาพที่เป็นจริง จะสามารถ<br />พัฒนาศักยภาพของตนให้เต็มที่ ภายใต้ความรู้สึกปลอดภัยทางจิตใจ และการมีเสรีภาพในการแสดงออก จะทำให้เกิดผลผลิตสร้างสรรค์ได้<br />4. ทฤษฎีความคิดสองลักษณะ เป็นทฤษฎีเกี่ยวกับการทำงานของสมองมนุษย์ มีแนวคิด<br />เบื้องต้นว่า เผ่าพันธุ์ของมนุษย์อยู่รอดสืบสายมาจนถึงปัจจุบันได้ เพราะมนุษย์มีสมองอันเชี่ยวชาญ ซึ่งเกิดจากการทำงานของสมองที่มีสองส่วน และจากการค้นคว้าทดลองเกี่ยวกับการทำงานของสมองทั้งสองซีก คือ สมองซีกซ้ายและสมองซีกขวา ซึ่งทำหน้าที่แตกต่างกันอย่าเด่นชัดในการรับรู้ความเป็นไปของสิ่งต่าง ๆ<br /> ความคิดสร้างสรรค์เกิดจากการทำงานของสมองซีกขวา ซึ่งทำหน้าที่คิดจินตนาการความคิด แปลก ๆ ใหม่ ๆ ความซาบซึ้งในดนตรี ศิลปะ วรรณคดี เป็นต้น ส่วนสมองซีกซ้ายเป็นส่วนที่คิดและมีการทำงานออกมาเป็นรูปธรรม เช่น การคิดวิเคราะห์ การหาเหตุผล กฎเกณฑ์<br /> ความคิดสร้างสรรค์เกิดจากการทำงานของสมองซีกขวา จะสามารถแสดงหรือบอกให้ผู้อื่นทราบได้ต้องเกิดจากการรวบรวมวิเคราะห์ และหาถ้อยคำของสมองซีกซ้ายเท่านั้น ดังนั้นหากสมองทั้ง 2 ซีก คือ ซีกซ้าย และซีกขวา ได้พัฒนาอย่างเหมาะสมทั้ง 2 ซีก ก็จะสามารถทำคุณประโยชน์ต่าง ๆ แก่มนุษยชาติอย่างมหาศาล ทฤษฎีความคิดสองลักษณะจึงเป็นอีกทฤษฎีหนึ่งในการจัดและพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของบุคคล<br /> การศึกษาการทำงานของสมองแบ่งออกเป็น 2 ซีก คือ สมองซีกซ้ายและซีกขวา กล่าวคือ สมองซีกขวา จะทำหน้าที่ คิดจินตนาการ คิดสังเคราะห์ และมีแนวโน้มเอียงเข้าหากฎเกณฑ์ของดนตรี และศิลปะ ส่วนสมองซีกซ้าย คิดวิเคราะห์หาเหตุผล โน้มเอียงเข้าหากฎเกณฑ์ทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ฉะนั้น ถ้าสมองได้รับการพัฒนาให้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ทั้ง 2 ด้าน ก็จะสามารถสร้างสรรค์และก่อประโยชน์แก่มนุษยชาติอย่างมหาศาล<br /><br />1.4 พัฒนาการทางความคิดสร้างสรรค์<br />ทอร์แรนซ์ (Torrance.1964:87-88) ได้กล่าวถึง พัฒนาการทางความคิดสร้างสรรค์ ไว้ดังนี้<br /> แรกเกิด – 2 ขวบ <br /> ในระยะขวบแรกของชีวิต เด็กเริ่มพัฒนาการด้านจินตนาการ จะเห็นได้จากที่เด็กเริ่มถามชื่อสิ่งต่าง ๆ การพยายามทำสิ่งต่าง ๆ หรือจังหวะเด็กเริ่มแสวงหาโอกาส ทำสิ่งแปลกใหม่ไปกว่าเดิม โดยมีความกระตือรือร้นที่จะทำ ที่จะคิดสำรวจสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น โดยเริ่มชิม ดม สัมผัส ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ดังนั้น การส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กได้สำรวจ โดยการจัดสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย มีที่ว่าง มีวัสดุอำนวยต่อการคิดการเล่น จะสามารถช่วยให้เด็กพัฒนาความคิดจินตนาการได้ดี<br /> ระยะ 2-4 ขวบ<br /> เด็กเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากประสบการณ์ตรง แล้วถ่ายทอดประสบการณ์ที่รับรู้ โดยการแสดงออกและจินตนาการ เช่น เด็กไม่เข้าใจทำไมไม่ให้เล่นน้ำร้อน เมื่อเด็กมีโอกาสสัมผัสจับต้องน้ำร้อน ก็จะรู้ว่าเป็นสิ่งที่เล่นไม่ได้ ในระยะนี้เด็กจะตื่นเต้นกับประสบการณ์ต่าง ๆ เด็กมีช่วงความสนใจสั้น เริ่มรู้สึกเป็นตัวของตัวเอง และเกิดความเชื่อมั่น แต่การเรียนรู้ใหม่ ๆ อาจทำให้เด็กตกใจ หวาดกลัว ดังนั้น ครู พ่อแม่ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับเด็ก ควรระมัดระวังให้เด็กอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยเสมอ ของเล่นที่ช่วยส่งเสริมจินตนาการของเด็กได้ดี คือ การเล่นที่ไม่มีโครงสร้างตามตัว เช่น ดินเหนียว ดินน้ำมัน ไม้บล็อก<br />ระยะ 4-6 ขวบ<br />ในวัยนี้เป็นวัยที่เด็กมีจินตนาการสูง เด็กเริ่มสนุกสนานกับการวางแผน และการ<br />คาดคะเนในสิ่งที่เกิดขึ้นจากการเล่น เด็กเริ่มเล่นเลียนแบบผู้ใหญ่หรือผู้ใกล้ชิด มีความอยากรู้อยากเห็น เด็กจะพยายามค้นหาข้อเท็จจริง เด็กเริ่มเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น และเริ่มคิดคำนึงถึงการกระทำของคนที่มีผลต่อบุคคลอื่นจากการเล่น และการแสดงบทบาทสมมติตามจินตนาการ ครู พ่อแม่ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับเด็ก ควรส่งเสริมให้เด็กได้เล่นตามลำพัง เพราะการเล่นตามลำพังจะช่วยพัฒนาการจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ของเด็กได้โดยการจัดหาของเล่นต่าง ๆ เช่น วัสดุเหลือใช้ประเภทต่าง ๆ หรือของที่ผู้ใหญ่ไม่ใช้แล้วให้เด็กเล่น<br /><br />1.5 องค์ประกอบของความคิดสร้างสรรค์<br />กิลฟอร์ด (Guilford.1967:145-151) กล่าวถึง องค์ประกอบของความคิดสร้างสรรค์ไว้ดังนี้<br />1. ความคิดริเริ่ม (Originality) หมายถึง ความคิดแปลกใหม่ ไม่ซ้ำกับความคิดของ<br />คนอื่น และแตกต่างจากความคิดธรรมดา ความคิดริเริ่มอาจเกิดจากความคิดจากเดิมที่มีอยู่แล้ว ให้แปลกแตกต่างจากที่เคยเห็น หรือสามารถพลิกแพลงให้เป็นสิ่งที่ไม่เคยคาดคิด ความคิดริเริ่มอาจจะเป็นการนำเอาความคิดเก่ามาปรับปรุงผสมผสานจนเกิดเป็นของใหม่<br />2. ความคิดคล่องแคล่ว (Fluency) หมายถึง ปริมาณความคิดไม่ซ้ำกันในเรื่องเดียวกัน<br />แบ่งเป็น 4 ประเภท คือ<br />2.1 ความคิดคล่องแคล่วทางด้านถ้อยคำ (Word Fluency) เป็นความสามารถใน<br />การใช้ถ้อยคำ<br />2.2 ความคิดคล่องแคล่วทางด้านการโยงสัมพันธ์ (Associational Fluency) เป็น<br />ความสามารถที่จะคิดหาถ้อยคำที่เหมือน หรือคล้ายกัน ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ภายในเวลาที่กำหนด<br />2.3 ความคิดคล่องแคล่วทางการแสดงออก(Expressional Fluency) เป็น<br />ความสามารถในการใช้วลีหรือประโยค และนำคำมาเรียงกันอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ได้ประโยคที่ต้องการ<br />2.4 ความคล่องแคล่วในการคิด (Ideational Fluency) เป็นความสามารถที่จะคิด<br />ในสิ่งที่ต้องการภายในเวลา ที่กำหนด เช่น ให้คิดประโยชน์ของหนังสือพิมพ์ให้ได้มากที่สุดภายในเวลาที่กำหนดให้<br />3. ความคิดยืดหยุ่น (Flexibility) หมายถึง ประเภทหรือแบบของการคิด โดยแบ่งเป็น<br />3.1 ความคิดยืดหยุ่นที่เกิดขึ้นได้ทันที (Spontaneous Flexibility) <br />เป็นความสามารถที่จะพยายามคิดได้หลายทางอย่างอิสระ สามารถจัดกลุ่มได้หลายทิศทางหรือหลายด้าน<br />3.2 ความคิดยืดหยุ่นทางการดัดแปลง (Adapter Flexibility) หมายถึง <br />ความสามารถในการดัดแปลงความรู้หรือประสบการณ์ให้เกิดประโยชน์หลาย ๆ ด้าน ซึ่งมีประโยชน์ต่อการแก้ปัญหา ผู้ที่มีความคิดยืดหยุ่นจะดัดแปลงได้ไม่ซ้ำกัน<br />4. ความคิดละเอียดลออ (Elaboration ) หมายถึง ความคิดในรายละเอียดเป็นขั้นตอน <br />สามารถอธิบายให้เห็นภาพได้ชัดเจน หรือเป็นแผงงานที่สมบูรณ์ขึ้น ความคิดละเอียดลออจัดเป็นรายละเอียดที่นำมาตกแต่ง ขยายความคิดครั้งแรกให้สมบูรณ์ขึ้น<br /><br /><br /><br /><br /><br />1.6 องค์ประกอบที่มีอิทธิพลต่อความคิดสร้างสรรค์<br /> ประสาท อิศรปรีดา (2538 : 8-10) ได้กล่าวถึงองค์ประกอบที่มีอิทธิพลต่อความคิดสร้างสรรค์ว่า ไม่ว่าความคิดสร้างสรรค์จะอยู่ในระดับบุคคล ระดับกลุ่มหรือระดับสังคม จะขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ 2 ส่วนเสมอ คือ<br />1. องค์ประกอบที่เป็นส่วนของความสามารถ (Abilities) หรือทักษะทางการคิด ซึ่งเป็นศักยภาพในตัวบุคคล<br />2. องค์ประกอบทางแรงจูงใจ (Motivation)<br /> องค์ประกอบดังกล่าว จะอยู่ในลักษณะที่เอื้อซึ่งกันและกันเสมอ คือจะต้องมีทั้งศักยภาพทางการคิด มีความอดทน ความอยากรู้อยากเห็น กล้าเสี่ยง ซึ่งเป็นคุณลักษณ์ทางอารมณ์หรือสภาพแรงจูงใจที่เอื้ออำนวยต่อการคิดสร้างสรรค์ควบคู่ไปด้วยเสมอ ดังนั้นหากบุคคลที่มีศักยภาพทางการคิดได้รับการฝึกให้คิด และได้รับแรงกระตุ้นให้เกิดแรงจูงใจที่จะคิด หรือริเริ่มสิ่งใหม่ๆ ความก้าวหน้าในการคิดก็จะเกิดขึ้นได้<br /><br />1.7 บุคคลที่มีความคิดสร้างสรรค์<br />ลักษณะของบุคคลที่มีความคิดสร้างสรรค์ มีรายละเอียด ดังนี้<br /> ทอแรนซ์ (Torrance. 1962 : 81 – 82 ) ได้ศึกษาบุคลิกภาพของคนที่มีความคิดสร้างสรรค์สูง พบว่า คนที่มีความคิดสร้างสรรค์สูงเป็นคนที่มีความคิดแปลกไปจากบุคคลอื่น มีผลงานไม่ซ้ำแบบใคร<br /> โล แวนฟิลด์ (Lowenfield.1957 อ้างอิงใน อารี พันธ์มณี.2546:164 ) กล่าวว่า บุคคลที่มีความคิดสร้างสรรค์จะทำอะไรแตกต่างไปจากคนอื่น ไม่ชอบการทำงานที่ซ้ำซาก ไม่ชอบทำงานตามตารางเวลาที่กำหนดไว้ตายตัว แต่ชอบทำงานตามสบายและยิ่งไปกว่านั้นคนที่ชอบสร้างสรรค์จะไม่ชอบทำงานชิ้นเดียวกับคนอื่น เพราะงานที่บุคคลเหล่านี้ทำเป็นงานที่ต้องแก้ปัญหาโดยตนเองตามลำพัง<br />ครอพเลย์ (Cropley. 1970 : 124) กล่าวว่าผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์จะประกอบด้วย 4 ประการ ดังนี้ คือ ประสบการณ์ที่กว้างขวาง (Procession of Wide Categories) เต็มใจและพร้อมที่จะเสี่ยง (Willingness to take Risks) เต็มใจและพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้า (Willingness to go ahead) และมีความสามารถที่จะยืดหยุ่นความคิดได้อย่างคล่องแคล่วในระดับสูง<br />ไรซ์ (Rice. 1970 : 69) กล่าวถึงลักษณะคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ว่า มีลักษณะดังนี้<br />1. เป็นคนมีไหวพริบ<br />2. มีความสามารถในการประยุกต์ มีการตอบสนองที่แสดงออกถึงความคิดริเริ่ม มีความยืดหยุ่น<br />3. มีอิสระในการคิดและแสดงออก<br />4. สนใจที่จะมีประสบการณ์ต่างๆ และสังเคราะห์สิ่งที่ได้พบเห็นรวมกับความรู้สึกภายในใจ<br />5. มีความสามารถในการรับรู้<br />6. มีความรู้เกี่ยวกับทฤษฎีและเข้าใจในคุณค่าของความงาม<br />7. รู้จักตนเอง เข้าใจถึงจุดมุ่งหมายของสิ่งต่างๆ<br />8. เข้าใจในสภาพของตน กระบวนการที่ตนมีส่วนร่วม<br /><br />อารี พันธ์มณี (2543 : 72) สรุปลักษณะของผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์ดังนี้<br />1. อยากรู้อยากเห็น มีความกระหายใคร่รู้อยู่เป็นนิจ<br />2. ชอบเสาะแสวงหา สำรวจ ศึกษาค้นคว้าและทดลอง<br />3. ชอบซักถามและถามคำถามแปลกๆ<br />4. ช่างสงสัย เป็นเด็กที่มีความรู้สึกแปลกประหลาดใจในสิ่งที่พบ<br />5. ช่างสังเกต มองเห็นลักษณะที่แปลกผิดปกติ หรือช่องว่างที่ขาดหายไปได้ง่ายและรวดเร็ว<br />6. ชอบแสดงออกมากกว่าจะเก็บกด ถ้าสงสัยสิ่งใดจะถามหรือพยายามหาคำตอบโดยไม่รั้งรอ<br />7. อารมณ์ขัน มองสิ่งต่างๆ ในแง่มุมที่แปลก และสร้างอารมณ์ขันอยู่เสมอ<br />8. สมาธิดีในสิ่งที่ตนสนใจ<br />9. สนุกสนานกับการใช้ความคิด<br />10. สนใจสิ่งต่างๆ อย่างกว้างขวาง<br />11. มีความเป็นตัวของตัวเอง<br /> 1.8 การส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์<br />ทอแรนซ์ (Torrance. 1979 อ้างอิงใน อารี พันธ์มณี.2546:166-167) ได้เสนอหลักในการส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ไว้หลายประการ โดยเน้นการปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูและนักเรียน ดังนี้ คือ<br />1. การส่งเสริมให้เด็กถามและให้ความสนใจต่อคำถามที่แปลกๆ ของเด็กและเขายังเน้นว่า พ่อแม่หรือครูไม่ควรมุ่งที่คำตอบที่ถูกแต่เพียงอย่างเดียว เพราะในการแก้ปัญหาแม้เด็กจะใช้วิธีเดาหรือเสี่ยงบ้างก็ควรยอม แต่ควรกระตุ้นให้เด็กได้วิเคราะห์ค้นหาเพื่อพิสูจน์การเดาโดยใช้การสังเกตและประสบการณ์ของเด็กเอง<br />2. ตั้งใจฟังและเอาใจใส่ต่อความคิดแปลกๆ ของเด็กด้วยใจเป็นกลางเมื่อเด็กแสดงความคิดเห็นในเรื่องใด แม้จะเป็นความคิดที่ยังไม่เคยได้ยินมาก่อน ผู้ใหญ่ก็อย่าเพิ่งตัดสินและลิดรอนความคิดนั้น แต่รับฟังไว้ก่อน<br />3. กระตือรือร้นต่อคำถามที่แปลกๆ ของเด็กด้วยการตอบคำถามอย่างมีชีวิตชีวา หรือชี้แนะให้เด็กหาคำตอบจากแหล่งต่างๆ ด้วยตนเอง<br />4. แสดงให้เด็กเห็นว่าความคิดของเด็กนั้นมีคุณค่าและนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ เช่น จากภาพที่เด็กวาด อาจนำไปเป็นลวดลายถ้วยชาม เป็นภาพปฏิทิน บัตร ส.ค.ส. เป็นต้น ซึ่งจะทำให้เด็กเกิดความภูมิใจ และมีกำลังใจที่จะสร้างสรรค์ต่อไป<br />5. กระตุ้นและส่งเสริมให้นักเรียนเรียนรู้ด้วยตนเอง ควรให้โอกาสและเตรียมการให้เด็กเรียนรู้ด้วยตนเอง และยกย่องเด็กที่มีการเรียนรู้ด้วยตนเอง ครูอาจจะเปลี่ยนบทบาทเป็นผู้ชี้แนะ ลดการอธิบายและบรรยายลงบ้าง แต่เพิ่มการให้นักเรียนมีส่วนริเริ่มกิจกรรมด้วยตนเองมากขึ้น<br />6. เปิดโอกาสให้นักเรียนเรียนรู้ ค้นคว้าอย่างต่อเนื่องอยู่เสมอ โดยไม่ต้องใช้วิธีขู่ด้วยคะแนน หรือการสอบ การตรวจสอบ เป็นต้น<br />7. พึงระลึกว่า การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ในเด็กต้องใช้เวลาพัฒนาอย่างค่อยเป็นค่อยไป<br />8. ส่งเสริมให้เด็กใช้จินตนาการของตนเอง และยกย่องชมเชย เมื่อเด็กมีจินตนาการที่แปลกและมีคุณค่า<br />ฮอลล์แมน (Hallman. 1971 : 220 – 224) ให้ข้อเสนอแนะสำหรับครู สรุปได้ดังนี้<br />1. ให้นักเรียนมีโอกาสเรียนรู้ด้วยความริเริ่มของตนเอง จะเป็นการกระตุ้นให้นักเรียนอยากค้นพบและอยากทดลอง<br />2. จัดบรรยากาศในการเรียนรู้แบบเสรีให้นักเรียนมีอิสระในการคิดและการแสดงออกตามความสนใจและความสามารถของเขา ครูไม่ต้องทำตัวเป็นเผด็จการทางความคิด<br />3. สนับสนุนให้นักเรียนเรียนรู้เพิ่มมากขึ้นด้วยตนเอง<br />4. ยั่วยุให้นักเรียนคิดหาความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลในรูปแบบที่แปลกใหม่จากเดิม ส่งเสริมความคิดจินตนาการ ส่งเสริมให้คิดวิธีแก้ปัญหาแปลกๆ ใหม่ๆ<br />5. ไม่เข้มงวดกับผลงานหรือคำตอบที่ได้จากการค้นพบของนักเรียน ครูต้องยอมรับว่าความผิดพลาดเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้<br />6. ยั่วยุให้นักเรียนคิดหาวิธีการหาคำตอบหรือแก้ปัญหาหลายๆ วิธี<br />7. สนับสนุนให้นักเรียนรู้จักประเมินผลสัมฤทธิ์และความก้าวหน้าของตนด้วยตนเอง มีความรับผิดชอบและรู้จักประเมินตนเอง พยายามหลีกเลี่ยงการใช้เกณฑ์มาตรฐาน<br />8. ส่งเสริมให้นักเรียนเป็นผู้ไวต่อการรับรู้ในสิ่งเร้า<br />9. ส่งเสริมให้นักเรียนตอบคำถามประเภทปลายเปิดที่มีความหมายและไม่มีคำตอบที่เป็นความจริงแน่นอนตายตัว<br />10. เปิดโอกาสให้นักเรียนได้เตรียมความคิดและเครื่องมือในการแก้ปัญหาด้วยตนเอง<br /><br /> 1.9 อุปสรรคของการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์<br />ซิมเบอร์ก (Simberg. 1971. อ้างอิงใน อารี พันธ์มณี .2546 : 169-173) ได้กล่าวถึง อุปสรรคของความคิดสร้างสรรค์ไว้ดังนี้<br />ในการพัฒนาความสามารถในการคิดสร้างสรรค์นั้นควรคำนึงถึงอุปสรรคที่สำคัญ 3 ประการ คือ อุปสรรคด้านการรับรู้ (Perceptual Block) อุปสรรคด้านวัฒนธรรม (Cultural Block) และอุปสรรคด้านอารมณ์ (Emotional Block) มีดังนี้<br />1. อุปสรรคด้านการรับรู้ (Perceptual Block) ได้แก่ การที่คนเราไม่สามารถมองเห็นปัญหาที่แท้จริงได้ เป็นเหตุให้การแก้ปัญหานั้นดำเนินไปโดยปราศจากเป้าหมายที่ชัดเจนและแน่นอน ตัวอย่างของอุปสรรคประเภทนี้ ได้แก่<br />1.1 ความยากในการจำแนกปัญหาที่แท้จริงจากปัญหาทั่วไป เปรียบเสมือนนายแพทย์ที่พยายามรักษาคนไข้โดยไม่ทราบสาเหตุของโรคที่แท้จริงหรือเปรียบเสมือนนายช่างแก้ไขเครื่องยนต์ติดขัดโดยไม่ทราบจุดบกพร่องของเครื่องยนต์<br />1.2 การมองปัญหาแคบเกินไป ขาดการพิจารณาสภาพแวดล้อมของปัญหานั้น ซึ่งอาจเป็นด้วยข้อจำกัดในการรับรู้ก็ได้ เช่น มีเลข 9 อยู่ 4 ตัว จะทำอย่างไรจึงจะให้มีค่าเท่ากับ 100 ได้ (คำตอบ 99+9/9)<br />1.3 ความไม่สามารถที่จะให้คำจำกัดความของนิยามหรือปัญหาเป็นเหตุให้สื่อความเข้าใจให้ไม่ตรงกันได้<br />1.4 ความไม่สามารถที่จะใช้ประสาทสัมผัสทั้งหลายในการสังเกต ซึ่งมักเข้าใจว่า การสังเกตนั้นเป็นการใช้เพียงตามองเท่านั้น แต่แท้จริงแล้วสามารถใช้ประสาทสัมผัสทั้งหมด คือ ตา หู จมูกและกายสัมผัส ช่วยในการสังเกตด้วย<br />1.5 ความยากที่มองเห็นปัญหาความสัมพันธ์ของวัตถุ เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกันน้อย (Remote Relationship) ทำให้ไม่สามารถหาทางแก้ปัญหาได้<br />1.6 การมองข้ามสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวหรือสิ่งที่เด่นชัด ซึ่งบางครั้งความเคยชินกับปัญหาหรือสถานการณ์ที่คุ้นเคยอาจทำให้มองข้ามประเด็นที่น่าสนใจไปได้<br />1.7 ความล้มเหลวในการจำแนกเหตุและผล มีหลายสถานการณ์ที่ยากแก่การแยกแยะได้อย่างชัดเจนว่า อะไรเป็นเหตุอะไรเป็นผลแก่กัน เช่น จากการสังเกตพบว่า นักศึกษาที่เรียนอ่อนมักจะสูบบุหรี่มากกว่านักเรียนที่เรียนเก่ง จึงเป็นปัญหาว่าการสูบบุหรี่เป็นสาเหตุต่อการเรียนอ่อนหรือไม่หรือการเรียนอ่อนเป็นสาเหตุให้เกิดความเครียดทำให้สูบบุหรี่มากขึ้น หรือทั้งการเรียนอ่อนและการสูบบุหรี่เป็นผลร่วมจากสาเหตุอื่น จึงไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย เป็นต้น ผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์จะไม่ด่วนสรุปสาเหตุและผลจนกว่าจะรู้แน่ชัดเสียก่อน<br />2. อุปสรรคด้านวัฒนธรรม (Cultural Block) เป็นผลเนื่องจากกฎเกณฑ์ทางสังคมซึ่งเป็นสิ่งกำหนดให้บุคคลต้องมีพฤติกรรมอยู่ในกรอบระเบียบแบบแผน ทำให้มีผลต่อการสกัดกั้นความท้าทายต่อการคิดค้น และความเปลี่ยนแปลงอันเป็นคุณลักษณะด้านความคิดสร้างสรรค์ของบุคคล ตัวอย่างของ อุปสรรค์นี้ ได้แก่<br />2.1 ความต้องการทำตามแบบอย่างในกรอบที่ไม่แตกต่างจากผู้อื่น ทำให้เกิดรูปแบบพฤติกรรมและการมองปัญหาที่คล้ายคลึงกัน การหาวิธีแก้ปัญหา ก็ยึดติดกับระเบียบแบบแผนมากเกินไป ทำให้บางครั้งไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ตัวอย่างเช่น ให้ลากเส้นตรง 4 เส้น ให้ผ่านจุดที่กำหนดให้ 9 จุด โดยไม่ยกปากกาหรือดินสอ และไม่ขีดซ้ำเส้นตรงที่ขีดแล้ว<br />ผู้ที่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้มักจะยึดติดในกรอบความคิดที่ว่าจะต้องลากเส้นตรงภายในกรอบของจุดทั้ง 9 นี้เท่านั้น ทั้งๆ ที่ปัญหาไม่ได้กำหนดไว้เลย<br />2.2 การเน้นความประหยัดและให้สามารถปฏิบัติได้มากเกินไป ซึ่งมีผลทำให้เกิดการตัดสินใจที่รวดเร็วเกินไป ทำให้บุคคลไม่พยายามที่จะใช้ความคิดของตนในสิ่งที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำกับของเดิม เพราะการกระทำเช่นนี้ต้องลงทุนทั้งเวลาและเงินมากขึ้น ซ้ำไม่แน่ใจในความสำเร็จด้วย<br />2.3 ความกลัวที่จะเป็นคนไม่สุภาพเรียบร้อย กลัวผู้อื่นเห็นว่าตนเป็นบุคคลที่น่ารำคาญ จึงทำให้ขาดความอยากรู้อยากเห็น ไม่กล้าที่จะซักถามหรืออภิปรายในสิ่งที่ตนยังไม่เข้าใจ ทำให้กลายเป็นคนที่ขาดจิตสำนึกแห่งการสืบค้น<br />2.4 การมุ่งการแข่งขันหรือความคิดร่วมมือกันมากเกินไป บุคคลทั่วไปมักคิดว่าการร่วมมือกันนั้นแต่ละคนต้องลดความคิดของตนเองลง เพื่อให้สอดคล้องกับความคิดของกลุ่มหรือลดความขัดแย้งลง ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ไม่ขัดแย้งความจริง ความร่วมมือหมายถึง การทำงานร่วมกับบุคคลอื่นได้โดยต้องสามารถอธิบายหรือชี้แจงความคิดของตนให้ผู้อื่นเข้าใจหรือยอมรับได้ ส่วนการมุ่งแข่งขันกันจนเกินไปนั้นก็มีผลทำให้บุคคลมองข้ามเป้าหมายที่แท้จริงของงานนั้นไป โดยจะมุ่งเอาชนะแต่เพียงอย่างเดียว ทำให้ละเลยความคิดริเริ่มของตนเอง<br />2.5 การยึดมั่นในสถิติมากเกินไป การยึดมั่นหรือเชื่อในตัวเลขโดยไม่พิจารณาตัวแปรอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้เข้าใจสภาพความเป็นจริงที่ผิดไปได้ ตัวอย่างเช่น จากรายงานอุณหภูมิใน 1 ปี ของเมืองหนึ่ง เท่ากับ 65 องศาฟาเรนไฮ ถ้าพิสูจน์ตามตัวเลขนี้จะเข้าใจว่าเมืองนี้อุณหภูมิน่าอยู่เมื่อพิจารณาให้ลึกลงไปกลับพบว่าเมืองนี้มีอุณหภูมิตั้งแต่ -22 องศาฟาเรนไฮ ถึง 114 องศาฟาเรนไฮ ความจริงเช่นนี้จะเห็นว่าเมืองไม่น่าอยู่เลย ซึ่งแตกต่างจาก การพิจารณาค่าอุณหภูมิเฉลี่ยในตอนแรก<br />2.6 ความยากในการสรุปอ้างอิง พฤติกรรมของบุคคลเป็นสิ่งที่ยากต่อการสรุปอ้างอิง เพราะแต่ละคนก็มีพฤติกรรมเป็นเอกลักษณ์ของตนเองซึ่งแตกต่างกัน จึงเป็นการยากในการพิจารณามอบหมาย งานที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลได้<br />2.7 การยึดมั่นเหตุผลและความจริงมากเกินไปหรือการหลงเชื่อความจริงในอดีตมากเกินไป ก็มีผลทำให้บุคคลขาดความคิดสร้างสรรค์ได้ อย่างเช่น ถ้าหากเราเชื่อว่าพาหนะที่เบากว่าอากาศเท่านั้นที่สามารถจะบินได้ จนบัดนี้ยังไม่มีเครื่องบินใช้เป็นแน่<br />2.8 การขาดความประนีประนอมในความคิดเห็นที่ไม่สอดคล้องกันเข้าด้วยกัน ส่วนมากแล้วบุคคลจะมีแนวโน้มที่จะต่อต้าน หรือไม่ยอมรับความคิดที่ไม่ตรงกับตนโดยสิ้นเชิง และจะยอมรับความคิดที่ตรงกับตนในทันที ลักษณะเช่นนี้มีผลทำให้เกิดความคิดใหม่ๆ ขึ้นมา<br />2.9 การมีความรู้สึกเกี่ยวกับของข่ายงานที่ปฏิบัติมากหรือน้อยเกินไป บุคคลที่มีความรู้น้อยหรือแคบเกินไปก็ไม่สามารถนำมาอภิปรายและสร้างสรรค์ให้เกิดความคิดใหม่ๆ ขึ้นมา เช่นเดียวกับ บุคคลที่มีความรู้มากหรือเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ ก็มักจะมีความรู้สึกว่าความคิดของตนนั้นถูก<br />2.10 การมีความเชื่อว่าความคิดฝันเป็นสิ่งที่ไร้ค่า บุคคลจึงไม่ยอมรับฟังความคิดฝันในสิ่งที่แปลกๆ ใหม่ๆ โดยเห็นว่าเป็นเรื่องเพ้อฝัน ไร้สาระ ซึ่งความจริงแล้วประดิษฐ์กรรมใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นนั้นส่วนใหญ่ก็มักได้คิดจากความคิดฝันมาก่อนนั่นเอง<br />3. อุปสรรคด้านอารมณ์ (Emotional Block) จัดเป็นอุปสรรคที่สำคัญประการหนึ่ง ทั้งนี้เพราะอารมณ์ของบุคคล อันได้แก่ ความกลัว ความโกรธ ความรักและความเกลียด เป็นต้น นับว่ามีความสำคัญมากต่อปัญหาและเหตุผลสองสิ่งนี้เปรียบเสมือนหน้าหัวและก้อยของเหรียญ คือ ถ้าหงายเหรียญหน้าใดขึ้นอีกหน้าก็ต้องคว่ำลง นั่นคืออารมณ์จะเป็นตัวสกัดกั้นความคิดและเหตุผล ตลอดจนความคิดสร้างสรรค์ของบุคคล ตัวอย่างของอุปสรรคประเภทนี้ ได้แก่<br />3.1 ความกลัวที่จะทำผิดหรือทำในสิ่งที่ผู้อื่นมองว่าโง่ ด้วยความกลัวเช่นนี้จึงทำให้สูญเสียความคิดดีๆ ไป เพราะเจ้าของความคิดไม่กล้าที่จะเสนอความคิดนั้นออกมา ด้วยเกรงว่าจะถูกผู้อื่นมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ<br />3.2 การด่วนที่จะตัดสินใจรับความคิดอันแรกที่เกิดขึ้น โดยไม่เปิดโอกาสคิดหาแนวทางอื่นที่แตกต่างออกไป ความจริงความคิดอันแรกนั้น อาจจะไม่ใช่ความคิดที่ดีที่สุดเสมอไป อาจจะมีความคิดอื่นที่ดีกว่าก็ได้ ถ้ายอมรับเสียตั้งแต่ความคิดอันแรกแล้วก็จะเป็นการสกัดกั้นความคิดอื่นๆ ไป<br />3.3 การยึดติดกับความคิดของตน บุคคลมักจะยึดติดกับความคิดความเชื่อของตนและยากที่จะเปลี่ยนแปลงความคิดหรือข้อเสนอแนะของบุคคลอื่น และมักต่อต้านความคิดที่ไม่ตรงกับความคิดของตน<br />3.4 ความอดทนอดกลั้นต่อการแสวงหาวิธีแก้ปัญหาที่ยาก บุคคลทั่วไปมักจะมีความมุ่งหวังในผลสำเร็จในงานของตนไว้สูง เมื่องานนั้นประสบปัญหาก็จะเกิดความคับข้องใจและมุ่งแก้ปัญหานั้นแบบหัวชนฝา ไม่พยายามที่จะรวบรวมสถิติและความคิดในการหาหนทางอื่นๆ<br />3.5 ความต้องการความมั่นคงปลอดภัยสูงเกินไป ซึ่งเป็นไปตามธรรมชาติ แต่ถ้าความต้องการสูงเกินไปก็ทำให้เป็นโรคประสาทได้และเมื่อทุกคน ต่างก็มุ่งไปที่ความมั่นคงปลอดภัยของตัวเองแล้ว จะมีผลให้ละเลยต่อโอกาสที่จะรับรู้หรือพิจารณาในสิ่งที่ใหม่อย่างน่าเสียดาย<br />3.6 ความกลัวต่อการนิเทศ แนะนำและไม่ไว้วางใจเพื่อนร่วมงานความรู้สึกเช่นนี้ทำให้บุคคลขาดความเชื่อมั่นและความไว้วางใจซึ่งกันและกัน อันเป็นพื้นฐานสำคัญต่อการสกัดกั้นความสามารถในการแก้ปัญหาและทำกิจกรรมสร้างสรรค์<br />3.7 การขาดความพยายามที่จะแก้ปัญหาโดยตลอดจนสำเร็จ บุคคลส่วนมากชอบที่จะดำเนินโครงการใหม่ๆ และให้ความสนใจกับโครงการนั้นในระยะสั้นๆ ในระยะยาวบุคคลมักจะขาดการเอาใจใส่ติดตามแก้ปัญหาและหาวิธีการใหม่ๆ มาดำเนินให้โครงการนั้นสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี<br />3.8 การขาดแรงจูงใจในการแก้ปัญหา สาเหตุเนื่องจากขาดผู้เห็นด้วยหรือขาดผู้สนใจในแนวทางแก้ปัญหาที่ตนได้เสมอ อาจเป็นเพราะเขาไม่แน่ใจแนวทางแก้ปัญหานั้นหรือมีความรู้ความเข้าใจไม่ดีพอ จึงมีผลทำให้ผู้เสนอแนวทางที่แก้นั้นขาดแรงจูงใจที่จะคิดต่อไป<br /><br /></span><span style="color:#993399;"><span style="color:#cc6600;"> 2. เอกสารและงานวิจัยเกี่ยวกับการเล่นบล็อก</span><br /></span> <span style="color:#cc6600;"> 2.1 ความหมายและความสำคัญของการเล่นบล็อก</span><br /> <span style="color:#993399;">จากเอกสารที่ค้นพบจะมีผู้ที่กล่าวถึงไม้บล็อกดังนี้<br /> เยาวพา เดชะคุปต์ (2528:36 อ้างอิงใน อิชยา แสงบรรเจิดศิลป์.2538:28) ได้กล่าวถึง ไม้บล็อกว่าเป็นอุปกรณ์การเล่นอย่างหนึ่งของเด็กซึ่งทำจากไม้ มีขนาดและรูปร่างแตกต่างกัน สามารถใช้ได้หลายจุดมุ่งหมาย โดยกล่าวถึงชนิดของไม้บล็อกว่ามี 3 ชนิดคือ<br />1. บล็อกชุด (Unit Block)<br />2. บล็อกกลวง (Hollow Block)<br />3. บล็อกเล่นบนโต๊ะ (Table Block)<br />Essa (1996:540 อ้างอิงใน ศุภกุล เกียรติสุนทร.2549:151) บล็อก คือ อุปกรณ์การเล่นชนิด<br />หนึ่งซึ่งนำความสนุกสนานแก่ผู้เล่นอย่างไร้ขีดจำกัดบล็อกมีหลายรูปแบบหลายขนาด ผลิตจากวัสดุต่าง ๆ สามารถใช้งานอย่างเดียวหรือนำไปประกอบรวมเข้ากับอุปกรณ์อย่างอื่น โดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 4 ประเภท<br />1. บล็อกตันหรือยูนิคบล็อก (Unit Block)<br />2. บล็อกกลวง (Hollow Block)<br />3. บล็อกโต๊ะ (Table Block)<br />4. วัสดุสนับสนุนการก่อสร้าง (Supplementary building materials)<br />บล็อกแต่ละประเภทมีลักษณะและการใช้งานแตกต่างกันดังต่อไปนี้<br />1. บล็อกตันหรือยูนิคบล็อก (Unit Block)<br />บล็อกตันหรือยูนิคบล็อกทำจากไม้เนื้อแข็ง มีความทนทานออกแบบให้มีรูปทรงทาง<br />เรขาคณิตที่ประกอบด้วยชื่อและรูปทรงต่าง ๆ<br />2. บล็อกกลวง (Hollow Block)<br />ขนาดใหญ่ กลวง ทนทาน เหมาะที่จะใช้เป็นของเล่นทั้งในร่มและกลางแจ้งเป็น<br />คุณสมบัติของบล็อกประเภทนี้ ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้เด็กมีประสบการณ์ที่แตกต่างจากบล็อกที่มีขนาดเล็กกว่า รูปลักษณ์ที่กำหนดใหม่นี้ส่งผลให้เด็กต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเกี่ยวกับการจัดการใช้กล้ามเนื้อเล็กในการหยิบ การแบก การวางซ้อน ก่อสร้างผลงานที่ต้องอาศัยทักษะการวางโครงสร้าง และทักษะการสร้างสิ่งก่อสร้าง เด็กจะหยิบ แบก กองบล็อก เป็นระเบียบเพื่อสร้างสิ่งก่อสร้างขึ้นและมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งที่สร้างขึ้นราวกับเป็นสิ่งก่อสร้างจริง<br /><br />3. บล็อกโต๊ะ (Table Block)<br />บล็อกประเภทนี้มีรูปร่างใกล้เคียงกับยูนิคบล็อก แต่มีขนาดเล็กประมาณ 2-3 เท่าของ <br />ยูนิคบล็อก จึงเหมาะที่จะจัดหาให้เด็กปฐมวัยเล่นในพื้นที่เล็ก ๆ เช่นบนโต๊ะ เป็นต้น บล็อกโต๊ะมีสีธรรมชาติของไม้เมเปิลซึ่งเป็นวัตถุดิบดั้งเดิมของการผลิต ต่อมามีการวิวัฒนาการสีสันโดยนิยมทาสีสด เช่น ฟ้า เขียว แดง เหลือง ส้ม เป็นต้น ทั่ว ๆ ไปแล้วจะขายเป็นชุด ๆ ละ 30 – 60 ชิ้น<br />4. วัสดุสนับสนุนการก่อสร้าง (Supplementary building materials)<br />ผู้ใหญ่บางคนอาจเคยสรรหาตัวต่อสร้างสรรค์มาให้เด็กเล่น โดยที่ไม่รู้ว่าแท้จริงเป็น<br />บล็อกประเภทหนึ่ง ในที่นี้ขอแยะวัสดุสนับสนุนการก่อสร้างหรือบล็อกประเภทนี้ตามแหล่งที่มาซึ่งแยกออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้<br />4.1 บล็อกประดิษฐ์ขึ้นเอง ควรมีน้ำหนักเบาเพื่อให้เด็กสามารถยกและต่อซ้อนกันได้<br />อาจจะใช้วัสดุหลากชนิดประกอบขึ้น เช่น กล่องกระดาษแข็งชิ้นใหญ่ ๆ หรือกล่องนมขนาดต่าง ๆ โดยตัดด้านบนของกล่องนมออก แล้วยัดไส้ด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์หลังจากนั้นสวมทับด้วยกล่องนมอีกกล่องที่ใหญ่กว่า ตัดด้านบนออกเป็นก้น เพื่อทำให้บล็อกที่สร้างขึ้นมีลักษณะปิดทับทุกด้าน พับรอยต่อด้วยกระดาษกาวหรือเทปเพื่อกันการเลื่อนหลุด แล้วจึงห่อด้วยกระดาษ บล็อกประดิษฐ์ชนิดนี้ใช้เล่นชั่วคราว เพื่อเพิ่มสื่อของเล่นที่หลากหลายให้แก่เด็ก แต่ไม่ควรนำมาทดแทนยูนิคบล็อก บล็อกกลวง และบล็อกโต๊ะ<br />4.2 ตัวต่อพลาสติก ที่รู้จักในนามเครื่องหมายการค้า เลโก้(legos) ดูโพล์ (dupols)<br />เป็นต้น คนไทยส่วนใหญ่รู้จัก เลโก้มากที่สุด บล็อกที่มีชื่อทางการค้าเหล่านี้จะมีลักษณะทำนองเดียวกัน เป็นตัวต่อที่สามารถประสานต่อกันได้อย่างลงตัว หรืออาจต่อกันได้ด้วยแรงแม่เหล็ก วัสดุทำมาจากพลาสติกหรือไม่มักมีสีสดใสเพื่อดึงดูดความสนใจของเด็ก มีขนาดและรูปร่างต่าง ๆ เหมาะสำหรับเด็กนำมาต่อเล่นตามจินตนาการ บางบริษัทผลิตอุปกรณ์เสริม เช่น ตุ๊กตาคน ล้อรถ ตุ๊กตาสัตว์ เป็นต้น เพื่อช่วยให้การเล่นสมมติของเด็กสมบูรณ์ขึ้น<br /> <br /> <span style="color:#cc6600;"> 2.2 พัฒนาการการเล่นบล็อก</span><br /> การเล่นบล็อกของเด็กปฐมวัยสะท้อนถึงการคิดคำนึงของเด็ก เด็ก ๆ จะใช้ชิ้นบล็อกต่อเรียงเป็นสิ่งประดิษฐ์ตามจินตนาการ ผลงานจากการเล่นบล็อกจึงเป็นสิ่งวิเศษที่สุดที่ได้จากความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก พัฒนาการการเล่นบล็อกไปตามลำดับขั้น เด็กโตที่ไม่เคยเล่นบล็อกจะพัฒนาการเล่นตามลำดับขั้น เช่นเดียวกับเด็กเล็ก เด็กที่มีอายุมากกว่าจะพัฒนาผ่านขั้นต้น ไปได้เร็วกว่าเด็กที่มีอายุน้อย และจะพัฒนาถึงขั้นที่เหมาะสมกับวัย วุฒิภาวะของเด็กเองในที่สุด ( พัชรี ผลโยธิน,2547:8 อ้างอิงใน ศุภกุล เกียรติสุนทร.2549:161) จอห์นสัน (Johnson ,1933:9-25 อ้างอิงใน ศุภกุล เกียรติสุนทร.2549:161) ได้แบ่งพัฒนาการการเล่นบล็อกออกเป็น 7 ขั้นดังต่อไปนี้<br />1. ขั้นถือไปมา<br />ขั้นที่ 1 ถือไปมา (carrying) บล็อกถูกเด็กถือไปมาตามที่ต่าง ๆ หรือบางทีนำมาวางเป็น<br />กองอย่างไม่เป็นระเบียบ พฤติกรรมนี้จะพบในเด็กที่มีอายุน้อย เด็กยังไม่รู้จักใช้บล็อกก่อสร้าง อย่างไรก็ดีประสบการณ์นี้ให้โอกาสเด็กทำความคุ้นเคยกับไม้บล็อก รู้จักใช้มือหยิบจับสำรวจรูปทรงต่าง ๆ ของบล็อก<br />2. ขั้นกองอย่างเป็นระเบียบ<br />ขั้นที่ 2 กองอย่างเป็นระเบียบ (stacking) เด็กอายุระหว่าง 2-3 ขวบ เริ่มใช้บล็อก<br />ก่อสร้าง เด็กมักจะก่อเป็นแถวแนวตั้งหรือแนวนอน เด็กในขั้นนี้มีพฤติกรรมกระทำซ้ำ ๆ ซึ่งพฤติกรรมนี้เป็นคุณลักษณะอย่างหนึ่งของเด็ก ที่กำลังเรียนรู้การเคลื่อนไหวและภาษา เช่น เราจะพบว่าเด็กชอบปีนป่ายบันไดขึ้นลงซ้ำ ๆ กันหรือขว้างลูกบอลและเมื่อได้คืนมา จะขว้างกลับไปซ้ำแล้วซ้ำอีก เช่นเดียวกับการเล่นบล็อก เด็กจะนำมาต่อกับหอคอยสูง อาจวางซ้อนกันอย่างไม่สม่ำเสมอ และอาจล้มได้เมื่อมีการต่อเติมเพิ่มจำนวนให้สูงขึ้น หรือต่อเป็นแถวยาวตามแนวนอน ในระยะต่อมาเมื่อเด็กเริ่มใช้มือได้คล่องขึ้น เด็กจะคิดต่อเป็นรูปต่างๆ แทนที่จะวางติดกันเป็นแถว เด็กอาจจะเว้นระยะห่างระหว่างไม้บล็อก หรือเลือกบล็อกขนาดต่าง ๆ มาต่อ หรือเลือกใช้เพียงขนาดเดียว บางครั้งเด็กอาจก่อสร้างผสมกันทั้งหอคอยและเป็นแถว ประสบการณ์ของเด็กในขั้นนี้จะทำให้เด็กค้นพบการสร้างฝาผนังจากหอคอย และสร้างพื้นจากการต่อบล็อกเป็นแถว<br />3. ขั้นสร้างสะพาน<br />ขั้นที่ 3 สร้างสะพาน (bridging) การสร้างสะพานโดยใช้บล็อกสองก้อน ทำเป็นเสา<br />วางเว้นระยะในแนวตั้ง และเชื่อมเสาทั้งสองก้อนด้วยบล็อกก้อนที่ 3 หลังจากที่เด็กได้เล่นบล็อกไปในระยะหนึ่ง เด็กจะพบปัญหาต่าง ๆ ซึ่งจะเกิดขึ้นในขณะที่ก่อสร้าง ปัญหาที่พบระยะแรกคือ การสร้างสะพาน การที่เด็กวางไม้บล็อก 2 ก้อนในแนวตั้ง โดยเว้นช่องว่างระหว่างไม้และทำหลังคาให้ช่องว่างด้วยบล็อกอีกก้อนนั้น เด็กจะพบปัญหาคือ ไม่สามารถต่อสะพานได้ บางครั้งเป็นสิ่งยากที่เด็กจะวางไม้ ก้อนให้ห่างกันได้ระยะพอเหมาะ เพื่อให้ไม้ก้อนที่สามารถเชื่อมเป็นสะพานได้ เด็กที่เล็กมาอาจจะยอมแพ้ เด็กบางคนอาจพยายามสร้างแต่ไม่สำเร็จ เด็กบางคนต่อสะพานสำเร็จในลักษณะต่างกันออกไป แต่เมื่อใดก็ตามที่เด็กค้นพบวิธีหรือเทคนิคในการก่อสร้าง เด็กจะเริ่มทำซ้ำแล้วซ้ำอีก รวมทั้งผสมเทคนิคต่าง ๆ ที่เรียนรู้ในระยะแรก ๆ เข้าด้วยกันโดยมีทั้งหอคอยและสะพาน<br />4. ขั้นสร้างวงล้อมรอบเสมือนรั้วหรือกำแพง<br />ขั้นที่ 4 การสร้างวงล้อมรอบเสมือนรั้วหรือกำแพง (enclosures) บล็อกจะถูกวางเป็น<br />วงล้อมรอบเสมือนรั้วหรือกำแพง ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่เด็กจะวาง บล็อกชนิดกันเป็นรั้วหรือล้อมรอบพื้นที่ โดยไม่เหมือนช่องว่างระหว่างบล็อก เป็นไปได้ที่เด็กอาจใช้เวลาทั้งเดือนในการสร้าง แต่เมื่อใดก็ตามที่เด็กทำได้ เด็กจะก่อสร้างซ้ำแล้วซ้ำอีกพร้อมทั้งนำความคิด วิธีการ หรือรูปแบบต่าง ๆ ที่เด็กเรียนรู้ผ่านมา มาใช้ประกอบในการก่อสร้าง นอกจากนี้เด็กจะเริ่มมีการต่อเติมรายละเอียด ทำให้เด็กมองเห็นบล็อกเป็นอุปกรณ์การก่อสร้างที่สามารถนำมาต่อเข้าด้วยกันได้ นอกจากนี้จินตนาการ การออกแบบและจำนวนของไม้บล็อกที่ใช้ในการสร้างจะเพิ่มขึ้นตามอายุของเด็ก<br />5. ขั้นรูปแบบและสมมาตร<br />ขั้นที่ 5 รูปแบบและสมมาตร(patterns and symmetry) เมื่อเด็กเริ่มใช้บล็อกก่อสร้าง<br />ตามจินตนาการ มีการออกแบบก่อสร้างให้ได้สมดุลและตกแต่งให้มีแบบต่าง ๆ กัน แสดงให้เห็นว่าบล็อกเป็นวัสดุที่สร้างความพอใจให้เด็ก ในขั้นนี้เราจะสังเกตเห็นการใช้บล็อกก่อสร้างอย่างสมดุล และมีสัดส่วนรับกัน เมื่อด้านใดด้านหนึ่งถูกสร้างขึ้นมาอีกด้านจะถูกสร้างขึ้นด้วยในลักษณะเดียวกัน โดยทั่วไปแล้วเด็กยังไม่ให้ชื่อสิ่งที่เด็กสร้าง<br />6. ขั้นช่วงแรกเริ่มของการแสดงออกอย่างเป็นเรื่องเป็นราว<br />ขั้นที่ 6 ช่วงแรกเริ่มของการแสดงออกอย่างเป็นเรื่องเป็นราว (early representation)<br />เด็กเริ่มให้ชื่อสิ่งที่ตนสร้าง ในระยะแรกก่อนหน้านี้ เด็กอาจใช้ชื่อเพราะครูตั้งคำถามให้ชื่อเพราะ สังเกตเห็นเด็กที่โตกว่าทำ ดังนั้นในเด็กอายุ 3 ขวบ ครูอาจจะพบการตั้งชื่อสิ่งที่เด็กสร้างได้ ส่วนเด็กโตการให้ชื่อเป็นเรื่องปกติ เด็กอาจจะมีการวางแผนให้ชื่อก่อสร้างส่วนใหญ่แล้ว เด็กจะเกิดการเรียนรู้ต่อมาว่าสิ่งก่อสร้างนั้น ๆ สามารถมีชื่อเรียกได้<br />7. ขั้นช่วงหลังการแสดงออกอย่างเป็นเรื่องเป็นราว<br />ขั้นที่ 7 ช่วงหลังการแสดงออกอย่างเป็นเรื่องเป็นราว (later representation) เด็กจะ<br />แสดงจินตนาการโดยใช้สิ่งที่เด็กสร้าง ซึ่งเด็กถือเสมือนเป็นสัญลักษณ์ของสิ่งก่อสร้างจริง ๆ สิ่งที่เด็กสร้างแสดงให้เห็นถึงประสบการณ์ที่เด็กจดจำ หรือระลึกได้ ครูจะสังเกตเห็นว่าหอคอยสะพานต่าง ๆ เริ่มมีรายละเอียดซับซ้อนมากขึ้น รั้ว หรือกำแพงถูกสร้างเป็นฝาผนังทับ เด็กจะนำเทคนิคต่าง ๆ ที่ได้เรียนรู้ในระยะต้นมาผสมผสานใช้ในการก่อสร้าง จำนวนบล็อกที่ใช้เพิ่มขึ้นรวมทั้งมีการตั้งชื่อ และแสดงจินตนาการหรือพูดถึงสิ่งที่ตนก่อสร้าง<br /><br /> ถ้าครูได้สังเกตการณ์เล่นบล็อกของเด็กอายุ 2-6 ปี จะพบว่าพัฒนาการการเล่นบล็อกเป็นไปตามลำดับขั้นช้าเร็วแตกต่างกันออกไปในเด็กแต่ละคน ทัศนคติของครูที่มีต่อบล็อกมีความสำคัญต่อการที่เด็กจะให้ความสนใจในการเล่นบล็อก ครูที่แสดงความกระตือรือร้นให้ความสนใจอย่างจริงจัง จะพบความก้าวหน้าและพัฒนาการ การเล่นบล็อกของเด็กในแต่ละขั้นดังกล่าวมาแล้ว</span><br /><span style="color:#993399;"><br /> <span style="color:#cc6600;"> 2.3 คุณค่าของการเล่นบล็อก</span><br /> การเล่นบล็อกของเด็ก ๆ มีคุณค่ามหาศาล พอที่จะสรุปเป็นประเด็นต่าง ๆ ได้ดังต่อไปนี้<br />1. ส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย ในการเล่นบล็อกเด็กจะต้องนำไม้บล็อกออกจากชั้นที่<br />เก็บเข้าที่ ยก แบก เพื่อเคลื่อนย้ายบล็อกชิ้นใหญ่ เด็กจึงได้พัฒนากล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็ก การสร้างสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ เช่น กำแพง หอคอย เป็นต้น เด็กต้องอาศัยความสมดุลจึงเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างมือกับตา (Beaty,1992:48อ้างอิงใน ศุภกุล เกียรติสุนทร.2549:167) ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการเขียนหนังสือต่อไป</span><br /><span style="color:#993399;"><br />2. ส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์ การเล่นบล็อกช่วยให้เด็กได้ระบายความรู้สึกที่มีอยู่ใน<br />ใจ และสร้างความรู้สึกที่ดีต่อตนเองและสิ่งแวดล้อมดังนี้<br />2.1 เด็กได้แสดงความรู้สึกต่าง ๆ ออกมา อาจจะเป็นความก้าวร้าว ความกลัว ความ<br />กังวลใจ เนื่องจากในมุมบล็อก เด็กได้รับอนุญาตให้ส่งเสียงดังได้ เล่นได้เต็มที่ เด็กบางคนถูกเลี้ยงดูอย่างเข้มงวดจะพังทลายสิ่งก่อสร้างของตนอย่างสนุกสนาน และจะสร้างขึ้นใหม่แล้วทำลายให้พังอีก (ลัดดา นีละมณี.2531:101อ้างอิงใน ศุภกุล เกียรติสุนทร.2549:168) อันเป็นการช่วยระบายความรู้สึกในใจที่เป็นทางลบออกมา<br />2.2 ความรู้สึกที่ดีต่อตนเองและสิ่งแวดล้อม เป็นผลพวงจากการเล่นบล็อกของเด็ก<br />หากได้รับการส่งเสริมการเล่นที่ถูกต้อง โดยธรรมชาติของเด็กจะมีความปรารถนาควบคุมการกระทำต่าง ๆ ของตนเอง และควบคุมสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวด้วยการโยกย้าย หยิบโน่นหยิบนี้ สับเปลี่ยนหรือกำลังควบคุมสิ่งเหล่านั้นหรือสร้างขึ้นมาใหม่ ทำเสียงดัง แสดงความเป็นเจ้าของ (ลัดดา นีละมณี.2531:101-102อ้างอิงใน ศุภกุล เกียรติสุนทร.2549:168) การเล่นบล็อกจะช่วยให้เด็กรู้สึกว่ามีความสามารถควบคุมสิ่งต่าง ๆ ได้ การกระทำของตนเองบรรลุความสำเร็จ เพิ่มความสามารถในการตระหนักรู้เกี่ยวกับร่างกายของตนเอง มีความรู้สึกพึงพอใจในผลงานของตนเอง รู้สึกต่อตนเองในทางที่ดีส่งผลให้มองโลกในด้านดี</span><br /><span style="color:#993399;"><br />3. ส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคม การเล่นบล็อกมีประโยชน์ต่อทักษะทางสังคม เช่น เพิ่ม<br />ทักษะปฏิสัมพันธ์กับเพื่อน ผู้ใหญ่ และสิ่งแวดล้อม เรียนรู้วิธีการหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันเล่น รู้จักแบ่งปัน ประนีประนอม ต่อรอง ร่วมมือหมู่เพื่อนเพื่อที่วางแผนว่าจะสร้างอะไร ทำอย่างไร จากการวิจัยของณัฎฐาพร พงษ์สิงห์(2539:49) ที่ศึกษาเปรียบเทียบพฤติกรรมชอบสังคมของเด็กอายุ 5-6 ปี ที่ได้รับการจัดประสบการณ์การเล่นบล็อกกลางแจ้งอย่างมีแบบแผนจำนวน 15 คน และกลุ่มที่เล่นบล็อกกลางแจ้งอย่างอิสระจำนวน 15 คน พบว่า พฤติกรรมการชอบสังคมของเด็กทั้งสองกลุ่มนี้แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระดับ .01 โดยหลังการทดลองเด็กทั้งสองกลุ่มมีพฤติกรรมทางสังคมสูงกว่าก่อนทดลอง</span><br /><span style="color:#993399;"><br />4. ส่งเสริมพัฒนาการทางด้านภาษา จากการวิจัยของจุฬารัตน์ อินนุรัตน์ (2543:50-51) ที่<br />ศึกษาเปรียบเทียบพัฒนาการการพูดของเด็กอายุ 5-6 ปี ที่เล่นมุมบล็อกแบบเต็มรูปแบบ จำนวน 15 คน กับกลุ่มเล่นมุมบล็อกแบบปกติ 15 คน พบว่า พัฒนาการทางการพูดของเด็กทั้งสองกลุ่มไม่แตกต่างกัน และทั้งสองกลุ่มมีพัฒนาการทางการพูดหลังการทดลองทุกสัปดาห์สูงขึ้นกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 นอกจากนี้การเล่นบล็อกยังช่วยให้เด็กได้ใช้ภาษาสื่อสารแสดงออกทางความคิด ความเข้าใจของตน เพิ่มพูนคำศัพท์ และเรียนรู้เรื่องทิศทางอันเป็นพื้นฐานของการอ่านเขียนหนังสือ</span><br /><span style="color:#993399;"><br />5. ส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญา จากการวิจัยของ อิชยา แสงบรรเจิดศิลป์ (2538:43-<br />44) ที่ศึกษาเปรียบเทียบการเล่นไม้บล็อกของเด็กอายุ 3-4 ปี ที่ได้รับการจัดประสบการณ์เล่นบล็อกแบบเต็มรูปแบบมีความสามารถทางสติปัญญาสูงกว่าเด็กที่เล่นไม้บล็อกแบบปกติทั้งนี้เพราะการเล่นไม้บล็อกแบบเต็มรูปแบบเปิดโอกาสให้เด็กได้ใช้ประสาทสัมผัสกับสื่อต่าง ๆ มากขึ้น สื่อที่มาจากวัสดุหลากหลายที่ครูจัดสับเปลี่ยนหมุนเวียนอย่างสม่ำเสมอ อันเป็นการกระตุ้นให้เด็กเกิดการเรียนรู้จากอุปกรณ์ที่นำมาประกอบการเล่นบล็อกที่นำมาจากวัสดุต่างชนิดเช่นกล่องกระดาษ รถ ตุ๊กตาคนจำลองที่นำมาจากพลาสติก รวมทั้งน้ำหนัก รูปทรง ผิวของวัสดุเหล่านี้ซึ่งมีผลต่อการพัฒนาประสามสัมผัสแบบบูรณาการ (Wellhousen &Kieff.2001:167อ้างอิงใน ศุภกุล เกียรติสุนทร.2549:169) อันนำไปสู่การสร้างความคิดรวบยอดทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ เช่น การจำแนกสี ขนาด รูปร่าง การนับจำนวน การวัด เป็นต้น อีกทั้งได้พัฒนาทักษะการคิดในขณะที่เด็กเล่นบล็อก เช่น การคิดวางแผน คิดด้วยเหตุผล คิดเชิงตรรกะ คิดคาดคะเน คิดตัดสินใจ และคิดแก้ปัญหา เป็นต้น<br /><br />6. ส่งเสริมพัฒนาการทางความคิดสร้างสรรค์ จากการวิจัยของสิริกุล จารุจินดา<br />(2526:41อ้างอิงใน ศุภกุล เกียรติสุนทร.2549:169) ที่ศึกษาเกี่ยวกับอิทธิพลของการเล่นประเภทเสริมต่อพบว่า การเล่นบล็อกของเด็กปฐมวัยมีผลในทางบวกกับคะแนนความสามารถทางความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งสอดคล้องกับความคิดของบิวตี้ (Beaty.1992:48-49อ้างอิงใน ศุภกุล เกียรติสุนทร.2549:169) ที่ได้จากการสังเกตเด็กปฐมวัยขณะเล่นไม้บล็อกพบว่า ความคิดสร้างสรรค์ของเด็กเกิดจากการใช้จินตนาการและการเล่นบทบาทสมมติ โดยเด็กจะนำข้อมูลที่มีอยู่มาสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ขึ้น ด้วยธรรมชาติของเด็กวัยนี้ที่มีความสามารถสร้างรูปแบบใหม่ ๆ ความคิดใหม่ คำใหม่ สิ่งใหม่ต่าง ๆ ด้วยตัวของเด็กเอง ประจวบกับลักษณะของไม้บล็อกไม่มีโครงสร้างที่ตายตัวจึงเอื้ออำนวยให้เด็กนำมาสร้างสิ่งต่าง ๆ ตามที่จินตนาการขึ้น ถ่ายทอดออกมาเป็นรูปธรรมสิ่งที่เด็กสร้างขึ้นมีลักษณะง่าย ๆ ไม่สลับซับซ้อนแต่สร้างสรรค์ สร้างจากประสบการณ์และสิ่งแวดล้อมรอบตัว</span><br /><span style="color:#993399;"><br /> <span style="color:#cc6600;"> 2.4 บทบาทครูในการจัดกิจกรรมการเล่นบล็อก<br /></span> ครูเป็นบุคคลสำคัญในการส่งเสริมพัฒนาการการเล่นบล็อกและความคิดสร้างสรรค์ของเด็กให้สูงขึ้น ครูจึงมีบทบาทในการจัดกิจกรรมการเล่นบล็อกดังต่อไปนี้<br />1. บรรยากาศที่สร้างสรรค์และผ่อนคลาย<br />สภาพแวดล้อมเป็นสิ่งที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ครูจึงต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัด<br />สภาพแวดล้อมที่กระตุ้นการเรียนรู้อย่างเหมาะสมต่อการเล่นบล็อกแต่ละประเภทของบล็อก การสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายก็เป็นส่วนหนึ่งของการจัดสภาพแวดล้อม โดยปกติเด็กจะเล่นบล็อกในช่วงเวลากิจกรรมเสรี เด็กใช้เวลาประมาณ 30 นาที ในการวางแผนและเล่นก่อสร้าง และประมาณ 15 นาทีในการเก็บบล็อกเข้าที่ ครูไม่ควรกำหนดเวลาตายตัวสั่งให้เด็กเก็บทันที โดยไม่สนใจความต้องการของเด็ก ครูควรเตือนเด็กล่วงหน้าประมาณ 5 นาที ด้วยคำสั้น ๆว่า “เกือบถึงเวลาเก็บบล็อกแล้ว” หรือ “เกือบถึงเวลาดื่มนมแล้ว” (นิตยา ประพฤติกิจ.2536:106อ้างอิงใน ศุภกุล เกียรติสุนทร.2549:174) แล้วให้เวลาเพียงพอในการเก็บและสร้างความร่วมมือให้เกิดขึ้น ครูอาจร้องเพลงเกี่ยวกับการเก็บของเข้าที่ การที่ครูปฏิบัติเช่นนี้สม่ำเสมอ ช่วยให้เด็กเข้าใจเกี่ยวกับเวลา ระเบียบวินัย ตลอดจนความรับผิดชอบ<br />2. การสร้างกฎระเบียบในการเล่นบล็อกของเด็ก<br />ครูและเด็กร่วมกันสร้างกฎระเบียบในการเล่นบล็อก กฎพื้นฐานที่เด็กควรตกลง<br />ร่วมกัน ได้แก่<br />2.1 แบ่งปันบล็อกกับเพื่อน ๆ ไม่หยิบบล็อกเป็นของตนเองครั้งละมาก ๆ<br />2.2 ไม่ใช้บล็อกทำร้ายซึ่งกันและกัน<br />2.3 ไม่ขว้างปาไม้บล็อก<br />2.4 ไม่ผลัก ปัด หรือล้มบล็อกที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว ทั้งที่เป็นของตนเองและผู้อื่น<br />2.5 ไม่หยิบบล็อกของเพื่อนหรือเข้าเล่นสิ่งก่อสร้างของเพื่อน ถ้าไม่ได้รับอนุญาต<br />2.6 ไม่เดินบนไม้บล็อก หรือเดินเข้าอาณาเขตของการเล่นบล็อกของเพื่อน อันเป็นการ<br />รบกวนการเล่นก่อสร้างของเพื่อน<br />2.7 นั่งเล่นในบริเวณที่ครูจัดให้ โดยครูทำเครื่องหมายอาจติดเทปบนพื้นหรือปูเสื่อ<br />แสดงอาณาเขต โดยช่วงระหว่างอาณาเขตห่างจากที่เก็บบล็อกประมาณ 1-3 ฟุต เพื่อให้โอกาสเด็ก ๆ เข้าไปหยิบบล็อกได้สะดวก<br />2.8 กำหนดความสูงของการก่อสร้างโดยคำนึงถึงความปลอดภัย อายุ และ<br />ประสบการณ์ ของเด็ก ควรระบุความสูงให้ชัดเจน เช่น ไม้บล็อกสูงเกินมือเอื้อมถึง สูงแค่ระดับจมูกของเด็ก เป็นต้น<br />3. การสังเกตนำไปสู่ความเข้าใจและการช่วยเหลือเด็ก<br />ครูมีความจำเป็นต้องสังเกตขณะที่เด็กเล่น และบันทึกพฤติกรรมการเล่น การวาดภาพ<br />หรือถ่ายภาพผลงานของเด็ก เพื่อเป็นข้อมูลในการประเมินพัฒนาการการเล่นบล็อกและความคิดสร้างสรรค์ การสังเกตยังช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ให้แก่เด็กอย่างเหมาะสม โดยปกติครูจะไม่เข้าแทรกแซงการเล่นของเด็ก แต่ถ้าสังเกตพบว่าเด็กไม่พัฒนาการเล่นครูจะต้องเข้าไปช่วย บางครั้งครูอาจจะจำเป็นต้องให้คำแนะนำ เพื่อให้เด็กเกิดทักษะและความรู้ที่เป็นพื้นฐานจากการเล่นบล็อก เช่น รูปทรง ขนาด คุณสมบัติของวัตถุ ความสมดุล ความมั่นคง การจำแนก การจัดกลุ่ม การเรียงลำดับ การจับคู่ เป็นต้น การสังเกตอาจจะพบว่า เด็กบางคนไม่เข้ากลุ่มมุมบล็อกโดยเฉพาะเด็กผู้หญิง ครูควรจูงใจเด็กผู้หญิงให้เข้าเล่น เช่น จัดมุมบล็อกให้ติดกับมุมบ้าน เล่านิทานที่มีเรื่องราวเกี่ยวข้องกับช่างก่อสร้างผู้หญิงที่มีความสามารถ หรือนำภาพเด็กหญิงก่อสร้างบล็อกไปติดบนแผ่นป้าย (พัชรี ผลโยธิน.2547:20 อ้างอิงใน ศุภกุล เกียรติสุนทร.2549:175)<br />4. การกระตุ้นการเรียนรู้ของเด็ก<br />ในขณะที่เด็กเล่นบล็อก ครูมีบทบาทสำคัญที่ต้องกระตุ้นการเรียนรู้ของเด็กด้วยวิธีการ<br />ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้<br />4.1 ครูอาจเข้าไปร่วมเล่นบล็อกกับเด็ก โดยเฉพาะรับครั้งแรก ๆ ของต้นปีการศึกษาครู<br />จะเข้าไปนั่งในบริเวณมุมบล็อก เด็ก ๆ จะเริ่มเข้ามาเล่น ครูอาจวางบล็อกจำนวน 2 ชิ้นต่อกันเป็นมุมฉากเพื่อกระตุ้นให้เด็กต่อเติม การขยายความสนใจของเด็กให้กว้างขวางขึ้นก็จำเป็นที่ครูอาจหาหนังสือมาให้เด็กค้น หรืออ่านหนังสือให้เด็กฟัง การติดภาพสิ่งก่อสร้างบนป้ายนิเทศระดับสายตาของเด็กในมุมบล็อกก็สามารถกระตุ้นความสนใจของเด็ก การจัดหาอุปกรณ์เสริมการเล่นหรือพาเด็กไปทัศนศึกษาขยายประสบการณ์เกี่ยวกับการก่อสร้างก็เป็นสิ่งที่จำเป็นเช่นกัน<br />4.2 การเสริมแรงให้กำลังใจเมื่อเด็กสร้างผลงานเสร็จแล้วเป็นการแสดงออกที่ทำให้ <br />เด็กเห็นคุณค่าและจูงใจให้เล่นบล็อก ครูต้องทำให้เด็กรับรู้ว่ากระบวนการนั้นสำคัญกว่าผลผลิต ครูอาจใช้คำถามหรือคำพูดเกี่ยวกับสิ่งที่เด็กสร้าง ครูควรพูดถึงรายละเอียดในสิ่งที่ครูมองเห็น เด็กจะรู้สึกว่าครูเข้าใจและรับรู้งานของตน ทั้งยังเป็นการสอนความคิดรวบยอดหรือทักษะต่าง ๆ เช่น “หนูใช้บล็อกรูปทรงอะไรก่อสร้างบ้าน” (ลัดดา นีละมณี.2531:105 อ้างอิงใน ศุภกุล เกียรติสุนทร.2550:176) ในขณะที่เด็กเล่าครูต้องตั้งใจฟังอย่างสนใจ และต้องระวังไม่ไปตัดสิน หรือเปรียบเทียบผลงานของเด็กกับเด็กอื่น (พัชรี ผลโยธิน.2547:19 อ้างอิงใน ศุภกุล เกียรติสุนทร.2549:176) พยายามหลีกเลี่ยงคำพูดดังต่อไปนี้<br />4.2.1 คำพูดที่ไม่มีความหมาย เช่น ดีจัง วิเศษ เป็นต้น<br />4.2.2 คำถามที่ชี้แนะคำตอบ เช่น หนูสร้างสวนสัตว์ใช่ไหม เป็นต้น<br />4.2.3 ตั้งชื่อผลงานของเด็ก เช่น ครูว่าหนูสร้างรถไฟแน่เลย เป็นต้น<br />5. การฝึกให้เด็กเก็บบล็อกเข้าที่<br />ครูควรฝึกให้เด็กเก็บบล็อกเข้าที่ทุกครั้งที่เล่นเสร็จ ครูอาจแบ่งหน้าที่ให้เด็กเก็บตาม<br />รูปทรง ขนาด และจำนวน ถ้าเด็กเริ่มเล่น ครูควรเริ่มต้นด้วยการซ้อนบล็อกที่มีขนาดหรือรูปทรงเดียวกันประมาณ 3-4 ชิ้น ให้เด็กนำไปเก็บในชั้น ครูอาจช่วยเด็กรื้อบล็อกที่สร้างเสร็จ แล้วถ้าสิ่งก่อสร้างนั้นใหญ่มาก ครูช่วยคิดกาวิธีรื้อและช่วยเหลือให้เก็บเข้าที่โดยใช้คำพูดแสดงให้เห็นว่าแบ่งงานกันทำ บางครั้งครูอาจให้เด็กใช้รถลากขนาดเล็กบรรจุไม้บล็อกเป็นการทุ่นแรงในการข้นย้ายเพื่อเก็บเข้าที่ การเก็บของที่ดำเนินไปอย่างร่วมมือ สนุกสนาน และอบอุ่นทำให้เด็กรู้สึกมั่นคงปลอดภัย ทำให้เด็กเต็มใจที่จะเก็บของในวันต่อ ๆ ไป<br />6. บทบาทครูที่มีต่อเด็กปฐมวัยที่ต่างวัย<br />เนื่องจากพัฒนาการของเด็กวัยเตาะแตะและเด็กอนุบาลมีความแตกต่างกัน ครูจึงต้องมี<br />บทบาทในการจัดกิจกรรมให้สอดคล้องกับวัยของเด็ก<br /><br /> <span style="color:#cc6600;">2.5 งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการเล่นมุมบล็อก<br /></span>งานวิจัยในต่างประเทศ<br />บีซีวีกิส (Besevegis.1983:161) ได้ศึกษาพัฒนาการการเล่นเชิงละครและการเล่นเชิงสรรค์<br />สร้างในเด็กปฐมวัยชาวกรีก จำนวน 100 คน ซึ่งมีอายุ 3.5 – 6.5 ปี โดยกลุ่มการเล่นเชิงละครได้เล่นมุมบ้านซึ่งมีของเล่น เช่น ตุ๊กตา ส่วนการเล่นเชิงสรรค์สร้างจะเล่นบล็อกไม้ ผลการศึกษาพบว่า การเล่นเชิงละครและการเล่นเชิงสรรค์สร้างมีแนวโน้มจะพัฒนาขึ้นตามวัยของเด็ก<br />เชียง (Chiang.1985:181) ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับความแตกต่างด้นพัฒนาการในการใช้<br />วัตถุการเล่น โดยศึกษากับเด็กอายุ 3- 5 ปี และ 7 ปี พบว่าจำนวน 57 คน ใช้การสังเกตการณ์ตามธรรมชาติ ผลการศึกษาพบว่า ความสัมพันธ์กับชนิดการเล่นเชิงความรู้ความเข้าใจเชิงสังคม และการใช้วัสดุขึ้นอยู่กับระดับอายุเป็นสำคัญ<br />แอ็ตคินสัน (Atkinson.1987 : 228) ได้ศึกษาการเล่นโดยธรรมชาติของเด็กปฐมวัย อายุ 1-3<br />ปี แต่ละกลุ่มอายุห่างกัน 6 เดือนรวม 20 คน โดยจัดให้อยู่ในสภาพแวดล้อมการเล่นตามธรรมชาติ และนำมาไว้ในห้องทดลองที่ไม่มีของเล่น พบว่า พฤติกรรมการเล่นของเด็กทั้ง 2 กลุ่ม ขึ้นอยู่กับอายุ และความสัมพันธ์โดยตรงเชิงบวกระหว่างขั้นการเล่นและระดับวุฒิภาวะในการเล่น<br /><br /><span style="color:#cc6600;">งานวิจัยในประเทศ</span><br />สิริกุล จารุจินดา (2526:41) ได้ศึกษาอิทธิพลของการเล่นประเภทเสริมต่อ (Block Play) ต่อ<br />ความคิดสร้างสรรค์ของเด็กก่อนวัยเรียนพบว่า การเล่นของเด็กประเภทเสริมต่อมีผลทางบวกต่อคะแนนความคิดสร้างสรรค์<br />สุวัฒน์ วรานุสาสน์ (2526: บทคัดย่อ ) ได้ศึกษาประสิทธิภาพของเครื่องเล่นที่ส่งผลต่อ<br />พัฒนาการความพร้อมทางการเรียน 4 ด้าน ของเด็กก่อนวัยเรียน พบว่า ชุดเครื่องเล่นสนามส่งผลต่อการพัฒนาความพร้อมทางการเรียนด้านความสามารถทางภาษา จำนวนและจำแนกมิติสัมพันธ์ทางร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ จิตใจและสังคม<br /> อิชยา แสงบรรเจิดศิลป์ (2538:43) ได้ศึกษาเรื่องการเล่นมุมไม้บล็อกเพื่อพัฒนาความสามารถทางสติปัญญาของเด็กปฐมวัย พบว่า เด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดประสบการณ์การเล่นมุมไม้บล็อกแบบเต็มรูปแบบ มีความสามารถทางสติปัญญา สูงกว่า เด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดประสบการณ์การเล่นมุมไม้ล็อกแบบปกติ<br /> ณัฎฐาพร พงษ์สิงห์ (2539:49) ได้ศึกษาเรื่อง พฤติกรรมชอบสังคมของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดประสบการณ์การเล่นบล็อกกลางแจ้งเป็นกลุ่มอย่างมีแบบแผน พบว่า เด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดประสบการณ์การเล่นบล็อกกลางแจ้งเป็นกลุ่มอย่างมีแบบแผน มีพฤติกรรมชอบสังคมแตกต่างกันกับเด็กปฐมวัยที่ได้รับประสบการณ์การเล่นบล็อกกลางแจ้งอิสระอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01<br /> จุฬารัตน์ อินนุพัฒน์ (2543:58) ได้ศึกษาเรื่องพัฒนาการทางการพูดของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดประสบการณ์การเล่นมุมบล็อก พบว่า การจัดประสบการณ์การเล่นบล็อกแบบเต็มรูปแบบและแบบปกติ ทั้ง 2 แบบต่างส่งเสริมพัฒนาการทางการพูดได้อย่างดี เด็กสามารถสร้างผลงานจากอุปกรณ์ที่มีในมุมบล็อกได้ตามต้องการ เด็กได้แสดงความคิดสร้างสรรค์และเสนอผลงานของตนเอง<br /><br /></span><br /> <span style="color:#cc6600;">บทที่ 3</span><br /><span style="color:#cc6600;"><br /></span><span style="color:#cc6600;">วิธีดำเนินการวิจัย<br /></span><br /> <span style="color:#993399;">ในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้<br />1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง<br />2. เครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัย<br /><br /><br /><span style="color:#cc6600;">1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง<br /></span> ประชากร<br />ประชากรที่ใช้ในการวิจัยค้นคว้าครั้งนี้ เป็นนักเรียน ชาย – หญิง อายุระหว่าง 4 – 5 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นอนุบาลปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2551 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฎวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จังหวัดปทุมธานี <br /> กลุ่มตัวอย่าง<br /> กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียน ชาย – หญิง อายุระหว่าง 4 -5 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นอนุบาลปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2551 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฎวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จังหวัดปทุมธานี จำนวน 8 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling)<br /><br /><span style="color:#cc6600;">2. เครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัย<br /></span> ในการวิจัยครั้งนี้มีเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยดังนี้<br /> 1. แผนการจัดกิจกรรมการเล่นมุมบล็อก<br /> 2. แบบสังเกตพัฒนาการการเล่นมุมบล็อก<br /> 3. แบบทดสอบความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย<br /><br /></span>PIANGRAWEEhttp://www.blogger.com/profile/02293285365271587828noreply@blogger.com3tag:blogger.com,1999:blog-4117858063577048916.post-30574956921571341642008-10-21T22:44:00.000-07:002008-10-22T00:13:47.736-07:00เปิดโลกมหัศจรรย์กับเกมการศึกษาชื่อโครงการ/ กิจกรรม เปิดโลกมหัศจรรย์กับเกมการศึกษา<br />ผู้รับผิดชอบ นางสาวเพียงรวี จันทร์ไทย<br /><br />.............................................................................................................................................................<br /><span style="color:#ff0000;">1. หลักการและเหตุผล<br /></span> ปัจจุบันผู้ทรงความรู้ด้านต่าง ๆ เป็นต้นว่า นักจิตวิทยา จิตแพทย์และนักการศึกษา ได้<br />ทำการศึกษาค้นคว้ากับเด็กมากขึ้น และพยายามเผยแพร่ความรู้เรื่องเด็กไปยังพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูและบุคคลที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับเด็กให้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะให้บุคคลทำหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับเด็กเหล่านี้ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาเด็ก เพื่อช่วยให้เด็กได้เจริญเติบโตขึ้นเป็นบุคคลที่สมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ เป็นกำลังของสังคมและประเทศชาติต่อไป<br />สิ่งที่จำเป็นในการสอนเด็กวัยก่อนเรียน คือ สื่อการเรียน เพราะการสอนเด็กในวัยนี้ จะใช้วิธีการสอนแบบเล่นปนเรียน เด็กจะสนุกที่ได้เล่น แต่ในขณะเดียวกันก็ได้ความรู้ไปด้วยพร้อมกัน นอกจากนั้น เด็กวัยนี้ยังขาดประสบการณ์ ต้องเรียนรู้จากรูปธรรม จากการได้สัมผัสจับต้อง ได้เห็น ได้ทำด้วยตนเอง จึงจะเกิดความเข้าใจ ดังนั้นสื่อการเรียน จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับการสอนระดับนี้<br />เกมการศึกษา เป็นกิจกรรมชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญยิ่งต่อการช่วยส่งเสริมให้เด็กได้เรียนรู้ ฝึกทักษะและช่วยให้เด็กเกิดความคิดรวบยอดเกี่ยวกับสิ่งที่เรียน นอกจากนี้ยังช่วยฝึกการแก้ปัญหา การคิดหาเหตุผล การสังเกตเปรียบเทียบ การจำแนก การจัดหมวดหมู่ อันเป็นทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ด้วย (สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ.2541:145. ) ซึ่งสอดคล้องกับ พัฒนา ชัชพงศ์ (2530:20) ที่กล่าวว่า กิจกรรมเกมการศึกษาช่วยฝึกการสังเกต และคิดหาเหตุผล ฝึกการแยกประเภทและจัดหมวดหมู่ ฝึกการจัดลำดับ ฝึกความพร้อมในการเรียนสัญลักษณ์ทางภาษาและคณิตศาสตร์ เป็นการทบทวนเนื้อหาที่เรียน และฝึกความรับผิดชอบ<br /><span style="color:#ff0000;"><br />2. วัตถุประสงค์<br /></span>1. นักเรียนสามารถตัดสินใจและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นขณะเล่นเกมการศึกษาได้<br />2. นักเรียนสามารถใช้ประสาทสัมผัสระหว่างตา กับ มือในการเล่นเกมการศึกษาได้<br />3. นักเรียนสามารถมีความภาคภูมิใจและเชื่อมั่นในตนเองขณะเล่นเกมการศึกษาได้<br />4. นักเรียนสามารถเล่นเกมการศึกษาร่วมกับผู้อื่นได้<br />5. ผู้ปกครองสามารถมีความรู้ความเข้าใจวิธีการเล่นเกมการศึกษาได้<br />6. ผู้ปกครองสามารถตระหนักถึงความสำคัญของเกมการศึกษาได้<br />7. นักเรียนและผู้ปกครองสามารถมีส่วนร่วมในการเล่นเกมการศึกษาได้<br /><span style="color:#ff0000;"><br />3. ผลผลิตที่ได้รับจากโครงการ/กิจกรรม</span><br /><span style="color:#33ccff;"><span style="color:#cc66cc;">ตัวชี้วัดเชิงปริมาณ :</span><br /></span>ผู้ปกครองนักเรียนระดับชั้นอนุบาล<br /><span style="color:#cc66cc;">เป้าหมาย :</span><br />ผู้ปกครองเข้าร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่าร้อยละ 65<br /><span style="color:#cc66cc;">ตัวชี้วัดเชิงคุณภาพ :<br /></span>พัฒนาด้านร่างกาย ด้านอารมณ์ ด้านสังคม และ ด้านสติปัญญาของเด็ก<br />ความรู้ความเข้าใจของผู้ปกครอง<br /><span style="color:#cc66cc;">เป้าหมาย:</span><br />1. นักเรียนสามารถตัดสินใจและ<br />แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นขณะเล่นเกมการศึกษาได้<br />2. นักเรียนสามารถใช้ประสาทสัมผัส<br />ระหว่างตา กับ มือในการเล่นเกมการศึกษาได้<br />3. นักเรียนสามารถมีความภาคภูมิใจและเชื่อมั่นในตนเองขณะเล่นเกมการศึกษาได้<br />4. นักเรียนสามารถเล่นเกมการศึกษา<br />ร่วมกับผู้อื่นได้<br />5. ผู้ปกครองสามารถมีความรู้ความเข้าใจ<br />วิธีการเล่นเกมการศึกษาได้<br />6. ผู้ปกครองสามารถตระหนักถึง<br />ความสำคัญของเกมการศึกษาได้<br />7. นักเรียนและผู้ปกครองสามารถมีส่วนร่วมในการเล่นเกมการศึกษาได้<br /><span style="color:#cc66cc;">ตัวชี้วัดเชิงเวลา :<br /></span>ปีการศึกษา 2551 ภาคเรียนที่ 2 ตั้งแต่วันจันทร์ ถึงวันศุกร์ 2 ช่วงเวลา ได้แก่<br />1. ช่วงเวลานักเรียนเล่นเองอย่างอิสระ<br />เวลา 11.00-12.00 น.<br />2. ช่วงเวลานักเรียนและผู้ปกครองเล่นร่วมกันเวลา 15.00-16.00 น.<br /><span style="color:#cc66cc;">เป้าหมาย:</span><br />นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรม 20 ครั้งต่อ 1 ภาคเรียน<br />ครั้งละ 1 ชั่วโมง ผู้ปกครองเข้าร่วมกิจกรรม 20 ครั้งต่อ 1 ภาคเรียนครั้งละ 1 ชั่วโมง<br /><span style="color:#cc66cc;">ตัวชี้วัดเชิงต้นทุน :<br /></span>1. สื่อเกมการศึกษา<br />2. สมุดบันทึกการใช้สื่อ<br />3. สมุดลงชื่อการเข้าใช้ สื่อเกมการศึกษา<br />4. สมุดยืม - คืนเกมการศึกษา<br /><span style="color:#cc66cc;">เป้าหมาย:</span><br />1. สื่อเกมการศึกษา 8 ประเภท ได้แก่<br />1.1 เกมจับคู่ภาพเหมือน 10 ชุด<br />1.2 เกมโดมิโน 10 ชุด<br />1.3 ภาพตัดต่อ 10 ชุด<br />1.4 ภาพสัมพันธ์ 10 ชุด<br />1.5 ลอตโต 10 ชุด<br />1.6 เกมเรียงลำดับภาพเหตุการณ์ 10 ชุด<br />1.7 พื้นฐานการบวก 10 ชุด<br />1.8 เกมตารางสัมพันธ์ 10 ชุด<br />2. สมุดบันทึกการใช้สื่อ 150 เล่มตามจำนวนเด็ก<br />3. สมุดลงชื่อการเข้าใช้ สื่อเกมการศึกษา 1 เล่มสมุดยืม – คืนเกมการศึกษา 1 เล่ม<br /><span style="color:#cc66cc;">ตัวชี้วัดระดับความสำเร็จ :<br /></span>1. ประเมินความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการเล่นเกมการศึกษาของนักเรียน<br />2. จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมใน 1 ภาคเรียน<br /><span style="color:#cc66cc;">เป้าหมาย :</span><br />1. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการเล่นเกมการศึกษาในระดับดี<br />2. จำนวนผู้เข้าใช้ใน 1 ภาคเรียนได้แก่<br />นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่าร้อยละ 65<br />ผู้ปกครองเข้าร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่าร้อยละ 65<br /><br /><span style="color:#ff6666;">4. ผลที่คาดว่าจะได้รับ<br /></span>1. นักเรียนสามารถตัดสินใจและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นขณะเล่นเกมการศึกษาได้<br />2. นักเรียนสามารถใช้ประสาทสัมผัสระหว่างตา กับ มือในการเล่นเกมการศึกษาได้<br />3. นักเรียนสามารถมีความภาคภูมิใจและเชื่อมั่นในตนเองขณะเล่นเกมการศึกษาได้<br />4. นักเรียนสามารถเล่นเกมการศึกษาร่วมกับผู้อื่นได้<br />5. ผู้ปกครองสามารถมีความรู้ความเข้าใจวิธีการเล่นเกมการศึกษาได้<br />6. ผู้ปกครองสามารถตระหนักถึงความสำคัญของเกมการศึกษาได้<br />7. นักเรียนและผู้ปกครองสามารถมีส่วนร่วมในการเล่นเกมการศึกษาได้<br /><br /><span style="color:#ff0000;">5. ผลการดำเนินงาน</span><br /><span style="color:#cc66cc;">ผลผลิต<br /></span>1. นักเรียนและผู้ปกครองให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่าร้อยละ 65<br />2. นักเรียนและผู้ปกครองสามารถยืมสื่ออุปกรณ์ไปใช้เล่นกับลูกที่บ้านได้<br /><span style="color:#cc66cc;">ผลลัพธ์<br /></span>1. นักเรียนสามารถตัดสินใจและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นขณะเล่นเกมการศึกษาได้<br />2. นักเรียนสามารถใช้ประสาทสัมผัสระหว่างตา กับ มือในการเล่นเกมการศึกษาได้<br />3. นักเรียนสามารถมีความภาคภูมิใจและเชื่อมั่นในตนเองขณะเล่นเกมการศึกษาได้<br />4. นักเรียนสามารถเล่นเกมการศึกษาร่วมกับผู้อื่นได้<br />5. ผู้ปกครองสามารถมีความรู้ความเข้าใจวิธีการเล่นเกมการศึกษาได้<br />6. ผู้ปกครองสามารถตระหนักถึงความสำคัญของเกมการศึกษาได้<br />7. นักเรียนและผู้ปกครองสามารถมีส่วนร่วมในการเล่นเกมการศึกษาได้<br /><span style="color:#cc66cc;">ผลกระทบ<br /></span>1. หากการดำเนินโครงการในครั้งนี้เป็นที่น่าพึงพอใจของนักเรียนและผู้ปกครอง ในการจัดโครงการครั้งต่อไปจะต้องเลือกสื่อที่มีความหลากหลาย<br />2 . ผลิตสื่อให้มีความเพียงพอและสอดคล้องต่อความต้องการของนักเรียนและผู้ปกครอง<br /><br /><span style="color:#ff0000;">6. วิธีการติดตามประเมินผลและรายงานผล</span><br />1. การสังเกตและจดบันทึกเหตุการณ์<br />2. การสะท้อนภาพถ่าย<br />3. สมุดบันทึกการใช้เกมการศึกษารายบุคคล<br />4. สมุดยืม- คืนเกมการศึกษา<br />5. สมุดลงชื่อผู้ใช้เกมการศึกษาPIANGRAWEEhttp://www.blogger.com/profile/02293285365271587828noreply@blogger.com2tag:blogger.com,1999:blog-4117858063577048916.post-78875810220466013432008-10-21T00:11:00.000-07:002008-10-22T00:11:45.852-07:00การจัดประสบการณ์หน่วยปลา สัปดาห์ที่ 3<span style="color:#9999ff;"></span><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5259822104441693586" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; CURSOR: hand; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhRkjy0ItH0nUgWNsd3k-FIMstQu97yU5JkwmcBD_ZHhDVtRDoJNJAeqwUB5sJX4PZrY5M1C0s6DGmqQeYbzCaARKFeMhQEOPp6LszcEl1A0h6Rt-6_e47M0FYODw_I3J9SfpmNoR4VX0JQ/s320/DSCN0286.JPG" border="0" /><br /><div><div><div><div><div align="center">ภาพที่ 1 เด็ก ๆ ลงมือทำสลัดทูน่าและแซนวิสทูน่าหลังจากสังเกตคุณครูสาธิตวิธีการทำแล้ว<br /></div><br /><br /><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5259821518987184882" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; CURSOR: hand; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg6ghvZCJIKA54pTQ9ZG63TmusqCsIRdIPfHYgy1H0nUVuQzT52ZEylpmu3M5lThPfWPCAQWH0ZPeEdHDBn9wpI7NyanOrsMCaiUjtNqWJSeWSf_5oGz1PHYACIuQ2YIISQO2dby5xmKOYy/s320/DSCN0295.JPG" border="0" /><br /><br /><div align="left">ภาพที่ 2 เด็ก ๆชิมรสชาติอาหารที่ตนเองลงมือทำ และบอกรสชาติของอาหาร สังเกตลักษณะของเนื้อปลาทูน่าผักที่นำมาใช้<br /><br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjGZ45PslYHL34jNwtq56sowsfkCV5zVmdum-15qdltg8Ax2AdtGo6XWHJebfypZ-2iQv_P1Ycg1gTINeVWOfXWsAxmqGsv9_2Om-XhXrJdOxzaecE2JGFcB_qp91HffORBawwjZfDi2_WM/s1600-h/DSCN0315.JPG"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5259814697723330450" style="FLOAT: right; MARGIN: 0px 0px 10px 10px; CURSOR: hand" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjGZ45PslYHL34jNwtq56sowsfkCV5zVmdum-15qdltg8Ax2AdtGo6XWHJebfypZ-2iQv_P1Ycg1gTINeVWOfXWsAxmqGsv9_2Om-XhXrJdOxzaecE2JGFcB_qp91HffORBawwjZfDi2_WM/s320/DSCN0315.JPG" border="0" /></a><br /><br /></div><div align="justify"><br /></div><div>ภาพที่ 3 เด็ก ๆเล่นน้ำในกิจกรรมกลางแจ้ง<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgk427o84W1iuK3-OtFN9Infsdr729VXyeTuzFAl7FSnNZVDLOY1LZ0CyReGVLoirATeC5FlOELyiMe2qaUaGpS0VTIMrzk-txogyxo9RXap_xMxkbBut5JOCJ6ogKvm26zUqYR5FzBT7PS/s1600-h/DSCN0462.JPG"></a><br /><br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhTe2-jdlxmgtT4B7QO3n7qH2brbG8qHpqkC4snW7sVnre4-Hahigt1x46Nk4KCoupyHadtLgT_80Yc1iPpNWTyrGS5tj6YbtDiFoanp_3-syJqIgiH0DhQm_6MZAgJNlTfC3FPxLXCc6Dj/s1600-h/DSCN0532.JPG"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5259505537886627794" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; CURSOR: hand" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhTe2-jdlxmgtT4B7QO3n7qH2brbG8qHpqkC4snW7sVnre4-Hahigt1x46Nk4KCoupyHadtLgT_80Yc1iPpNWTyrGS5tj6YbtDiFoanp_3-syJqIgiH0DhQm_6MZAgJNlTfC3FPxLXCc6Dj/s320/DSCN0532.JPG" border="0" /></a><br /><br /><br /><br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgk427o84W1iuK3-OtFN9Infsdr729VXyeTuzFAl7FSnNZVDLOY1LZ0CyReGVLoirATeC5FlOELyiMe2qaUaGpS0VTIMrzk-txogyxo9RXap_xMxkbBut5JOCJ6ogKvm26zUqYR5FzBT7PS/s1600-h/DSCN0462.JPG"></a><br />ภาพที่ 4 เกมจับคู่ภาพเหมือน<br /><br /><br /><br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgk427o84W1iuK3-OtFN9Infsdr729VXyeTuzFAl7FSnNZVDLOY1LZ0CyReGVLoirATeC5FlOELyiMe2qaUaGpS0VTIMrzk-txogyxo9RXap_xMxkbBut5JOCJ6ogKvm26zUqYR5FzBT7PS/s1600-h/DSCN0462.JPG"></a><br /><br /><br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgk427o84W1iuK3-OtFN9Infsdr729VXyeTuzFAl7FSnNZVDLOY1LZ0CyReGVLoirATeC5FlOELyiMe2qaUaGpS0VTIMrzk-txogyxo9RXap_xMxkbBut5JOCJ6ogKvm26zUqYR5FzBT7PS/s1600-h/DSCN0462.JPG"></a><br /><br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgk427o84W1iuK3-OtFN9Infsdr729VXyeTuzFAl7FSnNZVDLOY1LZ0CyReGVLoirATeC5FlOELyiMe2qaUaGpS0VTIMrzk-txogyxo9RXap_xMxkbBut5JOCJ6ogKvm26zUqYR5FzBT7PS/s1600-h/DSCN0462.JPG"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5259505728900855426" style="FLOAT: right; MARGIN: 0px 0px 10px 10px; CURSOR: hand" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgk427o84W1iuK3-OtFN9Infsdr729VXyeTuzFAl7FSnNZVDLOY1LZ0CyReGVLoirATeC5FlOELyiMe2qaUaGpS0VTIMrzk-txogyxo9RXap_xMxkbBut5JOCJ6ogKvm26zUqYR5FzBT7PS/s320/DSCN0462.JPG" border="0" /></a><br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgk427o84W1iuK3-OtFN9Infsdr729VXyeTuzFAl7FSnNZVDLOY1LZ0CyReGVLoirATeC5FlOELyiMe2qaUaGpS0VTIMrzk-txogyxo9RXap_xMxkbBut5JOCJ6ogKvm26zUqYR5FzBT7PS/s1600-h/DSCN0462.JPG"></a></div><br /><br /><br /><br /><br /><div>ภาพที่ 5 เกมภาพตัดต่อปลา<br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><span style="color:#ff6666;">วันที่ 1 กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ<br /></span><span style="color:#ff6600;"><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์</span><br /></span>1. เด็กเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ได้<br />2. เด็กฟังและปฏิบัติตามสัญญาณได้<br />3. เด็กเคลื่อนไหวตามจินตนาการได้<br />4. เด็กเคลื่อนไหวตามคำบรรยายได้<br /><span style="color:#9999ff;">เนื้อหา<br /></span>การฟังและการปฏิบัติตามสัญญาณ<br />การเคลื่อนไหวตามจินตนาการ<br />การเคลื่อนไหวตามคำบรรยาย<br /><span style="color:#9999ff;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็กปฏิบัติกิจกรรมเคลื่อนไหวพื้นฐานโดยเคลื่อนไหวร่างกายเดินสลับเท้าไปรอบ ๆ ห้องตามการเคาะจังหวะ โดยไม่ชนกับเพื่อน<br />3. เมื่อได้ยินสัญญาณหยุดให้หยุดเคลื่อนไหวทันที<br />4. ครูให้สัญญาณหยุดโดยการรัวเครื่องเคาะจังหวะ<br />5. เด็ก ๆ เคลื่อนไหวตามจินตนาการโดยฟังคำบรรยายจากครู<br /><span style="color:#9999ff;">สื่อการเรียนรู้</span><br />เครื่องเคาะจังหวะ<br /><span style="color:#9999ff;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ<br />2. สังเกตการฟังและปฏิบัติตามสัญญาณ<br />3. สังเกตการเคลื่อนไหวตามจินตนาการ<br />4. สังเกตการเคลื่อนไหวตามคำบรรยาย<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเสริมประสบการณ์</span><br /><span style="color:#9999ff;">ประสงค์</span><br />1. เด็กฟังและตอบคำถามครูได้<br />2. เด็กสนทนาร่วมกับเพื่อนและครูได้<br />3. เด็กบอกชนิดของปลาได้<br />4. เด็กสังเกตและบอกชื่อของปลาได้<br />5. เด็กเสนอและฟังความคิดเห็นของตนเองและผู้อื่นได้<br /><span style="color:#9999ff;">เนื้อหา</span><br />การสนทนาลักษณะที่อยู่อาศัยและปลาชนิดต่าง ๆ<br /><span style="color:#9999ff;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็กทบทวนการระดมความคิดในเรื่องที่สนใจ<br />“หัวข้อที่เราสนใจคือเรื่องอะไร”<br />“เด็ก ๆ ต้องการเพิ่มเติมส่วนไหน อยากรู้อะไรเพิ่มเติม และเพราะอะไร”<br />3. ครูนำนำหนังสือ รอบรู้ท้องทะเล<br />“ เด็ก ๆสังเกตเห็นอะไรในหนังสือบ้าง”<br />“เด็ก ๆ คิดว่าปลาเหล่านี้อาศัยอยู่ที่เดียวกันหรือไม่”<br />4. เด็ก ๆสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน<br /><span style="color:#9999ff;">สื่อการเรียนรู้<br /></span>หนังสือรอบรู้ท้องทะเล<br /><span style="color:#9999ff;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการฟังและตอบคำถามครู<br />2. สังเกตการสนทนาร่วมกับเพื่อนและครู<br />3. สังเกตการบอกชนิดของปลา<br />4. สังเกตการสังเกตและบอกชื่อของปลา<br />5. สังเกตการเสนอและฟังความคิดเห็นของตนเองและผู้อื่น<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์<br /></span><span style="color:#9999ff;">จุดประสงค์<br /></span>1. เด็กฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำได้<br />2. เด็กเลือกกิจกรรมตามความสนใจได้<br />3. เด็กปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจได้<br />4. เด็กเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟังตามความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการได้<br />5. เด็กช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่ได้<br /><span style="color:#9999ff;">เนื้อหา<br /></span>กิจกรรมศิลปะได้แก่ 1. กิจกรรมสีน้ำ 2.กิจกรรมสีเทียน 3. กิจกรรมฉีกปะ 4.กิจกรรมปั้นแป้งโด<br />5. กิจกรรมร้อยลูกปัด<br />กิจกรรมใหม่ คือ การใช้หลอดเป่าสี<br /><span style="color:#9999ff;">กิจกรรม<br /></span>1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“เก็บของเล่นเข้าที่”<br />“ทำความสะอาดอุปกรณ์”<br />2. ครูแนะนำอุปกรณ์ใหม่และวิธีการใช้คือ การใช้หลอดสำหรับเป่าสี<br />3. เด็ก เลือกทำกิจกรรมศิลปะตามความสนใจ<br />4. เด็กเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟัง<br />5. เด็กช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่<br /><span style="color:#9999ff;">สื่อการเรียนรู้</span><br />อุปกรณ์ในการทำกิจกรรมศิลปะ<br /><span style="color:#9999ff;">ประเมินผล<br /></span>1. สังเกตการฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำ<br />2. สังเกตการเลือกกิจกรรมตามความสนใจ<br />3. สังเกตการปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจ<br />4. สังเกตการเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟังตามความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ<br />5. สังเกตการช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเสรี</span><br /><span style="color:#9999ff;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กฟังและทำกิจกรรมในมุมประสบการณ์ใหม่ได้<br />2. เด็กเลือกเข้ามุมตามความสนใจ<br />3. เด็กเรียนรู้ด้วยตนเองจากการสังเกตสำรวจได้<br />4. เด็กสนทนาโต้ตอบกับเพื่อนได้<br />5. เด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่ได้<br /><span style="color:#9999ff;">เนื้อหา<br /></span>มุมประสบการณ์ที่มีอุปกรณ์ใหม่ได้แก่ มุมวิทยาศาสตร์คือ ก้อนหินขนาดต่าง ๆ<br />มุมศิลปะคือ หลอดเป่าสี และมุมเกมการศึกษาคือ เกมโยงภาพปลา<br /><span style="color:#9999ff;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“ เก็บของเล่นเข้าที่หลังได้ยินสัญญาณเปลี่ยนมุม ”<br />“ ไม่ส่งเสียงดัง ”<br />2. ครูแนะนำมุมใหม่พร้อมทั้งอธิบายวิธีการใช้สื่ออุปกรณ์<br />3. เด็กเลือกเข้ามุมประสบการณ์ตามความสนใจ<br />4. เด็กทำกิจกรรมในมุมเสรี<br />5. ครูให้สัญญาณเตือนให้เด็กเปลี่ยนมุม<br />6. เด็ก ๆ ช่วยกันเก็บของเข้าที่ให้เรียบร้อย<br /><span style="color:#9999ff;">สื่อการเรียนรู้</span><br />อุปกรณ์ต่าง ๆ ในมุมประสบการณ์<br /><span style="color:#9999ff;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการฟังและทำกิจกรรมในมุมประสบการณ์ใหม่ได้<br />2. สังเกตการเลือกเข้ามุมตามความสนใจ<br />3. สังเกตการเรียนรู้ด้วยตนเองจากการสังเกตสำรวจได้<br />4. สังเกตการสนทนาโต้ตอบกับเพื่อนได้<br />5. สังเกตการเด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่ได้<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมกลางแจ้ง</span><br /><span style="color:#9999ff;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กบอกข้อตกลงในการเล่นเครื่องเล่นสนาม<br />2. เด็กใช้กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กในการเล่นเครื่องเล่นสนาม<br />3. เด็กเรียนรู้การระวังรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นได้<br />4. เด็กตัดสินใจและแก้ปัญหาด้วยตนเองได้<br /><span style="color:#9999ff;">เนื้อหา<br /></span>การเล่นเครื่องเล่นสนาม<br /><span style="color:#9999ff;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูทบทวนข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็กเตรียมอบอุ่นร่างกายก่อนเล่นเครื่องเล่นสนาม<br />3. เด็กเล่นเครื่องเล่นสนาม<br />4. เด็กทำความสะอาดร่างกายหลังจากเล่นเครื่องเล่นสนาม<br /><span style="color:#9999ff;">สื่อการเรียนรู้</span><br />เครื่องเล่นสนาม<br /><span style="color:#9999ff;">ประเมินผล<br /></span>1. สังเกตการบอกข้อตกลงในการเล่นเครื่องเล่นสนาม<br />2. สังเกตการใช้กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กในการเล่นเครื่องเล่นสนาม<br />3. สังเกตการเรียนรู้การระวังรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นได้<br />4. สังเกตการตัดสินใจและแก้ปัญหาด้วยตนเองได้<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเกมการศึกษา<br /></span><span style="color:#9999ff;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กตั้งใจฟังคำแนะนำการเล่นเครื่องเล่นสนาม<br />2. เด็กเล่นร่วมกับผู้อื่นได้<br />3. เด็กสังเกตและจำแนกได้<br />4. เด็กเอื้อเฟื้อและรอคอยได้<br /><span style="color:#9999ff;">เนื้อหา<br /></span>เกมโยงภาพปลา<br />เกมที่เคยเล่นมาแล้ว<br /><span style="color:#9999ff;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“การเก็บของเข้าที่”<br />“ดูแลรักษาสิ่งของ ไม่ทำลายข้าวของ”<br />2. ครูแนะนำและสาธิตวิธีการเล่นเกมการศึกษา<br />3. เด็กแต่ละกลุ่มเล่นเกมการศึกษา<br />4. เด็กผลัดเปลี่ยนกันตรวจสอบความถูกต้องของเกมการศึกษาที่เล่น<br />5. เด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่<br /><span style="color:#9999ff;">สื่อการเรียนรู้</span><br />เกมโยงภาพปลา<br />เกมที่เคยเล่นมาแล้ว<br /><span style="color:#9999ff;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการตั้งใจฟังคำแนะนำการเล่นเครื่องเล่นสนาม<br />2. สังเกตการเล่นร่วมกับผู้อื่นได้<br />3. สังเกตการสังเกตและจำแนกได้<br />4. สังเกตการเอื้อเฟื้อและรอคอยได้<br /><br /><span style="color:#ff6666;">วันที่ 2 กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ<br /></span><span style="color:#9999ff;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ได้<br />2. เด็กฟังและปฏิบัติตามสัญญาณได้<br />3. เด็กเคลื่อนไหวตามจินตนาการได้<br />4. เด็กเคลื่อนไหวเลียนแบบการว่ายน้ำของปลาได้<br /><span style="color:#9999ff;">เนื้อหา</span><br />การฟังและการปฏิบัติตามสัญญาณ<br />การเคลื่อนไหวตามจินตนาการ<br />การเคลื่อนไหวเลียนแบบการว่ายน้ำของปลา<br /><span style="color:#9999ff;">กิจกรรม<br /></span>1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็กปฏิบัติกิจกรรมเคลื่อนไหวพื้นฐานโดยเคลื่อนไหวเดินซิกแซกไปข้างหน้า ตามการเคาะจังหวะ โดยไม่ชนกับเพื่อน เคาะจังหวะ หนัก- เบา<br />3. เมื่อได้ยินสัญญาณหยุดให้หยุดเคลื่อนไหวทันที<br />4. ครูให้สัญญาณหยุดโดยการรัวเครื่องเคาะจังหวะ<br />5. เด็ก ๆ เคลื่อนไหวตามจินตนาการแสดงท่าทางการว่ายน้ำของปลา<br /><span style="color:#9999ff;">สื่อการเรียนรู้</span><br />เครื่องเคาะจังหวะ<br />ซีดีเพลง<br /><span style="color:#9999ff;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ<br />2. สังเกตการฟังและปฏิบัติตามสัญญาณ<br />3. สังเกตการเคลื่อนไหวตามจินตนาการ<br />4. สังเกตการเคลื่อนไหวเลียนแบบท่าทางกรว่ายน้ำของปลา<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเสริมประสบการณ์<br /></span><span style="color:#9999ff;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กฟังและตอบคำถามครูได้<br />2. เด็กสนทนาร่วมกับเพื่อนและครูได้<br />3. เด็กบอกรสชาดของปลาทูน่าได้<br />4. เด็กเสนอและฟังความคิดเห็นของตนเองและผู้อื่นได้<br /><span style="color:#9999ff;">เนื้อหา</span><br />การสนทนาเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับหน้าที่สำคัญของอวัยวะส่วนต่าง ๆของปลา<br /><span style="color:#9999ff;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็กและครูสนทนาร่วมกันเกี่ยวกับสิ่งที่เด็กอยากรู้<br />“ปลาทูน่ามีลักษณะอย่างไร”<br />“มีใครเคยรับประทานปลาทูน่าบ้าง รสชาติเป็นอย่างไร”<br />3. เด็กสังเกตเนื้อปลาทูน่ากระป๋องแล้วบอกลักษณะที่พบเห็น<br />“เนื้อปลาทูน่ามีลักษณะอย่างไร”<br />4. เด็กชิมรสปลาทูน่าแล้วสนทนาแสดงความคิดเห็น<br />5. เด็กและครูวางแผนร่วมกันในการประกอบอาหาร<br /><span style="color:#9999ff;">สื่อการเรียนรู้</span><br />1. ปลาทูน่ากระป๋อง<br />2. แผ่นวางแผนการประกอบอาหาร<br /><span style="color:#9999ff;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการฟังและตอบคำถามครูได้<br />2. สังเกตการสนทนาร่วมกับเพื่อนและครูได้<br />3. สังเกตการบอกรสชาติของปลาทูน่าได้<br />4. สังเกตการเสนอและฟังความคิดเห็นของตนเองและผู้อื่นได้<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์</span><br /><span style="color:#9999ff;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำได้<br />2. เด็กเลือกกิจกรรมตามความสนใจได้<br />3. เด็กปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจได้<br />4. เด็กเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟังตามความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการได้<br />5. เด็กช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่ได้<br /><span style="color:#9999ff;">เนื้อหา<br /></span>กิจกรรมศิลปะได้แก่ 1. กิจกรรมสีน้ำ 2.กิจกรรมสีเทียน 3. กิจกรรมฉีกปะ 4.กิจกรรมปั้นแป้งโด<br />5. กิจกรรมร้อยลูกปัด<br />กิจกรรมใหม่ คือ การปะติดเมล็ดพืช<br /><span style="color:#9999ff;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“เก็บของเล่นเข้าที่”<br />“ทำความสะอาดอุปกรณ์”<br />2. ครูแนะนำอุปกรณ์ใหม่และวิธีการใช้คือ นำเมล็ดพืชติดลงบนกระดาษ<br />3. เด็ก เลือกทำกิจกรรมศิลปะตามความสนใจ<br />4. เด็กเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟัง<br />5. เด็กช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่<br /><span style="color:#9999ff;">สื่อการเรียนรู้<br /></span>อุปกรณ์ในการทำกิจกรรมศิลปะ<br /><span style="color:#9999ff;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำ<br />2. สังเกตการเลือกกิจกรรมตามความสนใจ<br />3. สังเกตการปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจ<br />4. สังเกตการเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟังตามความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ<br />5. สังเกตการช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่<br /><span style="color:#ff6666;"></span></div><div><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเสรี<br /></span><span style="color:#9999ff;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กฟังและทำกิจกรรมในมุมประสบการณ์ใหม่ได้<br />2. เด็กเลือกเข้ามุมตามความสนใจ<br />3. เด็กเรียนรู้ด้วยตนเองจากการสังเกตสำรวจได้<br />4. เด็กสนทนาโต้ตอบกับเพื่อนได้<br />5. เด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่ได้<br /><span style="color:#9999ff;">เนื้อหา</span><br />มุมประสบการณ์ที่มีอุปกรณ์ใหม่ได้แก่ มุมอ่านคือ หนังสือรอบรู้ท้องทะเล<br />มุมศิลปะคือ เมล็ดพืช และมุมเกมการศึกษาคือ เกมอนุกรมปลา<br /><span style="color:#9999ff;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“ เก็บของเล่นเข้าที่หลังได้ยินสัญญาณเปลี่ยนมุม ”<br />“ ไม่ส่งเสียงดัง ”<br />2. ครูแนะนำมุมใหม่พร้อมทั้งอธิบายวิธีการใช้สื่ออุปกรณ์<br />3. เด็กเลือกเข้ามุมประสบการณ์ตามความสนใจ<br />4. เด็กทำกิจกรรมในมุมเสรี<br />5. ครูให้สัญญาณเตือนให้เด็กเปลี่ยนมุม<br />6. เด็ก ๆ ช่วยกันเก็บของเข้าที่ให้เรียบร้อย<br /><span style="color:#9999ff;">สื่อการเรียนรู้</span><br />อุปกรณ์ต่าง ๆ ในมุมประสบการณ์<br /><span style="color:#9999ff;">ประเมินผล<br /></span>1. สังเกตการฟังและทำกิจกรรมในมุมประสบการณ์ใหม่ได้<br />2. สังเกตการเลือกเข้ามุมตามความสนใจ<br />3. สังเกตการเรียนรู้ด้วยตนเองจากการสังเกตสำรวจได้<br />4. สังเกตการสนทนาโต้ตอบกับเพื่อนได้<br />5. สังเกตการเด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่ได้<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมกลางแจ้ง </span><br /><span style="color:#9999ff;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กบอกข้อตกลงในการเล่นเกมส่งบอลด้วยผ้า<br />2. เด็กใช้กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กในการเล่นเครื่องเล่นสนาม<br />3. เด็กเรียนรู้การระวังรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นได้<br />4. เด็กตัดสินใจและแก้ปัญหาด้วยตนเองได้<br /><span style="color:#9999ff;">เนื้อหา</span><br />การเล่นเกมส่งบอลด้วยผ้า<br /><span style="color:#9999ff;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูทบทวนข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็กเตรียมอบอุ่นร่างกายก่อนเล่นเกมส่งบอลด้วยผ้า<br />3. ครูแนะนำและบอกวิธีการเล่นเกมส่งบอลด้วยผ้า<br />- จับคู่ลำเลียงลูกบอลด้วยผ้า<br />- เด็กจับมือกันเป็นวงกลม ส่งบอลด้วยผ้า<br />- เด็กเวียนส่งบอลด้วยผ้าไปทางขวามือ<br />4. เด็กทำความสะอาดร่างกายหลังจากเล่นเกมส่งบอลด้วยผ้า<br /><span style="color:#9999ff;">สื่อการเรียนรู้</span><br />1. ผ้า<br />2. ลูกบอล<br /><span style="color:#9999ff;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการบอกข้อตกลงในการเล่นเกมส่งบอลด้วยผ้า<br />2. สังเกตการใช้กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กในการเล่นเครื่องเล่นสนาม<br />3. สังเกตการเรียนรู้การระวังรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นได้<br />4. สังเกตการตัดสินใจและแก้ปัญหาด้วยตนเองได้<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเกมการศึกษา<br /></span><span style="color:#9999ff;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กตั้งใจฟังคำแนะนำการเล่นเกม<br />2. เด็กเล่นร่วมกับผู้อื่นได้<br />3. เด็กสังเกตและจำแนกได้<br />4. เด็กเอื้อเฟื้อและรอคอยได้<br /><span style="color:#9999ff;">เนื้อหา</span><br />เกมอนุกรมปลา<br />เกมที่เคยเล่นมาแล้ว<br /><span style="color:#9999ff;">กิจกรรม<br /></span>1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“การเก็บของเข้าที่”<br />“ดูแลรักษาสิ่งของ ไม่ทำลายข้าวของ”<br />2. ครูแนะนำและสาธิตวิธีการเล่นเกมการศึกษา<br />3. เด็กแต่ละกลุ่มเล่นเกมการศึกษา<br />4. เด็กผลัดเปลี่ยนกันตรวจสอบความถูกต้องของเกมการศึกษาที่เล่น<br />5. เด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่<br /><span style="color:#9999ff;">สื่อการเรียนรู้</span><br />เกมอนุกรมปลา<br />เกมที่เคยเล่นมาแล้ว<br /><span style="color:#9999ff;">ประเมินผล<br /></span>1. สังเกตการตั้งใจฟังคำแนะนำการเล่นเกม<br />2. สังเกตการเล่นร่วมกับผู้อื่นได้<br />3. สังเกตการสังเกตและจำแนกได้<br />4. สังเกตการเอื้อเฟื้อและรอคอยได้<br /><br /><span style="color:#ff6666;">วันที่ 3 กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ<br /></span><span style="color:#9999ff;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ได้<br />2. เด็กฟังและปฏิบัติตามสัญญาณได้<br />3. เด็กเคลื่อนไหวตามจินตนาการได้<br /><span style="color:#9999ff;">เนื้อหา</span><br />การฟังและการปฏิบัติตามสัญญาณ<br />การเคลื่อนไหวตามจินตนาการ<br /><span style="color:#9999ff;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็กปฏิบัติกิจกรรมเคลื่อนไหวพื้นฐานโดยเคลื่อนไหวเดินรอบๆ ห้องตามการเคาะ<br />จังหวะ โดยไม่ชนกับเพื่อน<br />เคาะจังหวะ ช้า -เร็ว<br />3. เมื่อได้ยินสัญญาณหยุดให้หยุดเคลื่อนไหวทันที<br />4. ครูให้สัญญาณหยุดโดยการรัวเครื่องเคาะจังหวะ<br />5. เด็ก ๆ เคลื่อนไหวตามจินตนาการ<br /><span style="color:#9999ff;">สื่อการเรียนรู้</span><br />เครื่องเคาะจังหวะ<br /><span style="color:#9999ff;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ<br />2. สังเกตการฟังและปฏิบัติตามสัญญาณ<br />3. สังเกตการเคลื่อนไหวตามจินตนาการ<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเสริมประสบการณ์<br /></span><span style="color:#9999ff;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กฟังและตอบคำถามครูได้<br />2. เด็กสนทนาร่วมกับเพื่อนและครูได้<br />3. เด็กสืบค้นข้อมูลแล้วนำเสนอข้อมูลหน้าชั้นเรียนได้<br />4. เด็กเสนอและฟังความคิดเห็นของตนเองและผู้อื่นได้<br /><span style="color:#9999ff;">เนื้อหา<br /></span>การนำเสนอการสืบค้นรายการอาหารที่ทำจากปลาทูน่า<br /><span style="color:#9999ff;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็ก ๆ เสนอความคิดเห็นของตนเองและผู้อื่นในหัวข้อ การหาข้อมูลรายการอาหารที่ทำจากปลาทูน่า<br />“ เด็ก ๆช่วยกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรายการอาหาร”<br />“ ปลาทูน่าทำอาหารอะไรได้บ้าง”<br />“เด็ก ๆ ทราบว่าปลาทำอาหารได้จากใคร”<br />3. ครูนำเสนอภาพรายการอาหารที่ทำจากปลาทูน่ากับเด็ก ๆ<br />4. เด็ก ๆ เลือกทำอาหารจากปลาทูน่า จากรายการอาหารที่ครูนำเสนอแล้วตนเองสนใจ<br /><span style="color:#9999ff;">สื่อการเรียนรู้</span><br />ภาพรายการอาหารที่ทำจากปลาทูน่า<br /><span style="color:#9999ff;">ประเมินผล<br /></span>1. สังเกตการฟังและตอบคำถามครู<br />2. สังเกตการสนทนาร่วมกับเพื่อนและครู<br />3. สังเกตการสืบค้นข้อมูลแล้วนำเสนอข้อมูลหน้าชั้นเรียน<br />4. สังเกตการเสนอและฟังความคิดเห็นของตนเองและผู้อื่น<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์</span><br /><span style="color:#9999ff;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำได้<br />2. เด็กเลือกกิจกรรมตามความสนใจได้<br />3. เด็กปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจได้<br />4. เด็กเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟังตามความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการได้<br />5. เด็กช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่ได้<br /><span style="color:#9999ff;">เนื้อหา</span><br />กิจกรรมศิลปะได้แก่ 1. กิจกรรมสีน้ำ 2.กิจกรรมสีเทียน 3. กิจกรรมฉีกปะ 4.กิจกรรมปั้นแป้งโด 5. กิจกรรมร้อยลูกปัด กิจกรรมใหม่ คือ การปะติดเมล็ดถั่วเหลือง<br /><span style="color:#9999ff;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“เก็บของเล่นเข้าที่”<br />“ทำความสะอาดอุปกรณ์”<br />2. ครูแนะนำอุปกรณ์ใหม่และวิธีการใช้คือ การปะติดเมล็ดถั่วเหลือง<br />3. เด็ก เลือกทำกิจกรรมศิลปะตามความสนใจ<br />4. เด็กเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟัง<br />5. เด็กช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่<br /><span style="color:#9999ff;">สื่อการเรียนรู้</span><br />อุปกรณ์ในการทำกิจกรรมศิลปะ<br /><span style="color:#9999ff;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำ<br />2. สังเกตการเลือกกิจกรรมตามความสนใจ<br />3. สังเกตการปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจ<br />4. สังเกตการเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟังตามความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ<br />5. สังเกตการช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเสรี<br /></span><span style="color:#9999ff;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กฟังและทำกิจกรรมในมุมประสบการณ์ใหม่ได้<br />2. เด็กเลือกเข้ามุมตามความสนใจ<br />3. เด็กเรียนรู้ด้วยตนเองจากการสังเกตสำรวจได้<br />4. เด็กสนทนาโต้ตอบกับเพื่อนได้<br />5. เด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่ได้<br /><span style="color:#9999ff;">เนื้อหา</span><br />มุมประสบการณ์ที่มีอุปกรณ์ใหม่ได้แก่ มุมบ้าน คือ ภาพรายการอาหารที่ทำจากปลาทูน่า<br />มุมศิลปะคือ ปะติดเมล็ดถั่วเหลือง และมุมเกมการศึกษาคือ เกมทอยลูกเต๋าปลา<br /><span style="color:#9999ff;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“ เก็บของเล่นเข้าที่หลังได้ยินสัญญาณเปลี่ยนมุม ”<br />“ ไม่ส่งเสียงดัง ”<br />2. ครูแนะนำมุมใหม่พร้อมทั้งอธิบายวิธีการใช้สื่ออุปกรณ์<br />3. เด็กเลือกเข้ามุมประสบการณ์ตามความสนใจ<br />4. เด็กทำกิจกรรมในมุมเสรี<br />5. ครูให้สัญญาณเตือนให้เด็กเปลี่ยนมุม<br />6. เด็ก ๆ ช่วยกันเก็บของเข้าที่ให้เรียบร้อย<br /><span style="color:#9999ff;">สื่อการเรียนรู้</span><br />อุปกรณ์ต่าง ๆ ในมุมประสบการณ์<br /><span style="color:#9999ff;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการฟังและทำกิจกรรมในมุมประสบการณ์ใหม่ได้<br />2. สังเกตการเลือกเข้ามุมตามความสนใจ<br />3. สังเกตการเรียนรู้ด้วยตนเองจากการสังเกตสำรวจได้<br />4. สังเกตการสนทนาโต้ตอบกับเพื่อนได้<br />5. สังเกตการเด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่ได้<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมกลางแจ้ง<br /></span><span style="color:#9999ff;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กบอกข้อตกลงในการเล่นเครื่องเล่นสนาม<br />2. เด็กใช้กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กในการเล่นเครื่องเล่นสนาม<br />3. เด็กเรียนรู้การระวังรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นได้<br />4. เด็กตัดสินใจและแก้ปัญหาด้วยตนเองได้<br /><span style="color:#9999ff;">เนื้อหา</span><br />การเล่นเครื่องเล่นสนาม<br /><span style="color:#9999ff;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูทบทวนข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็กเตรียมอบอุ่นร่างกายก่อนเล่นเครื่องเล่นสนาม<br />3. เด็กเล่นเครื่องเล่นสนาม<br />4. เด็กทำความสะอาดร่างกายหลังจากเล่นเครื่องเล่นสนาม<br /><span style="color:#9999ff;">สื่อการเรียนรู้</span><br />เครื่องเล่นสนาม<br /><span style="color:#9999ff;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการบอกข้อตกลงในการเล่นเครื่องเล่นสนาม<br />2. สังเกตการใช้กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กในการเล่นเครื่องเล่นสนาม<br />3. สังเกตการเรียนรู้การระวังรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นได้<br />4. สังเกตการตัดสินใจและแก้ปัญหาด้วยตนเองได้<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเกมการศึกษา</span><br /><span style="color:#9999ff;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กตั้งใจฟังคำแนะนำการเล่นเกม<br />2. เด็กเล่นร่วมกับผู้อื่นได้<br />3. เด็กสังเกตและจำแนกได้<br />4. เด็กเอื้อเฟื้อและรอคอยได้<br /><span style="color:#9999ff;">เนื้อหา</span><br />เกมทอยลูกเต๋าปลา<br />เกมที่เคยเล่นมาแล้ว<br /><span style="color:#9999ff;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“การเก็บของเข้าที่”<br />“ดูแลรักษาสิ่งของ ไม่ทำลายข้าวของ”<br />5. ครูแนะนำและสาธิตวิธีการเล่นเกมการศึกษา<br />6. เด็กแต่ละกลุ่มเล่นเกมการศึกษา<br />7. เด็กผลัดเปลี่ยนกันตรวจสอบความถูกต้องของเกมการศึกษาที่เล่น<br />8. เด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่<br /><span style="color:#9999ff;">สื่อการเรียนรู้</span><br />เกมทอยลูกเต๋าปลา<br />เกมที่เคยเล่นมาแล้ว<br /><span style="color:#9999ff;">ประเมินผล<br /></span>1. สังเกตการตั้งใจฟังคำแนะนำการเล่นเกม<br />2. สังเกตการเล่นร่วมกับผู้อื่นได้<br />3. สังเกตการสังเกตและจำแนกได้<br />4. สังเกตการเอื้อเฟื้อและรอคอยได้<br /><br /><br /><span style="color:#ff6666;">วันที่ 4 กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ</span><br /><span style="color:#9999ff;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ได้<br />2. เด็กฟังและปฏิบัติตามสัญญาณได้<br />3. เด็กเคลื่อนไหวตามจินตนาการได้<br /><span style="color:#9999ff;">เนื้อหา</span><br />การฟังและการปฏิบัติตามสัญญาณ<br />การเคลื่อนไหวตามจินตนาการ<br /><span style="color:#9999ff;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็กปฏิบัติกิจกรรมเคลื่อนไหวพื้นฐานโดยเคลื่อนไหวร่างกายเดินหมุนตัวไปรอบ ๆ ห้องตามการเคาะจังหวะ โดยไม่ชนกับเพื่อน<br />3. เมื่อได้ยินสัญญาณหยุดให้หยุดเคลื่อนไหวทันที<br />4. ครูให้สัญญาณหยุดโดยการรัวเครื่องเคาะจังหวะ<br />5. เด็ก ๆ เคลื่อนไหวตามจินตนาการ<br /><span style="color:#9999ff;">สื่อการเรียนรู้</span><br />เครื่องเคาะจังหวะ<br /><span style="color:#9999ff;">ประเมินผล<br /></span>1. สังเกตการเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ<br />2. สังเกตการฟังและปฏิบัติตามสัญญาณ<br />3. สังเกตการเคลื่อนไหวตามจินตนาการ<br />4. สังเกตการเคลื่อนไหวตามคำบรรยาย<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเสริมประสบการณ์<br /></span><span style="color:#9999ff;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กฟังและตอบคำถามครูได้<br />2. เด็กสนทนาร่วมกับเพื่อนและครูได้<br />3. เด็กบอกวัตถุดิบของการทำสลัดและแซนวิสทูน่าได้<br />4. เด็กปรุงอาหารด้วยตนเองได้<br />5. เด็กเสนอและฟังความคิดเห็นของตนเองและผู้อื่นได้<br /><span style="color:#9999ff;">เนื้อหา</span><br />การประกอบอาหารที่ทำจากปลาทูน่า<br /><span style="color:#9999ff;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็ก ๆ และครูทบทวนอุปกรณ์สำหรับการปะกอบอาหารร่วมกัน<br />“อุปกรณ์มีอะไรบ้าง”<br />“มีขั้นตอนการทำอย่างไร”<br />3. ครูสาธิตวิธีการประกอบอาหารให้เด็กดูเป็นตัวอย่าง<br />4. เด็ก ๆ ประกอบอาหารที่ทำจากปลาทูน่าด้วยตนเอง<br />“ รสชาติของสลัดเป็นอย่างไร”<br />“รสชาติของแซนวิสเป็นอย่างไร”<br />5. เด็ก ๆ นำรายการอาหารที่ทำในวันนี้ไปฝากคุณพ่อคุณแม่<br /><span style="color:#9999ff;">สื่อการเรียนรู้</span><br />อุปกรณ์สำหรับประกอบอาหารสลัดทูน่าและแซนวิสทูน่า<br /><span style="color:#9999ff;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการฟังและตอบคำถามครู<br />3. สังเกตการสนทนาร่วมกับเพื่อนและครู<br />4. สังเกตการบอกวัตถุดิบของการทำสลัดและแซนวิสทูน่า<br />5. สังเกตการปรุงอาหารด้วยตนเอง<br />6. สังเกตการเสนอและฟังความคิดเห็นของตนเองและผู้อื่น<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์<br /></span><span style="color:#9999ff;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำได้<br />2. เด็กเลือกกิจกรรมตามความสนใจได้<br />3. เด็กปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจได้<br />4. เด็กเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟังตามความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการได้<br />5. เด็กช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่ได้<br /><span style="color:#9999ff;">เนื้อหา</span><br />กิจกรรมศิลปะได้แก่ 1. กิจกรรมสีน้ำ 2.กิจกรรมสีเทียน 3. กิจกรรมฉีกปะ 4.กิจกรรมปั้นแป้งโด </div><div>5. กิจกรรมร้อยลูกปัด กิจกรรมใหม่ คือ ระบายสีด้วยหมึกจีน<br /><span style="color:#9999ff;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“เก็บของเล่นเข้าที่”<br />“ทำความสะอาดอุปกรณ์”<br />2. ครูแนะนำอุปกรณ์ใหม่และวิธีการใช้คือ ระบายสีด้วยหมึกจีน<br />3. เด็ก เลือกทำกิจกรรมศิลปะตามความสนใจ<br />4. เด็กเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟัง<br />5. เด็กช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่<br /><span style="color:#9999ff;">สื่อการเรียนรู้</span><br />อุปกรณ์ในการทำกิจกรรมศิลปะ<br /><span style="color:#9999ff;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำ<br />2. สังเกตการเลือกกิจกรรมตามความสนใจ<br />3. สังเกตการปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจ<br />4. สังเกตการเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟังตามความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ<br />5. สังเกตการณ์ช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเสรี<br /></span><span style="color:#9999ff;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กฟังและทำกิจกรรมในมุมประสบการณ์ใหม่ได้<br />2. เด็กเลือกเข้ามุมตามความสนใจ<br />3. เด็กเรียนรู้ด้วยตนเองจากการสังเกตสำรวจได้<br />4. เด็กสนทนาโต้ตอบกับเพื่อนได้<br />5. เด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่ได้<br /><span style="color:#9999ff;">เนื้อหา</span><br />มุมประสบการณ์ที่มีอุปกรณ์ใหม่ได้แก่ มุมศิลปะคือ ระบายสีด้วยหมึกจีน และมุมเกมการศึกษาคือ เกมจับคู่ความสัมพันธ์ภาพปลากับคำ<br /><span style="color:#9999ff;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“ เก็บของเล่นเข้าที่หลังได้ยินสัญญาณเปลี่ยนมุม ”<br />“ ไม่ส่งเสียงดัง ”<br />2. ครูแนะนำมุมใหม่พร้อมทั้งอธิบายวิธีการใช้สื่ออุปกรณ์<br />3. เด็กเลือกเข้ามุมประสบการณ์ตามความสนใจ<br />4. เด็กทำกิจกรรมในมุมเสรี<br />5. ครูให้สัญญาณเตือนให้เด็กเปลี่ยนมุม<br />6. เด็ก ๆ ช่วยกันเก็บของเข้าที่ให้เรียบร้อย<br /><span style="color:#9999ff;">สื่อการเรียนรู้</span><br />อุปกรณ์ต่าง ๆ ในมุมประสบการณ์<br /><span style="color:#9999ff;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการฟังและทำกิจกรรมในมุมประสบการณ์ใหม่ได้<br />2. สังเกตการเลือกเข้ามุมตามความสนใจ<br />3. สังเกตการเรียนรู้ด้วยตนเองจากการสังเกตสำรวจได้<br />4. สังเกตการสนทนาโต้ตอบกับเพื่อนได้<br />5. สังเกตการเด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่ได้<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมกลางแจ้ง<br /></span><span style="color:#9999ff;">จุดประสงค์<br /></span>1. เด็กบอกข้อตกลงในการเล่นเกมตักน้ำใส่ขวด<br />2. เด็กใช้กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กในการเล่นเกมตักน้ำใส่ขวด<br />3. เด็กเรียนรู้การระวังรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นได้<br />4. เด็กตัดสินใจและแก้ปัญหาด้วยตนเองได้<br /><span style="color:#9999ff;">เนื้อหา</span><br />การเล่นเกมตักน้ำใส่ขวด<br /><span style="color:#9999ff;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูทบทวนข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็กเตรียมอบอุ่นร่างกายก่อนเล่นเกมตักน้ำใส่ขวด<br />3. ครูแนะนำและบอกวิธีการเล่นเกมตักน้ำใส่ขวด<br />- เด็กเข้าแถวเป็น 2 กลุ่ม<br />- วิ่งผลัดเปลี่ยนกันเติมน้ำให้เต็ม<br />4. เด็กทำความสะอาดร่างกายหลังจากเล่นเกมส่งบอลด้วยผ้า<br /><span style="color:#9999ff;">สื่อการเรียนรู้</span><br />1. แก้วน้ำขนาดเล็ก<br />2. ขวดน้ำ<br /><span style="color:#9999ff;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการบอกข้อตกลงในการเล่นเกมตักน้ำใส่ขวด<br />2. สังเกตการใช้กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กในการเล่นเกมตักน้ำใส่ขวด<br />3. สังเกตการเรียนรู้การระวังรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นได้<br />4. สังเกตการตัดสินใจและแก้ปัญหาด้วยตนเองได้<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเกมการศึกษา<br /></span><span style="color:#9999ff;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กตั้งใจฟังคำแนะนำการเล่นเกม<br />2. เด็กเล่นร่วมกับผู้อื่นได้<br />3. เด็กสังเกตและจำแนกได้<br />4. เด็กเอื้อเฟื้อและรอคอยได้<br /><span style="color:#9999ff;">เนื้อหา</span><br />เกมจับคู่ความสัมพันธ์ภาพปลากับคำ<br />เกมที่เคยเล่นมาแล้ว<br /><span style="color:#9999ff;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“การเก็บของเข้าที่”<br />“ดูแลรักษาสิ่งของ ไม่ทำลายข้าวของ”<br />2. ครูแนะนำและสาธิตวิธีการเล่นเกมการศึกษา<br />3. เด็กแต่ละกลุ่มเล่นเกมการศึกษา<br />4. เด็กผลัดเปลี่ยนกันตรวจสอบความถูกต้องของเกมการศึกษาที่เล่น<br />5. เด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่<br /><span style="color:#9999ff;">สื่อการเรียนรู้</span><br />เกมจับคู่ความสัมพันธ์ภาพปลากับคำ<br />เกมที่เคยเล่นมาแล้ว<br /><span style="color:#9999ff;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการตั้งใจฟังคำแนะนำการเล่นเกม<br />2. สังเกตการเล่นร่วมกับผู้อื่นได้<br />3. สังเกตการสังเกตและจำแนกได้<br />4. สังเกตการเอื้อเฟื้อและรอคอยได้<br /><br /><span style="color:#ff6666;">วันที่ 5 กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ<br /></span><span style="color:#9999ff;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ได้<br />2. เด็กฟังและปฏิบัติตามสัญญาณได้<br />3. เด็กเคลื่อนไหวตามจินตนาการได้<br /><span style="color:#9999ff;">เนื้อหา</span><br />การฟังและการปฏิบัติตามสัญญาณ<br />การเคลื่อนไหวตามจินตนาการ<br />การเคลื่อนไหวตามคำบรรยาย<br /><span style="color:#9999ff;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็กปฏิบัติกิจกรรมเคลื่อนไหวพื้นฐานโดยเคลื่อนไหวหมุนตัวอยู่กับที่ ตามการเคาะจังหวะ โดยไม่ชนกับเพื่อน<br />3. เมื่อได้ยินสัญญาณหยุดให้หยุดเคลื่อนไหวทันที<br />4. ครูให้สัญญาณหยุดโดยการรัวเครื่องเคาะจังหวะ<br />5. เด็ก ๆ เคลื่อนไหวตามจินตนาการ<br /><span style="color:#9999ff;">สื่อการเรียนรู้</span><br />เครื่องเคาะจังหวะ<br /><span style="color:#9999ff;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ<br />2. สังเกตการฟังและปฏิบัติตามสัญญาณ<br />3. สังเกตการเคลื่อนไหวตามจินตนาการ<br />4. สังเกตการเคลื่อนไหวตามคำบรรยาย<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเสริมประสบการณ์<br /></span><span style="color:#9999ff;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กฟังและตอบคำถามครูได้<br />2. เด็กสนทนาร่วมกับเพื่อนและครูได้<br />3. เด็กบอกลักษณะของตัวละครปลาทองผู้เย่อหยิ่งได้<br />4. เด็กทบทวนเรื่องราวของนิทานได้<br />5. เด็กเสนอและฟังความคิดเห็นของตนเองและผู้อื่นได้<br /><span style="color:#9999ff;">เนื้อหา</span><br />การสนทนาลักษณะภายนอกของปลา<br /><span style="color:#9999ff;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. ครูแนะนำหนังสือนิทานเรื่อง ปลาทองผู้เย่อหยิ่ง<br />3. เด็ก ๆ สังเกตหน้าปกหนังสือ สังเกตคำ การเปิดหนังสือ<br />4. เด็กฟังนิทานเรื่องปลาทองผู้เย่อหยิ่งแล้วทบทวนเรื่องราวอีกครั้ง<br />“ ตัวละครที่เด็ก ๆ ชื่นชอบคือตัวละครใด เพราะเหตุใด”<br />“ปลาทองมีลักษณะอย่างไร”<br /><span style="color:#9999ff;">สื่อการเรียนรู้</span><br />ภาพลักษณะทั่วไปของปลา<br /><span style="color:#9999ff;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการฟังและตอบคำถามครู<br />2. สังเกตการสนทนาร่วมกับเพื่อนและครู<br />3. สังเกตการบอกลักษณะของตัวละครปลาทองผู้เย่อหยิ่ง<br />4. สังเกตการณ์ทบทวนเรื่องราวของนิทาน<br />5. สังเกตการเสนอและฟังความคิดเห็นของตนเองและผู้อื่น<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์<br /></span><span style="color:#9999ff;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำได้<br />2. เด็กเลือกกิจกรรมตามความสนใจได้<br />3. เด็กปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจได้<br />4. เด็กเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟังตามความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการได้<br />5. เด็กช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่ได้<br /><span style="color:#9999ff;">เนื้อหา</span><br />กิจกรรมศิลปะได้แก่ 1. กิจกรรมสีน้ำ 2.กิจกรรมสีเทียน 3. กิจกรรมฉีกปะ 4.กิจกรรมปั้นแป้งโด<br />5. กิจกรรมร้อยลูกปัด กิจกรรมใหม่ คือ ปะติดเกลือสี<br /><span style="color:#9999ff;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“เก็บของเล่นเข้าที่”<br />“ทำความสะอาดอุปกรณ์”<br />2. ครูแนะนำอุปกรณ์ใหม่และวิธีการใช้คือปะติดเกลือสี<br />3. เด็ก เลือกทำกิจกรรมศิลปะตามความสนใจ<br />4. เด็กเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟัง<br />5. เด็กช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่<br /><span style="color:#9999ff;">สื่อการเรียนรู้</span><br />อุปกรณ์ในการทำกิจกรรมศิลปะ<br /><span style="color:#9999ff;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำ<br />2. สังเกตการเลือกกิจกรรมตามความสนใจ<br />3. สังเกตการปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจ<br />4. สังเกตการเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟังตามความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ<br />5. สังเกตการช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเสรี<br /></span><span style="color:#9999ff;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กฟังและทำกิจกรรมในมุมประสบการณ์ใหม่ได้<br />2. เด็กเลือกเข้ามุมตามความสนใจ<br />3. เด็กเรียนรู้ด้วยตนเองจากการสังเกตสำรวจได้<br />4. เด็กสนทนาโต้ตอบกับเพื่อนได้<br />5. เด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่ได้<br /><span style="color:#9999ff;">เนื้อหา</span> </div><div>มุมประสบการณ์ที่มีอุปกรณ์ใหม่ได้แก่ มุมอ่านคือ นิทานปลาทองผู้เย่อหยิ่ง<br />มุมศิลปะคือ เกลือสี และมุมเกมการศึกษาคือ เกมโยงภาพปลา<br /><span style="color:#9999ff;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“ เก็บของเล่นเข้าที่หลังได้ยินสัญญาณเปลี่ยนมุม ”<br />“ ไม่ส่งเสียงดัง ”<br />2. ครูแนะนำมุมใหม่พร้อมทั้งอธิบายวิธีการใช้สื่ออุปกรณ์<br />3. เด็กเลือกเข้ามุมประสบการณ์ตามความสนใจ<br />4. เด็กทำกิจกรรมในมุมเสรี<br />5. ครูให้สัญญาณเตือนให้เด็กเปลี่ยนมุม<br />6. เด็ก ๆ ช่วยกันเก็บของเข้าที่ให้เรียบร้อย<br /><span style="color:#9999ff;">สื่อการเรียนรู้</span><br />อุปกรณ์ต่าง ๆ ในมุมประสบการณ์<br /><span style="color:#9999ff;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการฟังและทำกิจกรรมในมุมประสบการณ์ใหม่ได้<br />2. สังเกตการเลือกเข้ามุมตามความสนใจ<br />3. สังเกตการเรียนรู้ด้วยตนเองจากการสังเกตสำรวจได้<br />4. สังเกตการสนทนาโต้ตอบกับเพื่อนได้<br />5. สังเกตการเด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่ได้<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมกลางแจ้ง<br /></span><span style="color:#9999ff;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กบอกข้อตกลงในการเล่นเกมเตะบอลส่งให้เพื่อน<br />2. เด็กใช้กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กในการเล่นเตะบอลส่งให้เพื่อน<br />3. เด็กเรียนรู้การระวังรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นได้<br />4. เด็กตัดสินใจและแก้ปัญหาด้วยตนเองได้<br /><span style="color:#9999ff;">เนื้อหา</span><br />การเล่นเตะบอลส่งให้เพื่อน<br /><span style="color:#9999ff;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูทบทวนข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็กเตรียมอบอุ่นร่างกายก่อนเล่นเตะบอลส่งให้เพื่อน<br />3. ครูแนะนำและบอกวิธีการเล่นเตะบอลส่งให้เพื่อน<br />- แบ่งกลุ่ม 2 กลุ่ม<br />- และกลุ่มเตะบอลลำเลียงส่งให้เพื่อนจากคนแรกจนถึงคนสุดท้าย<br />4. เด็กทำความสะอาดร่างกายหลังจากเล่นเกมส่งบอลด้วยผ้า<br /><span style="color:#9999ff;">สื่อการเรียนรู้</span><br />ลูกบอล<br /><span style="color:#9999ff;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการบอกข้อตกลงในการเล่นเตะบอลส่งให้เพื่อน<br />2. สังเกตการใช้กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กในการเล่นเตะบอลส่งให้เพื่อน<br />3. สังเกตการเรียนรู้การระวังรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นได้<br />4. สังเกตการตัดสินใจและแก้ปัญหาด้วยตนเองได้<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเกมการศึกษา<br /></span><span style="color:#9999ff;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กตั้งใจฟังคำแนะนำการเล่นเกม<br />2. เด็กเล่นร่วมกับผู้อื่นได้<br />3. เด็กสังเกตและจำแนกได้<br />4. เด็กเอื้อเฟื้อและรอคอยได้<br /><span style="color:#9999ff;">เนื้อหา</span><br />เกมต่อภาพปลา<br />เกมที่เคยเล่นมาแล้ว<br /><span style="color:#9999ff;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“การเก็บของเข้าที่”<br />“ดูแลรักษาสิ่งของ ไม่ทำลายข้าวของ”<br />2. ครูแนะนำและสาธิตวิธีการเล่นเกมการศึกษา<br />3. เด็กแต่ละกลุ่มเล่นเกมการศึกษา<br />4. เด็กผลัดเปลี่ยนกันตรวจสอบความถูกต้องของเกมการศึกษาที่เล่น<br />5. เด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่<br /><span style="color:#9999ff;">สื่อการเรียนรู้</span><br />เกมต่อภาพปลา<br />เกมที่เคยเล่นมาแล้ว<br /><span style="color:#9999ff;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการตั้งใจฟังคำแนะนำการเล่นเกม<br />2. สังเกตการเล่นร่วมกับผู้อื่นได้<br />3. สังเกตการสังเกตและจำแนกได้<br />4. สังเกตการเอื้อเฟื้อและรอคอยได้</div></div></div></div></div>PIANGRAWEEhttp://www.blogger.com/profile/02293285365271587828noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4117858063577048916.post-35094391974268871882008-10-20T23:11:00.000-07:002008-10-22T01:57:06.636-07:00การจัดประสบการณ์ หน่วยต้นไม้ สัปดาห์ที่ 10<div align="center"> </div><div align="center"><span style="color:#330099;"></span><br /></div><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi1g7DCldMfFKATAINU6TEfqLmWKqvYhljn8xBBl6o4kRWyhE5qcP5JWT_7U3J4w70GZzjVof0iN6vxLt1Zn865tkYr2io1Y8Xf1fGmqu-_pAjFcoX9iQWx_lVc4cYwWXVnFP2QzEusWhhZ/s1600-h/DSCN1150.JPG"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5259831088961949698" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; CURSOR: hand" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi1g7DCldMfFKATAINU6TEfqLmWKqvYhljn8xBBl6o4kRWyhE5qcP5JWT_7U3J4w70GZzjVof0iN6vxLt1Zn865tkYr2io1Y8Xf1fGmqu-_pAjFcoX9iQWx_lVc4cYwWXVnFP2QzEusWhhZ/s320/DSCN1150.JPG" border="0" /></a><br /><br /><br /><br /><br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgqonby7xxT7nHepn-uFooLZYDgRfkb5BsCNVct8XCjj-GsaPhDXyJS-eCioU-d8dDSKQk5hNobSyjjTvaZtma2AI957xgRhPHMr5gmc9YHHe_J-0dhfg6htMCab6lPUqCd-0IDwcnQyp_2/s1600-h/DSCN1151.JPG"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5259831279937826226" style="FLOAT: right; MARGIN: 0px 0px 10px 10px; CURSOR: hand" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgqonby7xxT7nHepn-uFooLZYDgRfkb5BsCNVct8XCjj-GsaPhDXyJS-eCioU-d8dDSKQk5hNobSyjjTvaZtma2AI957xgRhPHMr5gmc9YHHe_J-0dhfg6htMCab6lPUqCd-0IDwcnQyp_2/s320/DSCN1151.JPG" border="0" /></a><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br /><div align="center"><br /></div><p><br /><br /><br /></p><p><br /></p><div align="center"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgd0lRn_GHgs3vnLSAgDkf7XKPiFHXmaY-5LVij50p7zMHz9DwQLpjunYXKujJVUaCxxOJG66g21bGthDvfhdZg15kDY5Hv39RFHq4MzMRZi4NVZhPoHV2Sbjn_B34_aESMB5yhOH4u2a2G/s1600-h/DSCN1151.JPG"></a>ภาพที่ 1 เด็ก ๆ เดินสำรวจ ต้นไม้ที่ตนเองรู้จัก รอบ ๆ บริเวณโรงเรียน เด็ก ๆ เดินเป็นแถวสังเกตสภาพแวดล้อมภายนอกห้องเรียน </div><br /><div align="center"><br /><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5259830707308492706" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; CURSOR: hand; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjISfAOegNdDDxqjFyjoiyxKHdpH1mqhsja46WWVJxHMwl1pyX6RnzkOjn7aEW7gqI0O7VsoCwHtWzVN-T-hGCAULkIY6FmQepvq9YGEO6jZZuqYx_treZnOroLGYoQ4XHBwqvX-FMbk9jw/s320/DSCN1153.JPG" border="0" /><br /></div><div align="center">ภาพที่ 2 เด็ก ๆเลือกสังเกตลักษณะของเปลือกไม้ ของต้นไม้ชนิดที่เด็ก ๆรู้จัก เช่น ต้นหางนกยูง ต้นนนทรี แรเงาลักษณะของเปลือกไม้ด้วยสีเทียน<br /></div><br /><br /><div align="center"></div><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5259830230368363362" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; CURSOR: hand; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjr5sQgEdICyeewX3RnX-Uiz40-HHp8Jt4qmQgXkDG_JmR2Nq-XwvrwxHyQOMfWVhjQlyOX99gdx2nLtvwD4outHMUVS2hrM9unTorxku3ct1kpZo6ZIKvzLtvMY584dEw2gQ-aYtkyfBkS/s320/DSCN1155.JPG" border="0" /><br /><div align="center">ภาพที่ 3 เด็ก ๆ ปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเอง มีการสนทนาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน </div><div align="center"><br /></div><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5259829689813531186" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; CURSOR: hand; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiWwi4RqUQ21EBrW54KdfvsWpSy0ArJQRbhD3Do4PKK7BOGzCgPfFiI2PDhxJaQVmXrLoSKDH-PrFuF4pOzAuLEXrXANZDUzSvtH7zZWhKIJw92PCEXl6ZXouSs_OITvIxu7wIvXw9wZXO2/s320/DSCN0552.JPG" border="0" /><br /><br /><div align="center">ภาพที่ 4 เกมร้อยเชือกตามรูปทรงของต้นไม้<br /></div><br /><br /><div align="center"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhKjJphh-fKYSxVb6KKn5u5I3yzK8DbFJlhdIQJKqM_36TRGOJJ_lSEludN3-FZBsIiFuEbQjvRRN29dEKms8CayrUKAAIEKPHqgtG66ba7l9ZnaF_Ngd45UgFTtjuxhqsV7H4RD6QnCpDU/s1600-h/DSCN0517.JPG"></a></div><p><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5259829135296003794" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; CURSOR: hand; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiAhHSdDUfMsbWOkvKTo3DTyhUcv-kXHmMiNBsfIhuBcihRUZT_0IhvcuH0VMEYkjzPmZPlZkehMCBnDeCIpxs5oz-_QbL4CVoTJ6F5CtMMZ5Rybmwb94aZ3j_x49MqHUt2mtbwO5PlUBqh/s320/DSCN0517.JPG" border="0" /> </p><p> ภาพที่ 5 เกมต่อชิ้นส่วนที่หายไป<br /><br /><br /><span style="color:#ff6666;">วันที่ 1 กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ</span><br /><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์<br /></span>1. เด็กเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ได้<br />2. เด็กฟังและปฏิบัติตามสัญญาณได้<br />3. เด็กเคลื่อนไหวตามจินตนาการได้<br />4. เด็กเคลื่อนไหวแสดงสีหน้าท่าทางได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา</span><br />การฟังและการปฏิบัติตามสัญญาณ<br />การเคลื่อนไหวตามจินตนาการ<br />การเคลื่อนไหวแสดงสีหน้าท่าทาง<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม<br /></span>1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็กปฏิบัติกิจกรรมเคลื่อนไหวพื้นฐานโดยเคลื่อนไหวร่างกายหมุนตัวตามการเคาะจังหวะ โดยไม่ชนกับเพื่อน<br />3. เมื่อได้ยินสัญญาณหยุดให้หยุดเคลื่อนไหวทันที<br />4. ครูให้สัญญาณหยุดโดยการรัวเครื่องเคาะจังหวะ<br />5. เด็ก ๆ เคลื่อนไหวตามจินตนาการแสดงสีหน้าท่าทาง<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br />เครื่องเคาะจังหวะ<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ<br />2. สังเกตการฟังและปฏิบัติตามสัญญาณ<br />3. สังเกตการเคลื่อนไหวตามจินตนาการ<br />4. สังเกตการเคลื่อนไหวแสดงสีหน้าท่าทาง<br /><br /></span><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเสริมประสบการณ์<br /></span><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กฟังและตอบคำถามครูได้<br />2. เด็กสนทนาร่วมกับเพื่อนและครูได้<br />3. เด็กบอกลักษณะของตัวละครนิทานพระราชาบนดาวสีเขียวได้<br />4. เด็กบอกสาเหตุของการลดลงของต้นไม้ได้<br />5. เด็กเสนอและฟังความคิดเห็นของตนเองและผู้อื่นได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา</span><br />การเล่านิทานพระราชาบนดาวสีเขียวโดยครู<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็กทบทวนการระดมความคิดในเรื่องที่สนใจ<br />“หัวข้อที่เราสนใจคือเรื่องอะไร”<br />“เด็ก ๆ ต้องการเพิ่มเติมส่วนไหน อยากรู้อะไรเพิ่มเติม และเพราะอะไร”<br />3. ครูแนะนำหนังสือนิทานพระราชาบนดาวสีเขียว<br />“ เด็ก ๆสังเกตเห็นอะไรในหนังสือบ้าง”<br />4. เด็ก ๆทบทวนเรื่องราวของนิทานพระราชาบนดาวสีเขียว<br />5. เด็ก ๆแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสาเหตุของการลดลงของต้นไม้<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br />หนังสือนิทานพระราชาบนดาวสีเขียว<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการฟังและตอบคำถามครู<br />2. สังเกตการสนทนาร่วมกับเพื่อนและครู<br />3. สังเกตการบอกลักษณะของตัวละครนิทานพระราชาบนดาวสีเขียว<br />4. สังเกตการบอกสาเหตุของการลดลงของต้นไม้<br />5. สังเกตการเสนอและฟังความคิดเห็นของตนเองและผู้อื่น<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์</span><br /><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์<br /></span>1. เด็กฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำได้<br />2. เด็กเลือกกิจกรรมตามความสนใจได้<br />3. เด็กปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจได้<br />4. เด็กเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟังตามความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการได้<br />5. เด็กช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่ได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา<br /></span>กิจกรรมศิลปะได้แก่ 1. กิจกรรมสีน้ำ 2.กิจกรรมสีเทียน 3. กิจกรรมฉีกปะ 4.กิจกรรมปั้นแป้งโด 5. กิจกรรมร้อยลูกปัด<br />กิจกรรมใหม่ คือ พิมพ์แป้งโดด้วยกิ่งไม้แห้ง<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“เก็บของเล่นเข้าที่”<br />“ทำความสะอาดอุปกรณ์”<br />2. ครูแนะนำอุปกรณ์ใหม่และวิธีการใช้คือ พิมพ์แป้งโดด้วยกิ่งไม้แห้ง<br />3. เด็ก เลือกทำกิจกรรมศิลปะตามความสนใจ<br />4. เด็กเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟัง<br />5. เด็กช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br />อุปกรณ์ในการทำกิจกรรมศิลปะ<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำ<br />2. สังเกตการเลือกกิจกรรมตามความสนใจ<br />3. สังเกตการปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจ<br />4. สังเกตการเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟังตามความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ<br />5. สังเกตการช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเสรี</span><br /><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์<br /></span>1. เด็กฟังและทำกิจกรรมในมุมประสบการณ์ใหม่ได้<br />2. เด็กเลือกเข้ามุมตามความสนใจ<br />3. เด็กเรียนรู้ด้วยตนเองจากการสังเกตสำรวจได้<br />4. เด็กสนทนาโต้ตอบกับเพื่อนได้<br />5. เด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่ได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา<br /></span>มุมประสบการณ์ที่มีอุปกรณ์ใหม่ได้แก่ มุมอ่านคือ หนังสือนิทานพระราชาบนดาวสีเขียว<br />มุมศิลปะคือ พิมพ์แป้งโดด้วยกิ่งไม้แห้ง<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“ เก็บของเล่นเข้าที่หลังได้ยินสัญญาณเปลี่ยนมุม ”<br />“ ไม่ส่งเสียงดัง ”<br />2. ครูแนะนำมุมใหม่พร้อมทั้งอธิบายวิธีการใช้สื่ออุปกรณ์<br />3. เด็กเลือกเข้ามุมประสบการณ์ตามความสนใจ<br />4. เด็กทำกิจกรรมในมุมเสรี<br />5. ครูให้สัญญาณเตือนให้เด็กเปลี่ยนมุม<br />6. เด็ก ๆ ช่วยกันเก็บของเข้าที่ให้เรียบร้อย<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br />อุปกรณ์ต่าง ๆ ในมุมประสบการณ์<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการฟังและทำกิจกรรมในมุมประสบการณ์ใหม่ได้<br />2. สังเกตการเลือกเข้ามุมตามความสนใจ<br />3. สังเกตการเรียนรู้ด้วยตนเองจากการสังเกตสำรวจได้<br />4. สังเกตการสนทนาโต้ตอบกับเพื่อนได้<br />5. สังเกตการเด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่ได้<br /><br /></span><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมกลางแจ้ง<br /></span><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กบอกข้อตกลงในการเล่นเครื่องเล่นสนาม<br />2. เด็กใช้กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กในการเล่นเครื่องเล่นสนาม<br />3. เด็กเรียนรู้การระวังรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นได้<br />4. เด็กตัดสินใจและแก้ปัญหาด้วยตนเองได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา</span><br />การเล่นเครื่องเล่นสนาม<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม<br /></span>1. เด็กและครูทบทวนข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็กเตรียมอบอุ่นร่างกายก่อนเล่นเครื่องเล่นสนาม<br />3. เด็กเล่นเครื่องเล่นสนาม<br />4. เด็กทำความสะอาดร่างกายหลังจากเล่นเครื่องเล่นสนาม<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br />เครื่องเล่นสนาม<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการบอกข้อตกลงในการเล่นเครื่องเล่นสนาม<br />2. สังเกตการใช้กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กในการเล่นเครื่องเล่นสนาม<br />3. สังเกตการเรียนรู้การระวังรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นได้<br />4. สังเกตการตัดสินใจและแก้ปัญหาด้วยตนเองได้<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเกมการศึกษา</span><br /><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กตั้งใจฟังคำแนะนำการเล่นเครื่องเล่นสนาม<br />2. เด็กเล่นร่วมกับผู้อื่นได้<br />3. เด็กสังเกตและจำแนกได้<br />4. เด็กเอื้อเฟื้อและรอคอยได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา</span><br />เกมต่อภาพต้นไม้<br />เกมที่เคยเล่นมาแล้ว<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“การเก็บของเข้าที่”<br />“ดูแลรักษาสิ่งของ ไม่ทำลายข้าวของ”<br />2. ครูแนะนำและสาธิตวิธีการเล่นเกมการศึกษา<br />3. เด็กแต่ละกลุ่มเล่นเกมการศึกษา<br />4. เด็กผลัดเปลี่ยนกันตรวจสอบความถูกต้องของเกมการศึกษาที่เล่น<br />5. เด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br />เกมต่อภาพต้นไม้<br />เกมที่เคยเล่นมาแล้ว<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการตั้งใจฟังคำแนะนำการเล่นเกม<br />2. สังเกตการเล่นร่วมกับผู้อื่นได้<br />3. สังเกตการสังเกตและจำแนกได้<br />4. สังเกตการเอื้อเฟื้อและรอคอยได้<br /><br /><span style="color:#ff6666;">วันที่ 2 กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ</span><br /><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ได้<br />2. เด็กฟังและปฏิบัติตามสัญญาณได้<br />3. เด็กเคลื่อนไหวตามจินตนาการได้<br />4. เด็กเคลื่อนไหวเลียนแบบปรากฏการณ์ธรรมชาติได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา<br /></span>การฟังและการปฏิบัติตามสัญญาณ<br />การเคลื่อนไหวตามจินตนาการ<br />การเคลื่อนไหวเลียนแบบปรากฏการณ์ธรรมชาติ (การพลิ้วไหวของกิ่งไม้)<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็กปฏิบัติกิจกรรมเคลื่อนไหวพื้นฐานโดยเคลื่อนไหวเดินเขย่งปลายเท้า ตามการเคาะจังหวะ โดยไม่ชนกับเพื่อน เคาะจังหวะ หนัก- เบา<br />3. เมื่อได้ยินสัญญาณหยุดให้หยุดเคลื่อนไหวทันที<br />4. ครูให้สัญญาณหยุดโดยการรัวเครื่องเคาะจังหวะ<br />5. เด็ก ๆ เคลื่อนไหวตามจินตนาการแสดงท่าทางเลียนแบบปรากฏการณ์ธรรมชาติ (การพลิ้วไหวของกิ่งไม้)<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br />เครื่องเคาะจังหวะ<br />ซีดีเพลง<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ<br />2. สังเกตการฟังและปฏิบัติตามสัญญาณ<br />3. สังเกตการเคลื่อนไหวตามจินตนาการ<br />4. สังเกตการเคลื่อนไหวเลียนแบบปรากฏการณ์ธรรมชาติ (การพลิ้วไหวของกิ่งไม้)<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเสริมประสบการณ์ </span><br /><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์<br /></span>1. เด็กฟังและตอบคำถามครูได้<br />2. เด็กสนทนาร่วมกับเพื่อนและครูได้<br />3. เด็กสังเกตลักษณะของต้นไม้รอบๆโรงเรียนได้<br />4. เด็กเสนอและฟังความคิดเห็นของตนเองและผู้อื่นได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา</span><br />การเดินสำรวจต้นไม้รอบ ๆโรงเรียน<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็กและครูเดินสำรวจสังเกตลักษณะของต้นไม้ รอบ ๆโรงเรียน<br />“ลำต้นของต้นไม้มีลักษณะอย่างไร”<br />“เด็ก ๆรู้จักต้นไม้ชนิดใดบ้าง”<br />3. เด็ก ๆสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน<br />“เด็ก ๆ บอกส่วนประกอบของต้นไม้ว่าประกอบด้วยอะไรบ้าง”<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้<br /></span>1. กระดาษ<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการฟังและตอบคำถามครูได้<br />2. สังเกตการสนทนาร่วมกับเพื่อนและครูได้<br />3. สังเกตการบอกลักษณะของต้นไม้รอบๆโรงเรียนได้<br />4. สังเกตการเสนอและฟังความคิดเห็นของตนเองและผู้อื่นได้<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์<br /></span><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์<br /></span>1. เด็กฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำได้<br />2. เด็กเลือกกิจกรรมตามความสนใจได้<br />3. เด็กปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจได้<br />4. เด็กเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟังตามความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการได้<br />5. เด็กช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่ได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา</span><br />กิจกรรมศิลปะได้แก่ 1. กิจกรรมสีน้ำ 2.กิจกรรมสีเทียน 3. กิจกรรมฉีกปะ 4.กิจกรรมปั้นแป้งโด 5. กิจกรรมร้อยลูกปัด<br />กิจกรรมใหม่ คือ การปะติดใบไม้แห้ง<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“เก็บของเล่นเข้าที่”<br />“ทำความสะอาดอุปกรณ์”<br />2. ครูแนะนำอุปกรณ์ใหม่และวิธีการใช้คือ ปะติดใบไม้แห้งลงบนกระดาษ<br />3. เด็ก เลือกทำกิจกรรมศิลปะตามความสนใจ<br />4. เด็กเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟัง<br />5. เด็กช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br />อุปกรณ์ในการทำกิจกรรมศิลปะ<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำ<br />2. สังเกตการเลือกกิจกรรมตามความสนใจ<br />3. สังเกตการปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจ<br />4. สังเกตการเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟังตามความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ<br />5. สังเกตการช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเสรี<br /></span><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กฟังและทำกิจกรรมในมุมประสบการณ์ใหม่ได้<br />2. เด็กเลือกเข้ามุมตามความสนใจ<br />3. เด็กเรียนรู้ด้วยตนเองจากการสังเกตสำรวจได้<br />4. เด็กสนทนาโต้ตอบกับเพื่อนได้<br />5. เด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่ได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา<br /></span>มุมประสบการณ์ที่มีอุปกรณ์ใหม่ได้แก่ มุมศิลปะคือ ปะติดใบไม้แห้ง และมุมเกมการศึกษาคือ เกมจับคู่ภาพต้นไม้<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“ เก็บของเล่นเข้าที่หลังได้ยินสัญญาณเปลี่ยนมุม ”<br />“ ไม่ส่งเสียงดัง ”<br />2. ครูแนะนำมุมใหม่พร้อมทั้งอธิบายวิธีการใช้สื่ออุปกรณ์<br />3. เด็กเลือกเข้ามุมประสบการณ์ตามความสนใจ<br />4. เด็กทำกิจกรรมในมุมเสรี<br />5. ครูให้สัญญาณเตือนให้เด็กเปลี่ยนมุม<br />6. เด็ก ๆ ช่วยกันเก็บของเข้าที่ให้เรียบร้อย<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้<br /></span>อุปกรณ์ต่าง ๆ ในมุมประสบการณ์<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล<br /></span>1. สังเกตการฟังและทำกิจกรรมในมุมประสบการณ์ใหม่ได้<br />2. สังเกตการเลือกเข้ามุมตามความสนใจ<br />3. สังเกตการเรียนรู้ด้วยตนเองจากการสังเกตสำรวจได้<br />4. สังเกตการสนทนาโต้ตอบกับเพื่อนได้<br />5. สังเกตการเด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่ได้<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมกลางแจ้ง<br /></span><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กบอกข้อตกลงในการเดินถอยหลังตามเส้น<br />2. เด็กใช้กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กในการเดินถอยหลังตามเส้น<br />3. เด็กเรียนรู้การระวังรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นได้<br />4. เด็กตัดสินใจและแก้ปัญหาด้วยตนเองได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา<br /></span>การเดินถอยหลังตามเส้น<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูทบทวนข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็กเตรียมอบอุ่นร่างกายก่อนเล่นเกมส่งบอลด้วยผ้า<br />3. ครูแนะนำและบอกวิธีการเล่นเกมส่งบอลด้วยผ้า<br />- เดินถอยหลังตามเส้นที่กำหนดเป็นแถว<br />4. เด็กทำความสะอาดร่างกายหลังจากเดินถอยหลังตามเส้น<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br />-<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการบอกข้อตกลงในการเดินถอยหลังตามเส้น<br />2. สังเกตการใช้กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กในการเดินถอยหลังตามเส้น<br />3. สังเกตการเรียนรู้การระวังรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นได้<br />4. สังเกตการตัดสินใจและแก้ปัญหาด้วยตนเองได้<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเกมการศึกษา</span><br /><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กตั้งใจฟังคำแนะนำการเล่นเกม<br />2. เด็กเล่นร่วมกับผู้อื่นได้<br />3. เด็กสังเกตและจำแนกได้<br />4. เด็กเอื้อเฟื้อและรอคอยได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา</span><br />เกมจับคู่ภาพต้นไม้<br />เกมที่เคยเล่นมาแล้ว<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“การเก็บของเข้าที่”<br />“ดูแลรักษาสิ่งของ ไม่ทำลายข้าวของ”<br />2. ครูแนะนำและสาธิตวิธีการเล่นเกมการศึกษา<br />3. เด็กแต่ละกลุ่มเล่นเกมการศึกษา<br />4. เด็กผลัดเปลี่ยนกันตรวจสอบความถูกต้องของเกมการศึกษาที่เล่น<br />5. เด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้<br /></span>เกมจับคู่ภาพต้นไม้<br />เกมที่เคยเล่นมาแล้ว<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการตั้งใจฟังคำแนะนำการเล่นเกม<br />2. สังเกตการเล่นร่วมกับผู้อื่นได้<br />3. สังเกตการสังเกตและจำแนกได้<br />4. สังเกตการเอื้อเฟื้อและรอคอยได้<br /><br /><span style="color:#ff6666;">วันที่ 3 กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ<br /></span><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์<br /></span>1. เด็กเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ได้<br />2. เด็กฟังและปฏิบัติตามสัญญาณได้<br />3. เด็กเคลื่อนไหวตามจินตนาการได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา<br /></span>การฟังและการปฏิบัติตามสัญญาณ<br />การเคลื่อนไหวตามจินตนาการ<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็กปฏิบัติกิจกรรมเคลื่อนไหวพื้นฐานโดยเคลื่อนไหวเดินย่องรอบๆ ห้องตามการเคาะ<br />จังหวะ โดยไม่ชนกับเพื่อน<br />เคาะจังหวะ ช้า -เร็ว<br />3. เมื่อได้ยินสัญญาณหยุดให้หยุดเคลื่อนไหวทันที<br />4. ครูให้สัญญาณหยุดโดยการรัวเครื่องเคาะจังหวะ<br />5. เด็ก ๆ เคลื่อนไหวตามจินตนาการ<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br />เครื่องเคาะจังหวะ<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล<br /></span>1. สังเกตการเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ<br />2. สังเกตการฟังและปฏิบัติตามสัญญาณ<br />3. สังเกตการเคลื่อนไหวตามจินตนาการ<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเสริมประสบการณ์</span><br /><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์<br /></span>1. เด็กฟังและตอบคำถามครูได้<br />2. เด็กสนทนาร่วมกับเพื่อนและครูได้<br />3. เด็กสืบค้นข้อมูลและบอกลักษณะของเปลือกไม้ได้<br />4. เด็กเสนอและฟังความคิดเห็นของตนเองและผู้อื่นได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา<br /></span>การนำเสนอการสืบค้นรายการอาหารที่ทำจากปลาทูน่า<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็ก ๆ สังเกตต้นไม้ที่ตนเองรู้จัก เช่น ต้นหางนกยูง ต้นเข็ม<br />“เปลือกของต้นไม้แต่ละชนิดมีลักษณะอย่างไร”<br />3. เด็ก ๆสังผัสล้ำนของต้นไม้ แรเงาเปลือกไม้กับกระดาษ สังเกตลักษณะของลำต้นของต้นไม้แต่ละชนิด<br />4. เด็ก ๆ สังเกตลักษณะของลำต้นของต้นไม้ สนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน<br />“ต้นไม้แต่ละต้นเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร”<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้<br /></span>ต้นไม้รอบ ๆโรงเรียน<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการฟังและตอบคำถามครู<br />2. สังเกตการสนทนาร่วมกับเพื่อนและครู<br />3. สังเกตการสืบค้นข้อมูลและบอกลักษณะของเปลือกไม้<br />4. สังเกตการเสนอและฟังความคิดเห็นของตนเองและผู้อื่น<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์<br /></span><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์<br /></span>1. เด็กฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำได้<br />2. เด็กเลือกกิจกรรมตามความสนใจได้<br />3. เด็กปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจได้<br />4. เด็กเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟังตามความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการได้<br />5. เด็กช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่ได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา</span><br />กิจกรรมศิลปะได้แก่ 1. กิจกรรมสีน้ำ 2.กิจกรรมสีเทียน 3. กิจกรรมฉีกปะ 4.กิจกรรมปั้นแป้งโด 5. กิจกรรมร้อยลูกปัด<br />กิจกรรมใหม่ คือ การปะติดเชือกด้วยกาวสี<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“เก็บของเล่นเข้าที่”<br />“ทำความสะอาดอุปกรณ์”<br />2. ครูแนะนำอุปกรณ์ใหม่และวิธีการใช้คือ การปะติดเชือกด้วยกาวสี<br />3. เด็ก เลือกทำกิจกรรมศิลปะตามความสนใจ<br />4. เด็กเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟัง<br />5. เด็กช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้<br /></span>อุปกรณ์ในการทำกิจกรรมศิลปะ<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำ<br />2. สังเกตการเลือกกิจกรรมตามความสนใจ<br />3. สังเกตการปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจ<br />4. สังเกตการเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟังตามความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ<br />5. สังเกตการณ์ช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเสรี<br /></span><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กฟังและทำกิจกรรมในมุมประสบการณ์ใหม่ได้<br />2. เด็กเลือกเข้ามุมตามความสนใจ<br />3. เด็กเรียนรู้ด้วยตนเองจากการสังเกตสำรวจได้<br />4. เด็กสนทนาโต้ตอบกับเพื่อนได้<br />5. เด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่ได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา<br /></span>มุมประสบการณ์ที่มีอุปกรณ์ใหม่ได้แก่ มุมศิลปะคือ การปะติดเชือกด้วยกาวสี และมุมเกมการศึกษาคือ เกมจับคู่ต้นไม้แบบวงกลม<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“ เก็บของเล่นเข้าที่หลังได้ยินสัญญาณเปลี่ยนมุม ”<br />“ ไม่ส่งเสียงดัง ”<br />2. ครูแนะนำมุมใหม่พร้อมทั้งอธิบายวิธีการใช้สื่ออุปกรณ์<br />3. เด็กเลือกเข้ามุมประสบการณ์ตามความสนใจ<br />4. เด็กทำกิจกรรมในมุมเสรี<br />5. ครูให้สัญญาณเตือนให้เด็กเปลี่ยนมุม<br />6. เด็ก ๆ ช่วยกันเก็บของเข้าที่ให้เรียบร้อย<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br />อุปกรณ์ต่าง ๆ ในมุมประสบการณ์<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการฟังและทำกิจกรรมในมุมประสบการณ์ใหม่ได้<br />2. สังเกตการเลือกเข้ามุมตามความสนใจ<br />3. สังเกตการเรียนรู้ด้วยตนเองจากการสังเกตสำรวจได้<br />4. สังเกตการสนทนาโต้ตอบกับเพื่อนได้<br />5. สังเกตการเด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่ได้<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมกลางแจ้ง</span><br /><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กบอกข้อตกลงในการเล่นเกมจับคู่<br />2. เด็กใช้กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กในการเล่นเกมจับคู่<br />3. เด็กเรียนรู้การระวังรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นได้<br />4. เด็กตัดสินใจและแก้ปัญหาด้วยตนเองได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา<br /></span>การเล่นเกมจับคู่<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม<br /></span>1. เด็กและครูทบทวนข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็กเตรียมอบอุ่นร่างกายก่อนเล่นเกมจับคู่<br />3. ครูแนะนำและบอกวิธีการเล่นเกมจับคู่<br />- กางแขนหาพื้นที่ของตนเอง<br />- จับคู่ตามคำบอกของครู เช่น จับคู่ 2 คน จับคู่ผู้ชายกับผู้หญิง<br />4. เด็กทำความสะอาดร่างกายหลังจากเล่นเกมจับคู่<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br />-<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการบอกข้อตกลงในการเล่นเกมจับคู่<br />2. สังเกตการใช้กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กในการเล่นเกมจับคู่<br />3. สังเกตการเรียนรู้การระวังรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นได้<br />4. สังเกตการตัดสินใจและแก้ปัญหาด้วยตนเองได้<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเกมการศึกษา<br /></span><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กตั้งใจฟังคำแนะนำการเล่นเกม<br />2. เด็กเล่นร่วมกับผู้อื่นได้<br />3. เด็กสังเกตและจำแนกได้<br />4. เด็กเอื้อเฟื้อและรอคอยได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา<br /></span>เกมจับคู่ต้นไม้แบบวงกลม<br />เกมที่เคยเล่นมาแล้ว<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“การเก็บของเข้าที่”<br />“ดูแลรักษาสิ่งของ ไม่ทำลายข้าวของ”<br />2. ครูแนะนำและสาธิตวิธีการเล่นเกมการศึกษา<br />3. เด็กแต่ละกลุ่มเล่นเกมการศึกษา<br />4. เด็กผลัดเปลี่ยนกันตรวจสอบความถูกต้องของเกมการศึกษาที่เล่น<br />5. เด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br />เกมจับคู่ต้นไม้แบบวงกลม<br />เกมที่เคยเล่นมาแล้ว<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการตั้งใจฟังคำแนะนำการเล่นเกม<br />2. สังเกตการเล่นร่วมกับผู้อื่นได้<br />3. สังเกตการสังเกตและจำแนกได้<br />4. สังเกตการเอื้อเฟื้อและรอคอยได้<br /><br /><span style="color:#ff6666;">วันที่ 4 กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ</span><br /><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ได้<br />2. เด็กฟังและปฏิบัติตามสัญญาณได้<br />3. เด็กเคลื่อนไหวตามจินตนาการได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา<br /></span>การฟังและการปฏิบัติตามสัญญาณ<br />การเคลื่อนไหวตามจินตนาการ<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม<br /></span>1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็กปฏิบัติกิจกรรมเคลื่อนไหวพื้นฐานโดยเคลื่อนไหวร่างกายเดินไขว้เท้าไปรอบ ๆ ห้องตามการเคาะจังหวะ โดยไม่ชนกับเพื่อน<br />3. เมื่อได้ยินสัญญาณหยุดให้หยุดเคลื่อนไหวทันที<br />4. ครูให้สัญญาณหยุดโดยการรัวเครื่องเคาะจังหวะ<br />5. เด็ก ๆ เคลื่อนไหวตามจินตนาการ<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br />เครื่องเคาะจังหวะ<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ<br />2. สังเกตการฟังและปฏิบัติตามสัญญาณ<br />3. สังเกตการเคลื่อนไหวตามจินตนาการ<br />4. สังเกตการเคลื่อนไหวตามคำบรรยาย<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเสริมประสบการณ์</span><br /><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กฟังและตอบคำถามครูได้<br />2. เด็กสนทนาร่วมกับเพื่อนและครูได้<br />3. เด็กบอกลักษณะของต้นไม้ในกระถางได้<br />4. เด็กบอกขั้นตอนในการปลูกต้นไม้ได้<br />5. เด็กเสนอและฟังความคิดเห็นของตนเองและผู้อื่นได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา<br /></span>การสนทนาลักษณะของต้นไม้กระถางและขั้นตอนการปลูกต้นไม้<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม<br /></span>1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็ก ๆสังเกตต้นไม้ที่อยู่ในกระถาง<br />“ต้นไม้มีลักษณะเป็นอย่างไร”<br />“ เด็ก ๆคิดว่าปลูกต้นไม้ชนิดนี้อย่างไร”<br />3. เด็กและครูสนทนาถึงขั้นตอนของการปลูกต้นไม้<br />4. ครูแนะนำวิธีการปลูกต้นไม้หลากหลายรูปแบบ เช่นวิธีการปักชำลงดิน การปลูกในท่อพีวีซี<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br />ต้นไม้กระถาง<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการฟังและตอบคำถามครู<br />1. สังเกตการสนทนาร่วมกับเพื่อนและครู<br />2. สังเกตการบอกลักษณะของต้นไม้ในกระถาง<br />3. สังเกตการบอกขั้นตอนในการปลูกต้นไม้<br />4. สังเกตการเสนอและฟังความคิดเห็นของตนเองและผู้อื่น<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์</span><br /><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำได้<br />2. เด็กเลือกกิจกรรมตามความสนใจได้<br />3. เด็กปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจได้<br />4. เด็กเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟังตามความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการได้<br />5. เด็กช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่ได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา<br /></span>กิจกรรมศิลปะได้แก่ 1. กิจกรรมสีน้ำ 2.กิจกรรมสีเทียน 3. กิจกรรมฉีกปะ 4.กิจกรรมปั้นแป้งโด 5. กิจกรรมร้อยลูกปัด กิจกรรมใหม่ คือ ใช้สีเทียนวาดต้นไม้ตามจินตนาการ<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“เก็บของเล่นเข้าที่”<br />“ทำความสะอาดอุปกรณ์”<br />2. ครูแนะนำอุปกรณ์ใหม่และวิธีการใช้คือ ใช้สีเทียนวาดต้นไม้ตามจินตนาการ<br />3. เด็ก เลือกทำกิจกรรมศิลปะตามความสนใจ<br />4. เด็กเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟัง<br />5. เด็กช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br />อุปกรณ์ในการทำกิจกรรมศิลปะ<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล<br /></span>1. สังเกตการฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำ<br />2. สังเกตการเลือกกิจกรรมตามความสนใจ<br />3. สังเกตการปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจ<br />4. สังเกตการเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟังตามความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ<br />5. สังเกตการณ์ช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเสรี<br /></span><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์<br /></span>1. เด็กฟังและทำกิจกรรมในมุมประสบการณ์ใหม่ได้<br />2. เด็กเลือกเข้ามุมตามความสนใจ<br />3. เด็กเรียนรู้ด้วยตนเองจากการสังเกตสำรวจได้<br />4. เด็กสนทนาโต้ตอบกับเพื่อนได้<br />5. เด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่ได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา<br /></span>มุมประสบการณ์ที่มีอุปกรณ์ใหม่ได้แก่ มุมวิทยาศาสตร์คือ ต้นไม้กระถาง และมุมเกมการศึกษาคือ เกมต่อชิ้นส่วนภาพต้นไม้<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“ เก็บของเล่นเข้าที่หลังได้ยินสัญญาณเปลี่ยนมุม ”<br />“ ไม่ส่งเสียงดัง ”<br />2. ครูแนะนำมุมใหม่พร้อมทั้งอธิบายวิธีการใช้สื่ออุปกรณ์<br />3. เด็กเลือกเข้ามุมประสบการณ์ตามความสนใจ<br />4. เด็กทำกิจกรรมในมุมเสรี<br />5. ครูให้สัญญาณเตือนให้เด็กเปลี่ยนมุม<br />6. เด็ก ๆ ช่วยกันเก็บของเข้าที่ให้เรียบร้อย<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br />อุปกรณ์ต่าง ๆ ในมุมประสบการณ์<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการฟังและทำกิจกรรมในมุมประสบการณ์ใหม่ได้<br />2. สังเกตการเลือกเข้ามุมตามความสนใจ<br />3. สังเกตการเรียนรู้ด้วยตนเองจากการสังเกตสำรวจได้<br />4. สังเกตการสนทนาโต้ตอบกับเพื่อนได้<br />5. สังเกตการเด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่ได้<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมกลางแจ้ง</span><br /><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์<br /></span>1. เด็กบอกข้อตกลงในการเล่นเกมส่งใจส่งรัก<br />2. เด็กใช้กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กในการเล่นเกมส่งใจส่งรัก<br />3. เด็กเรียนรู้การระวังรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นได้<br />4. เด็กตัดสินใจและแก้ปัญหาด้วยตนเองได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา<br /></span>การเล่นเกมส่งใจส่งรัก<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูทบทวนข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็กเตรียมอบอุ่นร่างกายก่อนเล่นเกมส่งใจส่งรัก<br />3. ครูแนะนำและบอกวิธีการเล่นเกมส่งใจส่งรัก<br />- เด็กเข้าแถวจำนวน 2 แถว<br />- คนแรกมีกระดาษรูปหัวใจเจาะรูตรงกลาง<br />- ส่งหัวใจมอบให้เพื่อนทีละคนโดยใช้นิ้วเกี่ยวรูตรงกลางส่งเรียงไปจากคนแรกจนถึงคนสุดท้าย<br />4. เด็กทำความสะอาดร่างกายหลังจากเล่นเกมส่งใจส่งรัก<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br />1. กระดาษรูปหัวใจ<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการบอกข้อตกลงในการเล่นเกมส่งใจส่งรัก<br />2. สังเกตการใช้กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กในการเล่นเกมส่งใจส่งรัก<br />3. สังเกตการเรียนรู้การระวังรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นได้<br />4. สังเกตการตัดสินใจและแก้ปัญหาด้วยตนเองได้<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเกมการศึกษา</span><br /><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กตั้งใจฟังคำแนะนำการเล่นเกม<br />2. เด็กเล่นร่วมกับผู้อื่นได้<br />3. เด็กสังเกตและจำแนกได้<br />4. เด็กเอื้อเฟื้อและรอคอยได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา</span><br />เกมต่อชิ้นส่วนภาพต้นไม้<br />เกมที่เคยเล่นมาแล้ว<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“การเก็บของเข้าที่”<br />“ดูแลรักษาสิ่งของ ไม่ทำลายข้าวของ”<br />2. ครูแนะนำและสาธิตวิธีการเล่นเกมการศึกษา<br />3. เด็กแต่ละกลุ่มเล่นเกมการศึกษา<br />4. เด็กผลัดเปลี่ยนกันตรวจสอบความถูกต้องของเกมการศึกษาที่เล่น<br />5. เด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br />เกมต่อชิ้นส่วนภาพต้นไม้<br />เกมที่เคยเล่นมาแล้ว<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการตั้งใจฟังคำแนะนำการเล่นเกม<br />2. สังเกตการเล่นร่วมกับผู้อื่นได้<br />3. สังเกตการสังเกตและจำแนกได้<br />4. สังเกตการเอื้อเฟื้อและรอคอยได้<br /><br /><span style="color:#ff6666;">วันที่ 5 กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ</span><br /><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์<br /></span>1. เด็กเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ได้<br />2. เด็กฟังและปฏิบัติตามสัญญาณได้<br />3. เด็กเคลื่อนไหวตามจินตนาการได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา<br /></span>การฟังและการปฏิบัติตามสัญญาณ<br />การเคลื่อนไหวตามจินตนาการ<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม<br /></span>1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็กปฏิบัติกิจกรรมเคลื่อนไหวพื้นฐานโดยเคลื่อนไหวจับคู่ปรบมือไม่ให้เกิดเสียง ตามการเคาะจังหวะ โดยไม่ชนกับเพื่อน<br />3. เมื่อได้ยินสัญญาณหยุดให้หยุดเคลื่อนไหวทันที<br />4. ครูให้สัญญาณหยุดโดยการรัวเครื่องเคาะจังหวะ<br />5. เด็ก ๆ เคลื่อนไหวตามจินตนาการ<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้<br /></span>เครื่องเคาะจังหวะ<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ<br />2. สังเกตการฟังและปฏิบัติตามสัญญาณ<br />3. สังเกตการเคลื่อนไหวตามจินตนาการ<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเสริมประสบการณ์</span><br /><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กฟังและตอบคำถามครูได้<br />2. เด็กสนทนาร่วมกับเพื่อนและครูได้<br />3. เด็กทบทวนกิจกรรมที่ทำได้<br />4. เด็กเสนอและฟังความคิดเห็นของตนเองและผู้อื่นได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา<br /></span>การทบทวนกิจกรรมและหาหัวเรื่องที่ตนเองสนใจ<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็ก ๆ ทบทวนกิจกรรมที่ได้ทำในสัปดาห์นี้<br />“เด็ก ๆ รู้จักต้นไม้ชนิดใดบ้าง”<br />“ต้นไม้แต่ละต้นมีลักษณะแตกต่างกันอย่างไร”<br />“เด็ก ๆ นำเสนอประโยชน์ของต้นไม้”<br />“หากโลกของเราไม่มีต้นไม้จะเป็นอย่างไร”<br />3. เด็ก ๆนำเสนอและระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ตนเองสนใจในครั้งต่อไป<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้<br /></span>ต้นไม้รอบ ๆโรงเรียน<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการฟังและตอบคำถามครู<br />2. สังเกตการสนทนาร่วมกับเพื่อนและครู<br />3. สังเกตการทบทวนกิจกรรมที่ทำ<br />4. สังเกตการเสนอและฟังความคิดเห็นของตนเองและผู้อื่น<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์<br /></span><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์<br /></span>1. เด็กฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำได้<br />2. เด็กเลือกกิจกรรมตามความสนใจได้<br />3. เด็กปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจได้<br />4. เด็กเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟังตามความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการได้<br />5. เด็กช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่ได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา<br /></span>กิจกรรมศิลปะได้แก่ 1. กิจกรรมสีน้ำ 2.กิจกรรมสีเทียน 3. กิจกรรมฉีกปะ 4.กิจกรรมปั้นแป้งโด 5. กิจกรรมร้อยลูกปัด<br />กิจกรรมใหม่ คือ กลิ้งกาวสี<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม<br /></span>1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“เก็บของเล่นเข้าที่”<br />“ทำความสะอาดอุปกรณ์”<br />2. ครูแนะนำอุปกรณ์ใหม่และวิธีการใช้คือ กลิ้งกาวสี<br />3. เด็ก เลือกทำกิจกรรมศิลปะตามความสนใจ<br />4. เด็กเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟัง<br />5. เด็กช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br />อุปกรณ์ในการทำกิจกรรมศิลปะ<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล<br /></span>1. สังเกตการฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำ<br />2. สังเกตการเลือกกิจกรรมตามความสนใจ<br />3. สังเกตการปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจ<br />4. สังเกตการเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟังตามความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ<br />5. สังเกตการช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเสรี<br /></span><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์<br /></span>1. เด็กฟังและทำกิจกรรมในมุมประสบการณ์ใหม่ได้<br />2. เด็กเลือกเข้ามุมตามความสนใจ<br />3. เด็กเรียนรู้ด้วยตนเองจากการสังเกตสำรวจได้<br />4. เด็กสนทนาโต้ตอบกับเพื่อนได้<br />5. เด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่ได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา<br /></span>มุมประสบการณ์ที่มีอุปกรณ์ใหม่ได้แก่ มุมศิลปะคือ กาวสี และมุมเกมการศึกษาคือ เกมโยงรูปร่างต้นไม้<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“ เก็บของเล่นเข้าที่หลังได้ยินสัญญาณเปลี่ยนมุม ”<br />“ ไม่ส่งเสียงดัง ”<br />2. ครูแนะนำมุมใหม่พร้อมทั้งอธิบายวิธีการใช้สื่ออุปกรณ์<br />3. เด็กเลือกเข้ามุมประสบการณ์ตามความสนใจ<br />4. เด็กทำกิจกรรมในมุมเสรี<br />5. ครูให้สัญญาณเตือนให้เด็กเปลี่ยนมุม<br />6. เด็ก ๆ ช่วยกันเก็บของเข้าที่ให้เรียบร้อย<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br />อุปกรณ์ต่าง ๆ ในมุมประสบการณ์<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล<br /></span>1. สังเกตการฟังและทำกิจกรรมในมุมประสบการณ์ใหม่ได้<br />2. สังเกตการเลือกเข้ามุมตามความสนใจ<br />3. สังเกตการเรียนรู้ด้วยตนเองจากการสังเกตสำรวจได้<br />4. สังเกตการสนทนาโต้ตอบกับเพื่อนได้<br />5. สังเกตการเด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่ได้<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมกลางแจ้ง</span><br /><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กบอกข้อตกลงในการเล่นเครื่องเล่นสนาม<br />2. เด็กใช้กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กในการเล่นเครื่องเล่นสนาม<br />3. เด็กเรียนรู้การระวังรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นได้<br />4. เด็กตัดสินใจและแก้ปัญหาด้วยตนเองได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา</span><br />การเล่นเครื่องเล่นสนาม<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูทบทวนข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็กเตรียมอบอุ่นร่างกายก่อนเล่นเครื่องเล่นสนาม<br />3. เด็กเล่นเครื่องเล่นสนาม<br />4. เด็กทำความสะอาดร่างกายหลังจากเล่นเครื่องเล่นสนาม<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br />เครื่องเล่นสนาม<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการบอกข้อตกลงในการเล่นเครื่องเล่นสนาม<br />2. สังเกตการใช้กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กในการเล่นเครื่องเล่นสนาม<br />3. สังเกตการเรียนรู้การระวังรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นได้<br />4. สังเกตการตัดสินใจและแก้ปัญหาด้วยตนเองได้<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเกมการศึกษา</span><br /><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์<br /></span>1. เด็กตั้งใจฟังคำแนะนำการเล่นเกม<br />2. เด็กเล่นร่วมกับผู้อื่นได้<br />3. เด็กสังเกตและจำแนกได้<br />4. เด็กเอื้อเฟื้อและรอคอยได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา</span><br />เกมโยงรูปร่างต้นไม้<br />เกมที่เคยเล่นมาแล้ว<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม<br /></span>1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“การเก็บของเข้าที่”<br />“ดูแลรักษาสิ่งของ ไม่ทำลายข้าวของ”<br />2. ครูแนะนำและสาธิตวิธีการเล่นเกมการศึกษา<br />3. เด็กแต่ละกลุ่มเล่นเกมการศึกษา<br />4. เด็กผลัดเปลี่ยนกันตรวจสอบความถูกต้องของเกมการศึกษาที่เล่น<br />5. เด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br />เกมโยงรูปร่างต้นไม้<br />เกมที่เคยเล่นมาแล้ว<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการตั้งใจฟังคำแนะนำการเล่นเกม<br />2. สังเกตการเล่นร่วมกับผู้อื่นได้<br />3. สังเกตการสังเกตและจำแนกได้<br />4. สังเกตการเอื้อเฟื้อและรอคอยได้ </p>PIANGRAWEEhttp://www.blogger.com/profile/02293285365271587828noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4117858063577048916.post-29010602887648833892008-10-20T20:56:00.000-07:002008-10-22T00:59:26.145-07:00การจัดประสบการณ์หน่วย ข้าว สัปดาห์ที่ 13<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgUG8jH6Ot4jhlOJht7WFACwgn0Z3PREsc8XyfnlE2O1HeVF9Th4bZLCAkSShk0rSReEHMN6qM7Ami_vi5FbHxuXoN8-OcANsGvDio79BzCsRY4FDGyc_OhJf2ZTx9ABf-JpBfDGVxowXLS/s1600-h/DSCN0105.JPG"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5259882630686595586" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; CURSOR: hand; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgUG8jH6Ot4jhlOJht7WFACwgn0Z3PREsc8XyfnlE2O1HeVF9Th4bZLCAkSShk0rSReEHMN6qM7Ami_vi5FbHxuXoN8-OcANsGvDio79BzCsRY4FDGyc_OhJf2ZTx9ABf-JpBfDGVxowXLS/s320/DSCN0105.JPG" border="0" /></a><br /><br /><div align="center">ภาพที่ 1 วิทยากรอธิบายลักษณะของต้นข้าว ขั้นตอนการทำนาของชาวนาและแนะนำขั้นตอนการปลูกข้าวในกระถางให้กับเด็ก ๆ<br /><br /></div><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5259882379991445154" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; CURSOR: hand; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjczdKdfd6PHhcvfS0OWQzsz2vUDQJEnc-aB3s6g-1Fj1Ee0GJt-lDoUIBQj4rkoFJkwtzU3xkHNaWA3qURvNGFstHXTWtfX2w6Dr_i1MdFzMt6r6o_akaHgnG9tFNd7t10GzY-qOV09bY4/s320/DSCN0120.JPG" border="0" /><br />ภาพที่ 2 เมื่อเด็ก ๆ ฟังวิทยากรอธิบายขั้นตอนการปลูกข้าวในกระถางแล้ว เด็ก ๆ ปลูกข้าวด้วยตนเอง โดยมีวิทยากรคอยให้ความช่วยเหลือ<br /><br /><br /><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5259881974774447218" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; CURSOR: hand; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjwAax0kqB1yHVTZIzm7buU8ulRZeIe7Cv6e8E6uikvIA1-XAYWXuzx7Mu3poHkarZXD992F8hraejyL1eMeI89bkSsyQwyXNhgIqvBs9_MaGfxGYIUOc7l6fTN79-5Kryfv2jg2zw9Mf5_/s320/DSCN0016.JPG" border="0" /><br />ภาพที่ 3 เด็ก ๆ บันทึกการเจริญเติบโตต้นข้าวที่ตนเองปลูก<br /><br /><div><br /></div><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5259881711918019954" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; CURSOR: hand; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhAbQfShZ41M7nzqiCe1QHSfQIgvdjD77D1JuQIppidogrBkhWA0IuUyCIdZDsygKw4a3fjZXmwrsdEdlLHvVAwDYNAC6y3pjWLbR-OuWTb_hIOvrSnVXosjV83-xmfOT4h2IiRqBdsf59t/s320/DSCN0032.JPG" border="0" /><br />ภาพที่ 4 เด็ก ๆท่องคำคล้องจองรีรีข้าวสาร เล่นการละเล่นพื้นบ้านอย่างสนุกสนาน<br /><br /><br /><p align="center"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5259879487369521298" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; CURSOR: hand; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjyhCbbJK6BDi2gt-rd0ASDRJz8Qu5UQuvgI_9dJW9DC7gA7dz-kG9kIc7pwjeSWHdqicuTpUO717-2LPrqMLfxVsiVB6seszZC74SQh7NTLdLkp53u6V_w7mYWCJsIig7DQLvj5CL8LG5_/s320/DSCN0458.JPG" border="0" /> </p><p align="center"><br />ภาพที่ 5 เกมจัดหมวดหมู่ภาพข้าวกับสัญลักษณ์ </p><p align="center"></p><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiC5r5RJSlqs_Ci2ewMRjq1di1JOFmsVwfxU8Vrv04m0U4kJZ2u_xbovv0c2i08J0DITuhR-bm9KafVO7ChZXk9z3Ke8w7wXACGbgu-8SV8XlpvQRWJDdao5PMFq5a-tbRISZt5JS9lJlD9/s1600-h/DSCN0525.JPG"></a><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5259878818202605554" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; CURSOR: hand; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhjZOp_Vh4BEtOzLq8UyzEkcORHr-bExfYUGdO24Po2PD36ssvGTNSKQ4DeKNdaRaWGaJG5yRCIHV-pKJiNB8OGJuzvNWG1z7-juOjJwj8T2lXLqShM-L0YZ36n5IMLTpH-37OBMdc5xz0c/s320/DSCN0512.JPG" border="0" /><br /><span style="color:#000000;">ภาพที่ 6 เกมจับคู่ภาพเหมือนขนมที่ทำจากข้าวแบบเขาวงกรต</span><br /><br /><span style="color:#ff6666;">วันที่ 1 กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ</span><br /><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์<br /></span>1. เด็กเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ได้<br />2. เด็กฟังและปฏิบัติตามสัญญาณได้<br />3. เด็กเคลื่อนไหวตามจินตนาการได้<br />4. เด็กเคลื่อนไหวตามคำบรรยายได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา</span><br />การฟังและการปฏิบัติตามสัญญาณ<br />การเคลื่อนไหวตามจินตนาการ<br />การเคลื่อนไหวตามคำบรรยาย<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็กปฏิบัติกิจกรรมเคลื่อนไหวพื้นฐานโดยเคลื่อนไหวร่างกายเดินสลับเท้าไปรอบ ๆ ห้องตามการเคาะจังหวะ โดยไม่ชนกับเพื่อน<br />3. เมื่อได้ยินสัญญาณหยุดให้หยุดเคลื่อนไหวทันที<br />4. ครูให้สัญญาณหยุดโดยการรัวเครื่องเคาะจังหวะ<br />5. เด็ก ๆ เคลื่อนไหวตามจินตนาการโดยฟังคำบรรยายจากครู<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้<br /></span>เครื่องเคาะจังหวะ<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ<br />2. สังเกตการฟังและปฏิบัติตามสัญญาณ<br />3. สังเกตการเคลื่อนไหวตามจินตนาการ<br />4. สังเกตการเคลื่อนไหวตามคำบรรยาย<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเสริมประสบการณ์<br /></span><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กฟังและตอบคำถามครูได้<br />2. เด็กสนทนาร่วมกับเพื่อนและครูได้<br />3. เด็กสังเกตลักษณะของต้นข้าวได้<br />4. เด็กเสนอและฟังความคิดเห็นของตนเองและผู้อื่นได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา</span><br />การสนทนาลักษณะของต้นข้าว<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็กทบทวนการระดมความคิดในเรื่องที่สนใจ<br />“หัวข้อที่เราสนใจคือเรื่องอะไร”<br />“เด็ก ๆ ต้องการเพิ่มเติมส่วนไหน อยากรู้อะไรเพิ่มเติม และเพราะอะไร”<br />3. เด็ก ๆสังเกตลักษณะของต้นข้าว พร้อมทั้งสนทนาซักถาม<br />“ต้นข้าวมีลักษณะอย่างไร”<br />“ต้นข้าวมีลักษณะคล้ายกับอะไร”<br />4. ครูชี้คำ “ต้นข้าว” ที่อยู่ตรงกระดาษเพื่อให้เด็กสังเกต<br />5. เด็ก ๆวาดภาพและบันทึกลักษณะของต้นข้าวที่สังเกต<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้<br /></span>หนังสือรอบรู้ท้องทะเล<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการฟังและตอบคำถามครู<br />2. สังเกตการสนทนาร่วมกับเพื่อนและครู<br />3. สังเกตการบอกลักษณะของต้นข้าว<br />4. สังเกตการเสนอและฟังความคิดเห็นของตนเองและผู้อื่น<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์</span><br /><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์<br /></span>1. เด็กฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำได้<br />2. เด็กเลือกกิจกรรมตามความสนใจได้<br />3. เด็กปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจได้<br />4. เด็กเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟังตามความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการได้<br />5. เด็กช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่ได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา<br /></span>กิจกรรมศิลปะได้แก่ 1. กิจกรรมสีน้ำ 2.กิจกรรมสีเทียน 3. กิจกรรมฉีกปะ 4.กิจกรรมปั้นแป้งโด 5. กิจกรรมร้อยลูกปัด<br />กิจกรรมใหม่ คือ หยดสี<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม<br /></span>1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“เก็บของเล่นเข้าที่”<br />“ทำความสะอาดอุปกรณ์”<br />2. ครูแนะนำอุปกรณ์ใหม่และวิธีการใช้คือ หยดสี<br />3. เด็ก เลือกทำกิจกรรมศิลปะตามความสนใจ<br />4. เด็กเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟัง<br />5. เด็กช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br />อุปกรณ์ในการทำกิจกรรมศิลปะ<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล<br /></span>1. สังเกตการฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำ<br />2. สังเกตการเลือกกิจกรรมตามความสนใจ<br />3. สังเกตการปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจ<br />4. สังเกตการเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟังตามความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ<br />5. สังเกตการช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่<br /><br /><p><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเสรี</span><br /><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กฟังและทำกิจกรรมในมุมประสบการณ์ใหม่ได้<br />2. เด็กเลือกเข้ามุมตามความสนใจ<br />3. เด็กเรียนรู้ด้วยตนเองจากการสังเกตสำรวจได้<br />4. เด็กสนทนาโต้ตอบกับเพื่อนได้<br />5. เด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่ได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา</span><br />มุมประสบการณ์ที่มีอุปกรณ์ใหม่ได้แก่ มุมวิทยาศาสตร์คือ ต้นข้าว<br />มุมศิลปะคือ หยดสี และมุมเกมการศึกษาคือ เกมต่อภาพข้าว<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม<br /></span>1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“ เก็บของเล่นเข้าที่หลังได้ยินสัญญาณเปลี่ยนมุม ”<br />“ ไม่ส่งเสียงดัง ”<br />2. ครูแนะนำมุมใหม่พร้อมทั้งอธิบายวิธีการใช้สื่ออุปกรณ์<br />3. เด็กเลือกเข้ามุมประสบการณ์ตามความสนใจ<br />4. เด็กทำกิจกรรมในมุมเสรี<br />5. ครูให้สัญญาณเตือนให้เด็กเปลี่ยนมุม<br />6. เด็ก ๆ ช่วยกันเก็บของเข้าที่ให้เรียบร้อย<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br />อุปกรณ์ต่าง ๆ ในมุมประสบการณ์<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการฟังและทำกิจกรรมในมุมประสบการณ์ใหม่ได้<br />2. สังเกตการเลือกเข้ามุมตามความสนใจ<br />3. สังเกตการเรียนรู้ด้วยตนเองจากการสังเกตสำรวจได้<br />4. สังเกตการสนทนาโต้ตอบกับเพื่อนได้<br />5. สังเกตการเด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่ได้<br /><span style="color:#ff6666;"></span></p><br /><p><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมกลางแจ้ง</span><br /><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กบอกข้อตกลงในการเล่นเครื่องเล่นสนาม<br />2. เด็กใช้กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กในการเล่นเครื่องเล่นสนาม<br />3. เด็กเรียนรู้การระวังรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นได้<br />4. เด็กตัดสินใจและแก้ปัญหาด้วยตนเองได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา</span><br />การเล่นเครื่องเล่นสนาม<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูทบทวนข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็กเตรียมอบอุ่นร่างกายก่อนเล่นเครื่องเล่นสนาม<br />3. เด็กเล่นเครื่องเล่นสนาม<br />4. เด็กทำความสะอาดร่างกายหลังจากเล่นเครื่องเล่นสนาม<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br />เครื่องเล่นสนาม<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล<br /></span>1. สังเกตการบอกข้อตกลงในการเล่นเครื่องเล่นสนาม<br />2. สังเกตการใช้กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กในการเล่นเครื่องเล่นสนาม<br />3. สังเกตการเรียนรู้การระวังรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นได้<br />4. สังเกตการตัดสินใจและแก้ปัญหาด้วยตนเองได้<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเกมการศึกษา<br /></span><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กตั้งใจฟังคำแนะนำการเล่นเครื่องเล่นสนาม<br />2. เด็กเล่นร่วมกับผู้อื่นได้<br />3. เด็กสังเกตและจำแนกได้<br />4. เด็กเอื้อเฟื้อและรอคอยได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา<br /></span>เกมต่อภาพข้าว<br />เกมที่เคยเล่นมาแล้ว<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“การเก็บของเข้าที่”<br />“ดูแลรักษาสิ่งของ ไม่ทำลายข้าวของ”<br />2. ครูแนะนำและสาธิตวิธีการเล่นเกมการศึกษา<br />3. เด็กแต่ละกลุ่มเล่นเกมการศึกษา<br />4. เด็กผลัดเปลี่ยนกันตรวจสอบความถูกต้องของเกมการศึกษาที่เล่น<br />5. เด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้<br /></span>เกมต่อภาพข้าว<br />เกมที่เคยเล่นมาแล้ว<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการตั้งใจฟังคำแนะนำการเล่นเครื่องเล่นสนาม<br />2. สังเกตการเล่นร่วมกับผู้อื่นได้<br />3. สังเกตการสังเกตและจำแนกได้<br />4. สังเกตการเอื้อเฟื้อและรอคอยได้<br /><br /><span style="color:#ff6666;">วันที่ 2 กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ</span><br /><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์<br /></span>1. เด็กเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ได้<br />2. เด็กฟังและปฏิบัติตามสัญญาณได้<br />3. เด็กเคลื่อนไหวตามจินตนาการได้<br />4. เด็กเคลื่อนไหวตามคำบรรยายได้ </p><p><span style="color:#000000;"><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา </span><br /></span>การฟังและการปฏิบัติตามสัญญาณ<br />การเคลื่อนไหวตามจินตนาการ<br />การเคลื่อนไหวตามคำบรรยาย </p><p><span style="color:#000000;"><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br /></span>1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็กปฏิบัติกิจกรรมเคลื่อนไหวพื้นฐานโดยเคลื่อนไหวเดินซิกแซกไปข้างหน้า ตามการเคาะจังหวะ โดยไม่ชนกับเพื่อน เคาะจังหวะ หนัก- เบา<br />3. เมื่อได้ยินสัญญาณหยุดให้หยุดเคลื่อนไหวทันที<br />4. ครูให้สัญญาณหยุดโดยการรัวเครื่องเคาะจังหวะ<br />5. เด็ก ๆ เคลื่อนไหวตามจินตนาการตามคำบรรยาย เช่น ชาวนาตื่นแต่เช้า ออกเดินทางไปทุ่งนา ชาวนาก้มลงช่วยกันปลูกข้าวลงในทุ่งนาอันเขียวชอุ่ม มีเสียงนกร้อง ฯลฯ<br /><span style="color:#000000;"><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br /></span>เครื่องเคาะจังหวะ<br />ซีดีเพลง<br /><span style="color:#ff6666;"><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br /></span>1. สังเกตการเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ<br />2. สังเกตการฟังและปฏิบัติตามสัญญาณ<br />3. สังเกตการเคลื่อนไหวตามจินตนาการ<br />4. สังเกตการเคลื่อนไหวเลียนแบบท่าทางกรว่ายน้ำของปลา<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเสริมประสบการณ์<br /></span><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์<br /></span>1. เด็กฟังและตอบคำถามครูได้<br />2. เด็กสนทนาร่วมกับเพื่อนและครูได้<br />3. เด็กบอกขั้นตอนของการปลูกข้าวได้<br />4. เด็กเสนอและฟังความคิดเห็นของตนเองและผู้อื่นได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา</span><br />การสนทนาขั้นตอนของการปลูกข้าว<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. ครูแนะนำภาพขั้นตอนของการปลูกข้าว<br />“เด็ก ๆสังเกตเห็นอะไรในภาพ”<br />“ชาวนามีวิธีการปลูกข้าวอย่างไร”<br />3. เด็ก ๆ เสนอความคิดเห็นของตนเอง<br />4. เด็ก ๆนำเสนอการเตรียมอุปกรณ์ที่ใช้ในการปลูกข้าวที่โรงเรียน<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้<br /></span>1. ปลาทูน่ากระป๋อง<br />2. แผ่นวางแผนการประกอบอาหาร<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล<br /></span>1. สังเกตการฟังและตอบคำถามครู<br />2. สังเกตการสนทนาร่วมกับเพื่อนและครู<br />3. สังเกตการบอกบอกขั้นตอนของการปลูกข้าว<br />4. สังเกตการเสนอและฟังความคิดเห็นของตนเองและผู้อื่น<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์</span> </p><p><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์<br /></span>1. เด็กฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำได้<br />2. เด็กเลือกกิจกรรมตามความสนใจได้<br />3. เด็กปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจได้<br />4. เด็กเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟังตามความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการได้<br />5. เด็กช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่ได้ </p><p><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา<br /></span>กิจกรรมศิลปะได้แก่ 1. กิจกรรมสีน้ำ 2.กิจกรรมสีเทียน 3. กิจกรรมฉีกปะ 4.กิจกรรมปั้นแป้งโด 5. กิจกรรมร้อยลูกปัด<br />กิจกรรมใหม่ คือ ปั้นแป้งโดกับเมล็ดข้าวเปลือก<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม<br /></span>1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“เก็บของเล่นเข้าที่”<br />“ทำความสะอาดอุปกรณ์”<br />2. ครูแนะนำอุปกรณ์ใหม่และวิธีการใช้คือ นำเมล็ดพืชติดลงบนกระดาษ<br />3. เด็ก เลือกทำกิจกรรมศิลปะตามความสนใจ<br />4. เด็กเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟัง<br />5. เด็กช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้<br /></span>อุปกรณ์ในการทำกิจกรรมศิลปะ<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำ<br />2. สังเกตการเลือกกิจกรรมตามความสนใจ<br />3. สังเกตการปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจ<br />4. สังเกตการเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟังตามความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ<br />5. สังเกตการช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่ </p><p><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเสรี</span><br /><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์<br /></span>1. เด็กฟังและทำกิจกรรมในมุมประสบการณ์ใหม่ได้<br />2. เด็กเลือกเข้ามุมตามความสนใจ<br />3. เด็กเรียนรู้ด้วยตนเองจากการสังเกตสำรวจได้<br />4. เด็กสนทนาโต้ตอบกับเพื่อนได้<br />5. เด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่ได้ </p><p><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา<br /></span>มุมประสบการณ์ที่มีอุปกรณ์ใหม่ได้แก่ มุมอ่านคือ ภาพกับคำขั้นตอนการทำนา<br />มุมศิลปะคือ เมล็ดข้าวเปลือก และมุมเกมการศึกษาคือ เกมจับคู่ภาพต้นข้าวแบบโยงเชือก<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม<br /></span>1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“ เก็บของเล่นเข้าที่หลังได้ยินสัญญาณเปลี่ยนมุม ”<br />“ ไม่ส่งเสียงดัง ”<br />2. ครูแนะนำมุมใหม่พร้อมทั้งอธิบายวิธีการใช้สื่ออุปกรณ์<br />3. เด็กเลือกเข้ามุมประสบการณ์ตามความสนใจ<br />4. เด็กทำกิจกรรมในมุมเสรี<br />5. ครูให้สัญญาณเตือนให้เด็กเปลี่ยนมุม<br />6. เด็ก ๆ ช่วยกันเก็บของเข้าที่ให้เรียบร้อย<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br />อุปกรณ์ต่าง ๆ ในมุมประสบการณ์<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล<br /></span>1. สังเกตการฟังและทำกิจกรรมในมุมประสบการณ์ใหม่ได้<br />2. สังเกตการเลือกเข้ามุมตามความสนใจ<br />3. สังเกตการเรียนรู้ด้วยตนเองจากการสังเกตสำรวจได้<br />4. สังเกตการสนทนาโต้ตอบกับเพื่อนได้<br />5. สังเกตการเด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่ได้</p><p><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมกลางแจ้ง</span><br /><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์<br /></span>1. เด็กบอกข้อตกลงในการเล่นรีรีข้าวสาร<br />2. เด็กใช้กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กในการเล่นเล่นรีรีข้าวสาร<br />3. เด็กเรียนรู้การระวังรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นได้<br />4. เด็กตัดสินใจและแก้ปัญหาด้วยตนเองได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา</span><br />การเล่นเล่นรีรีข้าวสาร<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม<br /></span>1. เด็กและครูทบทวนข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็กเตรียมอบอุ่นร่างกายก่อนเล่นรีรีข้าวสาร<br />3. ครูแนะนำและบอกวิธีการเล่นเล่นรีรีข้าวสาร<br />- ครูท่องคำคล้องจอง รีรีข้าวสาร 2 รอบ<br />- ตัวแทน 2 คน จับมือเป็นซุ้มให้เพื่อนเดินลอด<br />- เมื่อท่องคำคล้องจองจบ จับตัวคนที่อยู่ตรงกลางเอาไว้<br />4. เด็กทำความสะอาดร่างกายหลังจากเล่นรีรีข้าวสาร<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br />-<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการบอกข้อตกลงในการเล่นรีรีข้าวสาร<br />2. สังเกตการใช้กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กในการเล่นรีรีข้าวสาร<br />3. สังเกตการเรียนรู้การระวังรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นได้<br />4. สังเกตการตัดสินใจและแก้ปัญหาด้วยตนเองได้<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเกมการศึกษา</span><br /><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์<br /></span>1. เด็กตั้งใจฟังคำแนะนำการเล่นเกม<br />2. เด็กเล่นร่วมกับผู้อื่นได้<br />3. เด็กสังเกตและจำแนกได้<br />4. เด็กเอื้อเฟื้อและรอคอยได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา</span><br />เกมจับคู่ภาพต้นข้าวแบบโยงเชือก<br />เกมที่เคยเล่นมาแล้ว<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“การเก็บของเข้าที่”<br />“ดูแลรักษาสิ่งของ ไม่ทำลายข้าวของ”<br />2. ครูแนะนำและสาธิตวิธีการเล่นเกมการศึกษา<br />3. เด็กแต่ละกลุ่มเล่นเกมการศึกษา<br />4. เด็กผลัดเปลี่ยนกันตรวจสอบความถูกต้องของเกมการศึกษาที่เล่น<br />5. เด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br />เกมจับคู่ภาพต้นข้าวแบบโยงเชือก<br />เกมที่เคยเล่นมาแล้ว<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการตั้งใจฟังคำแนะนำการเล่นเกม<br />2. สังเกตการเล่นร่วมกับผู้อื่นได้<br />3. สังเกตการสังเกตและจำแนกได้<br />4. สังเกตการเอื้อเฟื้อและรอคอยได้<br /><br /><span style="color:#ff6666;">วันที่ 3 กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ</span><br /><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ได้<br />2. เด็กฟังและปฏิบัติตามสัญญาณได้<br />3. เด็กเคลื่อนไหวตามจินตนาการได้<br />4. เด็กเคลื่อนไหวเลียนแบบปรากฏการณ์ธรรมชาติได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา</span><br />การฟังและการปฏิบัติตามสัญญาณ<br />การเคลื่อนไหวตามจินตนาการ<br />การเคลื่อนไหวเลียนแบบปรากฏการณ์ธรรมชาติ<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม<br /></span>1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็กปฏิบัติกิจกรรมเคลื่อนไหวพื้นฐานโดยเคลื่อนไหวเดินรอบๆ ห้องตามการเคาะ<br />จังหวะ โดยไม่ชนกับเพื่อน<br />เคาะจังหวะ ช้า -เร็ว<br />3. เมื่อได้ยินสัญญาณหยุดให้หยุดเคลื่อนไหวทันที<br />4. ครูให้สัญญาณหยุดโดยการรัวเครื่องเคาะจังหวะ<br />5. เด็ก ๆ เคลื่อนไหวตามจินตนาการเลียนแบบลักษณะของต้นข้าว เช่น ต้นข้าวพลิ้วไหว ฝนตกหนักต้นข้าวล้มกระจาย<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br />เครื่องเคาะจังหวะ<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ<br />2. สังเกตการฟังและปฏิบัติตามสัญญาณ<br />3. สังเกตการเคลื่อนไหวตามจินตนาการ<br />4. สังเกตการเคลื่อนไหวเลียนแบบปรากฏการณ์ธรรมชาติ<br /><span style="color:#ff6666;"></span></p><p><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเสริมประสบการณ์</span><br /><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์<br /></span>1. เด็กฟังและตอบคำถามครูได้<br />2. เด็กสนทนาร่วมกับเพื่อนและครูได้<br />3. เด็กบอกลักษณะของอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำนาได้<br />4. เด็กเสนอและฟังความคิดเห็นของตนเองและผู้อื่นได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา</span><br />การสนทนาถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำนาของชาวนา<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. ครูทบทวนการนำเสนอความคิดเห็นของเด็กเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้ในการปลูกข้าว<br />3. ครูนำเสนอภาพอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำนาของชาวนา<br />4. เด็กสังเกตภาพแล้วเสนอความคิดเห็น<br />“อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำนามีอะไรบ้าง”<br />“อุปกรณ์แต่ละชนิดเด็ก ๆ คิดว่ามีวิธีการใช้อย่างไร”<br />5. ครูยกตัวอย่างเมล็ดข้าวที่ชาวนำมาปลูกข้าว<br />6. เด็ก ๆ สังเกตลักษณะของเมล็ดข้าวเปลือกที่ใช้ในการทำนา<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้<br /></span>1. ภาพอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำนา<br />2. เมล็ดข้าวเปลือก<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการฟังและตอบคำถามครู<br />2. สังเกตการสนทนาร่วมกับเพื่อนและครู<br />3. สังเกตการบอกลักษณะของอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำนา<br />4. สังเกตการเสนอและฟังความคิดเห็นของตนเองและผู้อื่น </p><div align="left"><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์</span><br /><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์<br /></span>1. เด็กฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำได้<br />2. เด็กเลือกกิจกรรมตามความสนใจได้<br />3. เด็กปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจได้<br />4. เด็กเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟังตามความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการได้<br />5. เด็กช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่ได้ </div><div align="left"><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา<br /></span>กิจกรรมศิลปะได้แก่ 1. กิจกรรมสีน้ำ 2.กิจกรรมสีเทียน 3. กิจกรรมฉีกปะ 4.กิจกรรมปั้นแป้งโด 5. กิจกรรมร้อยลูกปัด กิจกรรมใหม่ คือ แรเงาเมล็ดข้าวเปลือกด้วยสีเทียน<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“เก็บของเล่นเข้าที่”<br />“ทำความสะอาดอุปกรณ์”<br />2. ครูแนะนำอุปกรณ์ใหม่และวิธีการใช้คือ แรเงาเมล็ดข้าวเปลือกด้วยสีเทียน<br />3. เด็ก เลือกทำกิจกรรมศิลปะตามความสนใจ<br />4. เด็กเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟัง<br />5. เด็กช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br />อุปกรณ์ในการทำกิจกรรมศิลปะ<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล<br /></span>1. สังเกตการฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำ<br />2. สังเกตการเลือกกิจกรรมตามความสนใจ<br />3. สังเกตการปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจ<br />4. สังเกตการเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟังตามความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ<br />5. สังเกตการช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเสรี<br /></span><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์<br /></span>1. เด็กฟังและทำกิจกรรมในมุมประสบการณ์ใหม่ได้<br />2. เด็กเลือกเข้ามุมตามความสนใจ<br />3. เด็กเรียนรู้ด้วยตนเองจากการสังเกตสำรวจได้<br />4. เด็กสนทนาโต้ตอบกับเพื่อนได้<br />5. เด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่ได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา</span><br />มุมประสบการณ์ที่มีอุปกรณ์ใหม่ได้แก่ มุมอ่าน คือ ภาพอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำนากับคำ<br />มุมศิลปะคือ แรเงาเมล็ดข้าวเปลือกด้วยสีเทียน และมุมเกมการศึกษาคือ เกมจัดหมวดหมู่ข้าวกับคำ<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“ เก็บของเล่นเข้าที่หลังได้ยินสัญญาณเปลี่ยนมุม ”<br />“ ไม่ส่งเสียงดัง ”<br />2. ครูแนะนำมุมใหม่พร้อมทั้งอธิบายวิธีการใช้สื่ออุปกรณ์<br />3. เด็กเลือกเข้ามุมประสบการณ์ตามความสนใจ<br />4. เด็กทำกิจกรรมในมุมเสรี<br />5. ครูให้สัญญาณเตือนให้เด็กเปลี่ยนมุม<br />6. เด็ก ๆ ช่วยกันเก็บของเข้าที่ให้เรียบร้อย<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br />อุปกรณ์ต่าง ๆ ในมุมประสบการณ์<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการฟังและทำกิจกรรมในมุมประสบการณ์ใหม่ได้<br />2. สังเกตการเลือกเข้ามุมตามความสนใจ<br />3. สังเกตการเรียนรู้ด้วยตนเองจากการสังเกตสำรวจได้<br />4. สังเกตการสนทนาโต้ตอบกับเพื่อนได้<br />5. สังเกตการเด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่ได้ </div><br /><div align="left"><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมกลางแจ้ง</span><br /><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กบอกข้อตกลงในการเล่นเกมค้นหาคำ<br />2. เด็กใช้กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กในการเล่นเกมค้นหาคำ<br />3. เด็กเรียนรู้การระวังรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นได้<br />4. เด็กตัดสินใจและแก้ปัญหาด้วยตนเองได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา<br /></span>การเล่นเกมค้นหาคำ<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูทบทวนข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็กเตรียมอบอุ่นร่างกายก่อนเล่นเกมค้นหาคำ<br />3. ครูแนะนำและบอกวิธีการเล่นเกมค้นหาคำ<br />- ครูแนะนำบัตรคำ ได้แก่ ข้าวสาร ข้าวเปลือก<br />- เด็ก ๆ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม แต่ละกลุ่มหาบัตรคำ 1 ชุด<br />- เด็ก ๆ ค้นหาคำชุดของตนเองให้พบ เช่น กลุ่มที่ 1 หาคำว่าข้าวสาร กลุ่มที่ หาคำว่าข้าวเปลือก<br />- เด็ก ๆ วิ่งออกมาหาคำแล้วหย่อนบัตรคำลงตะกร้าจนครบทุกคน<br />4. เด็กเล่นเครื่องเล่นเกมค้นหาคำ<br />5. เด็กทำความสะอาดร่างกายหลังจากเล่นเกมค้นหาคำ<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้<br /></span>บัตรคำ<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล<br /></span>1. สังเกตการบอกข้อตกลงในการเล่นเกมค้นหาคำ<br />2. สังเกตการใช้กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กในการเล่นเกมค้นหาคำ<br />3. สังเกตการเรียนรู้การระวังรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นได้<br />4. สังเกตการตัดสินใจและแก้ปัญหาด้วยตนเองได้ </div><br /><div align="left"><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเกมการศึกษา</span><br /><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์<br /></span>1. เด็กตั้งใจฟังคำแนะนำการเล่นเกม<br />2. เด็กเล่นร่วมกับผู้อื่นได้<br />3. เด็กสังเกตและจำแนกได้<br />4. เด็กเอื้อเฟื้อและรอคอยได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา</span><br />เกมจัดหมวดหมู่ข้าวกับคำ<br />เกมที่เคยเล่นมาแล้ว<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม<br /></span>1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“การเก็บของเข้าที่”<br />“ดูแลรักษาสิ่งของ ไม่ทำลายข้าวของ”<br />2. ครูแนะนำและสาธิตวิธีการเล่นเกมการศึกษา<br />3. เด็กแต่ละกลุ่มเล่นเกมการศึกษา<br />4. เด็กผลัดเปลี่ยนกันตรวจสอบความถูกต้องของเกมการศึกษาที่เล่น<br />5. เด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้<br /></span>เกมจัดหมวดหมู่ข้าวกับคำ<br />เกมที่เคยเล่นมาแล้ว<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการตั้งใจฟังคำแนะนำการเล่นเกม<br />2. สังเกตการเล่นร่วมกับผู้อื่นได้<br />3. สังเกตการสังเกตและจำแนกได้<br />4. สังเกตการเอื้อเฟื้อและรอคอยได้<br /><br /><br /><span style="color:#ff6666;">วันที่ 4 กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ</span><br /><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ได้<br />2. เด็กฟังและปฏิบัติตามสัญญาณได้<br />3. เด็กเคลื่อนไหวตามจินตนาการได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา</span><br />การฟังและการปฏิบัติตามสัญญาณ<br />การเคลื่อนไหวตามจินตนาการ<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็กปฏิบัติกิจกรรมเคลื่อนไหวพื้นฐานโดยเคลื่อนไหวร่างกายเดินหมุนตัวไปรอบ ๆ ห้องตามการเคาะจังหวะ โดยไม่ชนกับเพื่อน<br />3. เมื่อได้ยินสัญญาณหยุดให้หยุดเคลื่อนไหวทันที<br />4. ครูให้สัญญาณหยุดโดยการรัวเครื่องเคาะจังหวะ<br />5. เด็ก ๆ เคลื่อนไหวตามจินตนาการเลียนแบบท่าทางการใช้อุปกรณ์ของชาวนา<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้<br /></span>เครื่องเคาะจังหวะ<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ<br />2. สังเกตการฟังและปฏิบัติตามสัญญาณ<br />3. สังเกตการเคลื่อนไหวตามจินตนาการ<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเสริมประสบการณ์</span><br /><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กฟังและตอบคำถามครูได้<br />2. เด็กสนทนาร่วมกับเพื่อนและครูได้<br />3. เด็กวางแผนในการเชิญวิทยากรมาให้ความรู้ได้<br />4. เด็กเสนอและฟังความคิดเห็นของตนเองและผู้อื่นได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา</span><br />การสนทนาวางแผนเชิญวิทยากร<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็ก และครูร่วมกันวางแผนเชิญวิทยาการมาให้ความรู้เรื่องข้าว<br />“เด็ก ๆคิดว่าเราจะหาวิทยากรได้จากที่ไหน”<br />“ใครจะมาเป็นวิทยากร”<br />“เด็ก ๆ รู้จักใครที่ปลูกข้าวและเป็นชาวนาบ้าง”<br />“อุปกรณ์ที่ควรนำมาใช้ในการปลูกข้าวมีอะไรบ้าง”<br />“การปฏิบัติตนของเด็ก ๆ เมื่อวิทยากรมาให้ความรู้”<br />3. เด็ก ๆ ร่วมกันเสนอความคิดเห็นของตนเองในการวางแผน<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้<br /></span>แผนวางแผน<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล<br /></span>1. สังเกตการฟังและตอบคำถามครู<br />1. สังเกตการสนทนาร่วมกับเพื่อนและครู<br />2. สังเกตการวางแผนในการเชิญวิทยากรมาให้ความรู้<br />3. สังเกตการเสนอและฟังความคิดเห็นของตนเองและผู้อื่น<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์<br /></span><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์<br /></span>1. เด็กฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำได้<br />2. เด็กเลือกกิจกรรมตามความสนใจได้<br />3. เด็กปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจได้<br />4. เด็กเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟังตามความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการได้<br />5. เด็กช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่ได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา</span><br />กิจกรรมศิลปะได้แก่ 1. กิจกรรมสีน้ำ 2.กิจกรรมสีเทียน 3. กิจกรรมฉีกปะ 4.กิจกรรมปั้นแป้งโด 5. กิจกรรมร้อยลูกปัด กิจกรรมใหม่ คือ ปะติดเมล็ดข้าวเปลือก <span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“เก็บของเล่นเข้าที่”<br />“ทำความสะอาดอุปกรณ์”<br />2. ครูแนะนำอุปกรณ์ใหม่และวิธีการใช้คือ ระบายสีด้วยหมึกจีน<br />3. เด็ก เลือกทำกิจกรรมศิลปะตามความสนใจ<br />4. เด็กเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟัง<br />5. เด็กช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br />อุปกรณ์ในการทำกิจกรรมศิลปะ<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำ<br />2. สังเกตการเลือกกิจกรรมตามความสนใจ<br />3. สังเกตการปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจ<br />4. สังเกตการเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟังตามความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ<br />5. สังเกตการช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเสรี<br /></span><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กฟังและทำกิจกรรมในมุมประสบการณ์ใหม่ได้<br />2. เด็กเลือกเข้ามุมตามความสนใจ<br />3. เด็กเรียนรู้ด้วยตนเองจากการสังเกตสำรวจได้<br />4. เด็กสนทนาโต้ตอบกับเพื่อนได้<br />5. เด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่ได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา<br /></span>มุมประสบการณ์ที่มีอุปกรณ์ใหม่ได้แก่ มุมศิลปะคือ ปะติดเมล็ดข้าวเปลือก และมุมเกมการศึกษาคือ เกมจับคู่ภาพต้นข้าวแบบวงกลม<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“ เก็บของเล่นเข้าที่หลังได้ยินสัญญาณเปลี่ยนมุม ”<br />“ ไม่ส่งเสียงดัง ”<br />2. ครูแนะนำมุมใหม่พร้อมทั้งอธิบายวิธีการใช้สื่ออุปกรณ์<br />3. เด็กเลือกเข้ามุมประสบการณ์ตามความสนใจ<br />4. เด็กทำกิจกรรมในมุมเสรี<br />5. ครูให้สัญญาณเตือนให้เด็กเปลี่ยนมุม<br />6. เด็ก ๆ ช่วยกันเก็บของเข้าที่ให้เรียบร้อย<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br />อุปกรณ์ต่าง ๆ ในมุมประสบการณ์<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการฟังและทำกิจกรรมในมุมประสบการณ์ใหม่ได้<br />2. สังเกตการเลือกเข้ามุมตามความสนใจ<br />3. สังเกตการเรียนรู้ด้วยตนเองจากการสังเกตสำรวจได้<br />4. สังเกตการสนทนาโต้ตอบกับเพื่อนได้<br />5. สังเกตการเด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่ได้ </div><br /><div align="left"><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมกลางแจ้ง</span><br /><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กบอกข้อตกลงในการเล่นเกมกรอกข้าวใส่ถัง<br />2. เด็กใช้กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กในการเล่นเกมกรอกข้าวใส่ถัง<br />3. เด็กเรียนรู้การระวังรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นได้<br />4. เด็กตัดสินใจและแก้ปัญหาด้วยตนเองได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา </span><br />การเล่นเกมกรอกข้าวใส่ถัง<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูทบทวนข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็กเตรียมอบอุ่นร่างกายก่อนเล่นเกมกรอกข้าวใส่ถัง<br />3. ครูแนะนำและบอกวิธีการเล่นเกมกรอกข้าวใส่ถัง<br />- เด็กเข้าแถวเป็น 2 กลุ่ม<br />- วิ่งผลัดเปลี่ยนกันเกมกรอกข้าวใส่ถังให้เต็ม<br />4. เด็กทำความสะอาดร่างกายหลังจากเล่นเกมกรอกข้าวใส่ถัง<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้<br /></span>1. แก้วน้ำขนาดเล็ก<br />2. ข้าว<br />3. ถังใบเล็ก<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล<br /></span>1. สังเกตการบอกข้อตกลงในการเล่นเกมกรอกข้าวใส่ถัง<br />2. สังเกตการใช้กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กในการเล่นเกมกรอกข้าวใส่ถัง<br />3. สังเกตการเรียนรู้การระวังรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นได้<br />4. สังเกตการตัดสินใจและแก้ปัญหาด้วยตนเองได้<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเกมการศึกษา</span><br /><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์<br /></span>1. เด็กตั้งใจฟังคำแนะนำการเล่นเกม<br />2. เด็กเล่นร่วมกับผู้อื่นได้<br />3. เด็กสังเกตและจำแนกได้<br />4. เด็กเอื้อเฟื้อและรอคอยได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา</span><br />เกมจับคู่ภาพต้นข้าวแบบวงกลม<br />เกมที่เคยเล่นมาแล้ว<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“การเก็บของเข้าที่”<br />“ดูแลรักษาสิ่งของ ไม่ทำลายข้าวของ”<br />2. ครูแนะนำและสาธิตวิธีการเล่นเกมการศึกษา<br />3. เด็กแต่ละกลุ่มเล่นเกมการศึกษา<br />4. เด็กผลัดเปลี่ยนกันตรวจสอบความถูกต้องของเกมการศึกษาที่เล่น<br />5. เด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้<br /></span>เกมจับคู่ภาพต้นข้าวแบบวงกลม<br />เกมที่เคยเล่นมาแล้ว<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการตั้งใจฟังคำแนะนำการเล่นเกม<br />2. สังเกตการเล่นร่วมกับผู้อื่นได้<br />3. สังเกตการสังเกตและจำแนกได้<br />4. สังเกตการเอื้อเฟื้อและรอคอยได้<br /><br /><span style="color:#ff6666;">วันที่ 5 กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ</span><br /><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ได้<br />2. เด็กฟังและปฏิบัติตามสัญญาณได้<br />3. เด็กเคลื่อนไหวตามจินตนาการได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา<br /></span>การฟังและการปฏิบัติตามสัญญาณ<br />การเคลื่อนไหวตามจินตนาการ<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็กปฏิบัติกิจกรรมเคลื่อนไหวพื้นฐานโดยเคลื่อนไหวหมุนตัวอยู่กับที่ ตามการเคาะจังหวะ โดยไม่ชนกับเพื่อน<br />3. เมื่อได้ยินสัญญาณหยุดให้หยุดเคลื่อนไหวทันที<br />4. ครูให้สัญญาณหยุดโดยการรัวเครื่องเคาะจังหวะ<br />5. เด็ก ๆ เคลื่อนไหวตามจินตนาการแสดงสีหน้าท่าทาง เช่นชาวนารู้สึกร้อน<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br />เครื่องเคาะจังหวะ<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ<br />2. สังเกตการฟังและปฏิบัติตามสัญญาณ<br />3. สังเกตการเคลื่อนไหวตามจินตนาการ<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเสริมประสบการณ์<br /></span><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กฟังและตอบคำถามครูได้<br />2. เด็กสนทนาร่วมกับเพื่อนและครูได้<br />3. เด็กปลูกข้าวตามขั้นตอนตามที่วิทยากรบอกได้<br />4. เด็กเสนอและฟังความคิดเห็นของตนเองและผู้อื่นได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา</span><br />การสนทนาลักษณะภายนอกของปลา<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็กและครูทบทวนแผ่นวางแผนร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“เด็ก ๆ ปฏิบัติตนอย่างไรเมื่อวิทยากรมาให้ความรู้”<br />“อุปกรณ์ต่าง ๆที่ใช้ในการปลูกข้าว”<br />3. ครูแนะนำวิทยาการที่มาให้ความรู้กับเด็ก ๆ<br />4. วิทยากรแนะนำตัวเองอีกครั้ง และให้ความรู้เรื่องข้าวกับเด็ก ๆ รวมทั้งขั้นตอนในการ<br />ปลูกข้าวลงในกระถาง มีขั้นตอนดังนี้<br />1. เตรียมดินลงกระถาง<br />2. คัดเมล็ดข้าวเปลือกเพื่อนำมาหยอดลงกระถาง<br />3. ใช้นิ้วมือกดดินเพื่อหยอดเมล็ดข้าวเปลือกลงไป<br />4. กลบดินบริเวณ หลุมที่หยอดเมล็ดข้าว แล้วรดน้ำให้ชุ่ม<br />5. เด็ก ๆปลูกข้าวตามที่วิทยากรอธิบาย<br />6. เด็ก ๆ ทำความสะอาดร่างกายหลังจากทำกิจกรรม<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้<br /></span>อุปกรณ์ในการปลูกข้าว ได้แก่ กระถาง ดิน ถุงมือ เมล็ดข้าวเปลือก<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล<br /></span>1. สังเกตการฟังและตอบคำถามครู<br />2. สังเกตการสนทนาร่วมกับเพื่อนและครู<br />3. สังเกตการปลูกข้าวตามขั้นตอนตามที่วิทยากรบอก<br />4. สังเกตการเสนอและฟังความคิดเห็นของตนเองและผู้อื่น<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์</span></div><div align="left"><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์<br /></span>1. เด็กฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำได้<br />2. เด็กเลือกกิจกรรมตามความสนใจได้<br />3. เด็กปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจได้<br />4. เด็กเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟังตามความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการได้<br />5. เด็กช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่ได้<br /></div><br /><div align="left"><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา<br /></span>กิจกรรมศิลปะได้แก่ 1. กิจกรรมสีน้ำ 2.กิจกรรมสีเทียน 3. กิจกรรมฉีกปะ 4.กิจกรรมปั้นแป้งโด 5. กิจกรรมร้อยลูกปัด<br />กิจกรรมใหม่ คือ ระบายสีด้วยดินเหนียว<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม<br /></span>1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“เก็บของเล่นเข้าที่”<br />“ทำความสะอาดอุปกรณ์”<br />2. ครูแนะนำอุปกรณ์ใหม่และวิธีการใช้คือระบายสีด้วยดินเหนียว<br />3. เด็ก เลือกทำกิจกรรมศิลปะตามความสนใจ<br />4. เด็กเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟัง<br />5. เด็กช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br />อุปกรณ์ในการทำกิจกรรมศิลปะ<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำ<br />2. สังเกตการเลือกกิจกรรมตามความสนใจ<br />3. สังเกตการปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจ<br />4. สังเกตการเล่าผลงานให้เพื่อนและครูฟังตามความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ<br />5. สังเกตการช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเก็บของเข้าที่ </div><br /><div align="left"><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเสรี</span><br /><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์<br /></span>1. เด็กฟังและทำกิจกรรมในมุมประสบการณ์ใหม่ได้<br />2. เด็กเลือกเข้ามุมตามความสนใจ<br />3. เด็กเรียนรู้ด้วยตนเองจากการสังเกตสำรวจได้<br />4. เด็กสนทนาโต้ตอบกับเพื่อนได้<br />5. เด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่ได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา </span><br />มุมประสบการณ์ที่มีอุปกรณ์ใหม่ได้แก่ มุมวิทยาศาสตร์ คือเมล็ดข้าวเปลือก<br />มุมศิลปะคือ ดินเหนียว และมุมเกมการศึกษาคือ เกมโยงภาพทุ่งนา<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“ เก็บของเล่นเข้าที่หลังได้ยินสัญญาณเปลี่ยนมุม ”<br />“ ไม่ส่งเสียงดัง ”<br />2. ครูแนะนำมุมใหม่พร้อมทั้งอธิบายวิธีการใช้สื่ออุปกรณ์<br />3. เด็กเลือกเข้ามุมประสบการณ์ตามความสนใจ<br />4. เด็กทำกิจกรรมในมุมเสรี<br />5. ครูให้สัญญาณเตือนให้เด็กเปลี่ยนมุม<br />6. เด็ก ๆ ช่วยกันเก็บของเข้าที่ให้เรียบร้อย<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br />อุปกรณ์ต่าง ๆ ในมุมประสบการณ์<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการฟังและทำกิจกรรมในมุมประสบการณ์ใหม่ได้<br />2. สังเกตการเลือกเข้ามุมตามความสนใจ<br />3. สังเกตการเรียนรู้ด้วยตนเองจากการสังเกตสำรวจได้<br />4. สังเกตการสนทนาโต้ตอบกับเพื่อนได้<br />5. สังเกตการเด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่ได้ </div><br /><div align="left"><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมกลางแจ้ง</span><br /><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์</span><br />1. เด็กบอกข้อตกลงในการเล่นห้องนิ่ม<br />2. เด็กใช้กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กในการเล่นห้องนิ่ม<br />3. เด็กเรียนรู้การระวังรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นได้<br />4. เด็กตัดสินใจและแก้ปัญหาด้วยตนเองได้ </div><div align="left"><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา </span><br />การเล่นห้องนิ่ม<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูทบทวนข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />2. เด็กเตรียมอบอุ่นร่างกายก่อนเล่นห้องนิ่ม<br />3. เด็ก ๆเล่นห้องนิ่ม<br />4. เด็กทำความสะอาดร่างกายหลังจากเล่นห้องนิ่ม<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br />อุปกรณ์ในการเล่นห้องนิ่ม<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล</span><br />1. สังเกตการบอกข้อตกลงในการเล่นห้องนิ่ม<br />2. สังเกตการใช้กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กในการเล่นห้องนิ่ม<br />3. สังเกตการเรียนรู้การระวังรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นได้<br />4. สังเกตการตัดสินใจและแก้ปัญหาด้วยตนเองได้<br /><br /><span style="color:#ff6666;">กิจกรรมเกมการศึกษา</span><br /><span style="color:#6666cc;">จุดประสงค์<br /></span>1. เด็กตั้งใจฟังคำแนะนำการเล่นเกม<br />2. เด็กเล่นร่วมกับผู้อื่นได้<br />3. เด็กสังเกตและจำแนกได้<br />4. เด็กเอื้อเฟื้อและรอคอยได้<br /><span style="color:#6666cc;">เนื้อหา</span><br />เกมโยงภาพทุ่งนา<br />เกมที่เคยเล่นมาแล้ว<br /><span style="color:#6666cc;">กิจกรรม</span><br />1. เด็กและครูสร้างข้อตกลงร่วมกันก่อนทำกิจกรรม<br />“การเก็บของเข้าที่”<br />“ดูแลรักษาสิ่งของ ไม่ทำลายข้าวของ”<br />2. ครูแนะนำและสาธิตวิธีการเล่นเกมการศึกษา<br />3. เด็กแต่ละกลุ่มเล่นเกมการศึกษา<br />4. เด็กผลัดเปลี่ยนกันตรวจสอบความถูกต้องของเกมการศึกษาที่เล่น<br />5. เด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่<br /><span style="color:#6666cc;">สื่อการเรียนรู้</span><br />เกมโยงภาพทุ่งนา<br />เกมที่เคยเล่นมาแล้ว<br /><span style="color:#6666cc;">ประเมินผล<br /></span>1. สังเกตการตั้งใจฟังคำแนะนำการเล่นเกม<br />2. สังเกตการเล่นร่วมกับผู้อื่นได้<br />3. สังเกตการสังเกตและจำแนกได้<br />4. สังเกตการเอื้อเฟื้อและรอคอยได้ </div>PIANGRAWEEhttp://www.blogger.com/profile/02293285365271587828noreply@blogger.com1